ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 735

หลังจากเงียบขรึมเป็นเวลา อ๋องรุ่ยก็อดไม่ได้ที่จะเอ่ยปาก

“เสด็จพ่อ พี่ใหญ่เขาคุกเข่าอยู่นอกวังมาค่อนคืนแล้ว เขาสุขภาพไม่ดี เมื่อวานสลบไปนานมาก พูดอีกอย่าง เรื่องเมื่อวานมันแปลกจริงๆ ท่านให้เขาเข้ามาและฟังเขาพูดก่อนดีไหม”

อ๋องเฮ่าพูดต่อว่า “เรื่องนี้แปดในสิบองค์หญิงแห่งหนานจ้าวคนนั้นต้องเป็นคนทำ กลัวว่าพี่ใหญ่จะโดนคนทำร้าย เสด็จพ่อโปรดให้โอกาสพี่ใหญ่อธิบายสักครั้งเถิด”

ฮ่องเต้หลับตาพักผ่อน และขมวดคิ้วตลอดเวลา ไม่รู้ว่าเวียนหัว หรือว่ากลุ้มใจอยู่กันแน่

“วันนี้ สิงซ่างซูเดินทางมา และเล่าความคืบหน้าของคดีความเมื่อวานกับข้าแล้ว เขาบอกว่าน่าจาอี๋นั่วคนนั้นไม่ยอมสารภาพ”

ชิงฮวนก้มหน้าลง นั่งอยู่ข้างเตียงฮ่องเต้ และไม่พูดไม่จา

อ๋องรุ่ยแสดงท่าทีก่อน “น่าจาอี๋นั่วคนนี้อยู่ที่ฉางอันมีเจตนาร้ายเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว อีกทั้งยังจงใจแต่งงานกับพี่ใหญ่ หากบอกว่าไม่มีแผนการร้าย ลูกไม่มีทางเชื่อ”

“เรื่องเมื่อวาน นางหนีไม่พ้นความเกี่ยวข้องแน่ ลูกคิดว่าเสด็จพ่อออกคำสั่งให้กรมอาญากับขุนนางศาลต้าหลี่ทรมานอย่างหนักเพื่อให้สารภาพดีกว่า ไม่เชื่อว่านางรับไหว! ก็แค่ตัวประกันของแค้วนที่แพ้สงคราม ไม่จำเป็นต้องเกรงใจ!”

ฮ่องเต้ลืมตาและมองไปทางเหลิ่งชิงฮวน

ชิงฮวนรู้ว่าฮ่องเต้สงสารอ๋องเซวียน แต่อยากจะหาข้ออ้างออกจากสถานการณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออก

ทุกคนรู้ดี ดังนั้นจึงกล้าขอความเมตตา

“ชิงฮวนก็คิดว่าทำไมเสด็จพ่อถึงไม่เรียกพี่ใหญ่เข้ามาและถามให้ชัดเจนต่อหน้า หากพี่ใหญ่โดนคนทำร้ายจริงๆ ยังไงก็ต้องคืนความบริสุทธิ์แก่เขา”

ฮ่องเต้เลยสั่งให้คนไปเรียกอ๋องเซวียนเข้ามาเหมือนไม่เต็มใจ

อ๋องเซวียนเข้าไปในวังเยี่ยนชิ่ง เขายืดแขนขาที่แข็งและชาออก พอเห็นฮ่องเต้ จึงรีบคุกเข่าลงบนพื้น กัดฟันแน่น คาดว่าหัวเข่าคงจะบวมหมดแล้ว

“ลูกน้อมเคารพท่านพ่อ เสด็จพ่อโปรดลงโทษด้วย”

ฮ่องเต้หลับตาลง ไม่มองเขาเลยสักนิด “เจ้ารู้สำนึกแล้วหรือ”

อ๋องเซวียนผงกหัว “ลูกรู้สำนึก ลูกสมควรตาย”

“ชิงฮวนบอกว่า เจ้าโดนกู่ของคนอื่น เลยสติเลือนราง จึงดุร้ายอย่างกะทันหัน และทำเรื่องไม่เหมาะสม ข้าขอถามว่าเจ้าทราบต้นสายปลายเหตุหรือไม่”

อ๋องเซวียนส่ายหน้า “ลูกไม่ทราบว่าโดนกู่ตอนไหน แต่ลูกเอาหัวเป็นประกันว่าเรื่องวางยาทำร้ายซือเอ๋อร์ ล่อเสือออกจากเขา คิดจะทำร้ายอวิ๋นเช่อในตอนนั้น ลูกไม่รู้รายละเอียดจริงๆ เรื่องทำร้ายเสด็จพ่อเมื่อวาน ลูกก็ไม่รู้เรื่องเช่นกัน”

ฮ่องเต้หันหน้ามาเล็กน้อย “ข้าสั่งให้กรมอาญากับศาลต้าหลี่ไต่สวนน่าจาอี๋นั่วชายารองของเจ้า แต่นางไม่พูดไม่จา และไม่ยอมรับสารภาพ เจ้าคิดเห็นว่าอย่างไร”

อ๋องเซวียนส่ายหน้าอย่างเด็ดเดี่ยว “เรื่องนี้ไม่มีความเกี่ยวข้องกับอี๋นั่ว อี๋นั่วไม่รู้เรื่อง นางพยายามวินิจฉัยโรคให้ลูกตลอด”

“เรื่องมาถึงจุดนี้แล้ว เจ้ายังพูดแทนนางอีกหรือ” นำเสียงของฮ่องเต้แฝงความโกรธเคืองเอาไว้อย่างเลือนราง

“ปกติแล้วพระชายาของลูกกับอี๋นั่วจะแค้นเคืองกัน พูดจามีอคติ ลูกเชื่อว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวข้องกับอี๋นั่ว”

คำพูดนี้ทำให้ฮ่องเต้โกรธทันที พลันชี้อ๋องเซวียน เส้นเลือดบนหลังมือเด่นออกมา แม้แต่ขวดน้ำเกลือที่แขวนเอาไว้บนโครงเตียงยังสั่นอย่างรุนแรง เสียใจไม่เป็นเหล็กกล้า

เรื่องนี้ หากอ๋องเซวียนโยนความผิดทั้งหมดให้น่าจาอี๋นั่ว เขาก็สามารถลบล้างความผิดของตนเองได้ แต่เห็นได้ชัดว่าอ๋องเซวียนไม่เข้าใจความพยายามของฮ่องเต้ นึกไม่ถึงว่าจะปฏิเสธ ไม่เหลือทางหนีทีไล่เลย

“ข้าสั่งให้คนเฝ้าจวนอ๋องเซวียนของเจ้าเอาไว้ ติดต่อกับโลกภายนอกไม่ได้ หากไม่ใช่น่าจาอี๋นั่ว แล้วจะเป็นใคร หรือว่าเจ้าสติเลือนรางเลยบ้าไปแล้ว”

อ๋องเซวียนคุกเข่าอยู่บนพื้น ยืดคอตรง และไม่ยอมคายสิ่งที่อยู่ในปากออกมา

ชิงฮวนถอนหายใจ อ๋องเซวียนเลือดเย็นกับพระชายาเซวียน แต่กลับปกป้องน่าจาอี๋นั่วอย่างสุดกำลัง

ไม่ต้องพูดถึงฮ่องเต้ ขนาดตนเองเห็น ยังคิดว่าอ๋องเซวียนโดนน่าจาอี๋นั่วทำให้สติเลือนรางไปเสียแล้ว

ในที่สุดฮ่องเต้ก็เอ่ยปากว่า “เจ้าอ้ำๆ อึ้งๆ มาตลอด อยากจะพูดอะไรหรือ”

ชิงฮวนรวบรวมความกล้า แล้วเอ่ยปาก “ชิงฮวนพูดแล้ว ท่านอย่าโกรธนะเพคะ แล้วก็อย่าอารมณ์เสียใส่หม่อมฉันด้วย”

“ได้ยินคำนี้ คงอยากจะแสดงท่าทีตรงข้ามกับข้าสินะ พูดมาสิ”

ชิงฮวนไตร่ตรองทุกคำพูด และหาถ้อยคำที่เหมาะสม

“ชิงฮวนคิดว่าคนที่วางพิษกู่อาจจะไม่ใช่น่าจาอี๋นั่ว”

“ตามความเห็นของเจ้าคิดว่าเป็นใคร”

“มีความเกี่ยวข้องกับคนของเสด็จอารองเพคะ”

“เสด็จอารองของเจ้าไม่อยู่แล้ว ดังคำกล่าวว่า เมื่อต้นไม้ล่ม พวกลิงค่างชะนีก็แยกย้ายกันไปคนละทิศละทาง ถึงแม้ว่าคนอื่นจะก่อปัญหา ทำให้เจ้าลำบาก แต่ไม่มีทางมีความปรารถนาอันป่าเถื่อนอะไร พูดอีกอย่าง เสด็จอารองของเจ้าไม่อยู่เมืองหลวงมาหลายปีแล้ว อำนาจของเขาน่ากลัวขนาดนั้นเชียวหรือ”

“แต่เมื่อวานน่าจาอี๋นั่วอยากจะแก้พิษกู่ให้เสด็จพี่ใหญ่จริงๆ นะเพคะ หม่อมฉันไม่เข้าใจวิชากู่ เลยให้ยาพี่ใหญ่ผิด จนทำให้เขาคลุ้มคลั่งอย่างกะทันหัน น่าจาอี๋นั่วจึงทุ่มแรงการแรงใจ รีบเอาพิษแก้พิษทันที”

เดิมฮ่องเต้ไม่ยอมถกประเด็นนี้กับนาง ทำเป็นไม่แยแส พอได้ยินชิงฮวนพูดแบบนี้ จึงลืมตาขึ้นทันที แสงในดวงตาเปล่งประกายไปทั่วทุกแห่ง

“น่าจาอี๋นั่วก็ทำให้เจ้าสติเลือนรางหรือ”

“เปล่าเพคะ”

“ตอนแรกเจ้าไม่ลงรอยกับนางมิใช่หรือ ทำไมถึงพูดแทนนางล่ะ ซ้ำยังใส่ร้ายทักษะแพทย์ของตนเองได้ลงคอ คำพูดของนางเจ้าก็เชื่อหรือ”

“ชิงฮวนไม่ได้พูดแทนน่าจาอี๋นั่ว แค่ไม่อยากให้คนที่อยู่เบื้องหลังรอดพ้นจากการสืบสวน วันหน้าจะรุนแรงกว่าเดิม ดังนั้นจึงพูดตามความจริง”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา