ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 871

อ๋องเฮ่าออกคำสั่งในทันใด เหล่าทหารกรูกันออกไปพร้อมกับกองฟืนแห้ง จากนั้นวางมันไว้บนปากบ่อแล้วราดน้ำมันลงไป

ในบรรดาคนเหล่านั้น เสิ่นหลินเฟิงเป็นคนเดียวที่รับผิดชอบกองกำลังทหาร เขานำราชองครักษ์วิ่งออกไปต่อสู้กับอีกฝ่ายโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของตนเอง

เป็นเรื่องยากที่คนหมู่น้อยจะเอาชนะคนหมู่มากได้ ไม่ต้องพูดถึงว่าอาวุธของคู่ต่อสู้คืนนั้นคือปืนสีเงิน แม้จะเป็นปืนสั้นทว่าเต็มไปด้วยความอันตราย

ในช่วงเวลาวิกฤต เสียงร้องของบางอย่างดังขึ้นบนท้องฟ้า แม้ว่าจะมีเสียงอื่นๆ ดังมากมาย แต่กลับไม่สามารถปกปิดเสียงร้องอันก้องกังวานนั้นได้

มีคนเงยหน้าขึ้นพร้อมกับชี้ไปที่ด้านบนแล้วอุทานเสียงดัง “ดูนั่น ฝูงอินทรีมากมาย!”

ทุกคนมองไปเหนือศีรษะตามเสียงตะโกน และมันก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ อินทรีหลายสิบตัวบินมาจากไหนไม่รู้ในขณะที่พระอาทิตย์กำลังขึ้น แสงทองส่องไปที่ปีกของพวกมัน ทำให้อินทรีเหล่านั้นดูน่าเกรงขามราวกับทหารที่สวรรค์ส่งมาเคลื่อนทัพไปข้างหน้าอย่างกล้าหาญ โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของพวกมันเองเช่นกัน

ทุกคนเคยเห็นห่านป่าบินเป็นฝูง แต่ไม่มีใครเคยเห็นฝูงอินทรีโจมตีเช่นนี้มาก่อน

อินทรีบินโฉบลงมาและมุ่งหน้าตรงไปยังทหารของอ๋องเฮ่า พวกมันใช้กรงเล็บอันแหลมคมและจะงอยปากแข็งๆ ข่วนทหารเหล่านั้นพร้อมกับกางปีกออกหลายฟุต แค่แรงกระเพื่อมในการกระพือปีกก็สามารถทำให้ทหารล้มลงกับพื้นได้อย่างง่ายดาย

ทุกคนตกตะลึง มีเพียงเสิ่นหลินเฟิงเท่านั้นที่เดินต่ออย่างมีความสุขพร้อมกับมองหาร่างเพรียว

เสนาบดีเหลิ่งเป็นคนแรกที่เปล่งเสียงออกมา ถึงแม้จะไม่ดังมากแต่ยังคงมีความน่าเกรงขามอยู่ในนั้น “จักรพรรดิผู้ล่วงลับและบรรพบุรุษกำลังโกรธเคือง! นี่คือสุสานหลวง สถานที่อันสะอาดและบริสุทธิ์ อ๋องเฮ่า ท่านกล้าดีอย่างไรนำทหารเข้ามาทำร้ายพระชายาฉีและบุตรในครรภ์ สวรรค์จะต้องลงโทษ!”

ทันทีที่พูดจบก็เกิดเหตุการณ์ดังที่คาดไว้ ผู้คนขี้ขลาดและหวาดกลัวจำนวนมากเริ่มพูดด้วยความขุ่นเคือง “ใช่ การจุดไฟเผาสุสานหลวงถือเป็นการลบหลู่เกียรติอยู่ถึงที่สุด ห้ามเผา ห้ามเผาโดยเด็ดขาด!”

ยิ่งมีคนแสดงความคิดเห็นมากเท่าไร ยิ่งมีคนเห็นด้วยมากขึ้นเท่านั้น

ในความเป็นจริงเหตุการณ์ตรงหน้าเกินความคาดหมายของอ๋องเฮ่าอย่างมาก

เดิมทีเขาต้องการนำกองกำลังมาที่นี่เพราะตั้งใจจะช่วยพระชายาเฮ่าระเบิดวังใต้ดิน ปล่อยสัตว์พิษร้ายแรงและควบคุมเจ้าหน้าที่พลเรือนและทหารทั้งหมด

น่าเสียดายที่เขามาช้าเกินไป ทิศทางของเรื่องนี้แตกต่างจากที่เขาคิดเอาไว้

เขาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าพระชายาเฮ่าที่อยู่ในวังใต้ดินยังมีชีวิตอยู่หรือตายไปแล้ว

หลังจากถูกสัตว์พิษร้ายแรงกัด คนของเขาถูกนำตัวไปจำคุกภายใต้การดูแลขออ๋องรุ่ย

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือมีสัตว์พิษร้ายแรงนับไม่ถ้วนในวังใต้ดิน หลังจากที่เหลิ่งชิงเฮ่อระเบิดทางเดิน แม้ว่าหินจะปิดกั้นทางออก แต่ก็ไม่ได้ป้องกันไม่ให้สัตว์พิษร้ายแรงเล็ดลอดออกมา

ในความเป็นจริงนั้นสัตว์พิษร้ายแรงมีเพียงไม่กี่ตัวเท่านั้น

นั่นทำให้เขาเริ่มมีลางสังหรณ์แปลกๆ รู้สึกว่าต้องมีบางอย่างเกิดขึ้นกับพระชายาเฮ่า และสัตว์พิษร้ายแรงอาจถูกเหลิ่งชิงฮวนกำจัดไปแล้ว

เหลิ่งชิงฮวน หญิงสาวผู้นี้มีฝีมือดี ทุกอย่างมีความเป็นไปได้ ดังนั้นนางจะต้องตาย! แม้ว่าจะปล่อยสัตว์พิษร้ายแรงออกมาไม่ได้ แต่พระชายาเฮ่าต้องทำทุกวิถีทางไม่ให้เหลิ่งชิงฮวนมีวันเดินออกจากวังใต้ดินทั้งเป็นได้

ยิ่งไปกว่านั้น ยังมีน้ำอยู่ใต้ดิน สัตว์พิษร้ายแรงจึงไม่จำเป็นต้องกลัวไฟ

เมื่อเผชิญหน้ากับอินทรีบินที่บินโฉบลงมาจากท้องฟ้า บวกกับความสงสัยของเสนาบดีเหลิ่งและคนอื่นๆ อ๋องเฮ่าก็โบกมืออย่างเด็ดขาด “ปล่อยธนูไฟ!”

เขากลับมาแล้ว สถานการณ์ในหนานจ้าวทั้งอันตรายและเต็มไปด้วยวิกฤต เขาทำภารกิจสำเร็จลุล่วงตามที่ได้รับมอบหมายจากฮ่องเต้แล้ว เขาได้พิสูจน์ความสามารถและทำสิ่งที่คนอื่นไม่สามารถทำได้สำเร็จ

ฉางอันอยู่ห่างไกลจากหนานจ้าว เมื่อเขารู้ว่าญาติพี่น้องกำลังประสบปัญหา ดังนั้นเขาจึงรีบกลับจากหนานจ้าวด้วยความเร็วทั้งหมดที่มี เมื่อสถานการณ์เขาขั้นวิกฤติที่สุด เขาพร้อมที่จะก้าวออกมาช่วยเหลือผู้คนที่ตกอยู่ในอันตราย

มิตรภาพและความสัมพันธ์เช่นนี้ ต่อให้คนทั้งโลกจะต่อว่าเขาอย่างไร แต่เขาก็ยังมีเหตุผลที่ควรค่าแก่การชื่นชม คิดถึงและอาวรณ์

เสิ่นหลินเฟิงรู้สึกอบอุ่นในหัวใจชั่วขณะหนึ่ง

ฉีจิ่งอวิ๋นเองก็มองเห็นเขาในฝูงชนด้วยเช่นกัน แต่สายตานั้นจับจ้องไปที่ใบหน้าของเขาครู่หนึ่งแล้วจึงหันหลังกลับไป ก่อนจะหันหน้าไปทางซากปรักหักพังที่กำลังลุกไหม้และรีบวิ่งไปอย่างสิ้นหวัง

ในเสี้ยววินาที ชิงฮว่าที่เผชิญกับเหตุการณ์เฉียดตายกำลังอยู่ในภาวะมึนงง

เมื่อนางเห็นหน้ากากผีที่คุ้นเคยก็ตื่นเต้นมากจนมือไม้สั่นไปหมด

นางคิดว่าตนเองกำลังอยู่ในห้องความฝัน จนกระทั่งจิกเล็บลงบนฝ่ามือเพื่อเรียกสติตนเองจึงรู้ว่านี่ไม่ใช่ความฝัน และในตอนนี้นางยังสวมทับเสื้อผ้าของของเขา กลิ่นกายและความปลอดภัยที่ถูกโอบเอวทะยานขึ้นไปบนท้องฟ้าก็เป็นเรื่องจริง

เขาช่วยนางไว้อีกครั้ง โดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัยของตัวเอง นั่นทำให้หัวใจของเด็กสาวเริ่มสั่นไหวอีกครั้ง

นางรีบวิ่งไปที่กองไฟโดยไม่คำนึงถึงความปลอดภัย เพราะต้องการต่อสู้เคียงข้างกับฉีจิ่งอวิ๋นเพื่อช่วยเหลือพี่สาวอีกด้วย

อ๋องเฮ่ายกมุมปากขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะใช้น้ำเสียงอันเฉียบคมออกคำสั่งที่โหดร้ายที่สุดในโลก “ฆ่ามัน!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา