ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา นิยาย บท 881

ผู้ที่ถูกขนานนามว่าลูกพี่เหลียนยิ้มอย่างภาคภูมิใจ “เยี่ยม เยี่ยมๆ ! คราวนี้พวกเราทำงานใหญ่ได้สำเร็จ ยามหาหาให้ตายก็มิพบ พอเลิกสนใจกลับได้มาง่ายๆ เลยจริงๆ ”

ชิงเจียวได้ฟังเช่นนั้น ก็กังวลขึ้นมาทันที เขากำหมัดแน่น ดวงตาทั้งสองข้างแผดเผา ฉวยโอกาสตอนที่มิทันได้ตั้งตัว รีบพุ่งเข้าไปต่อยหน้าลูกพี่เหลียนราวกับเสือตัวน้อย

ลูกพี่เหลียนอับอายจนโมโหขึ้นมาทันที “แม่งเอ๊ย พูดดีๆ มิได้ ต้องให้ใช้กำลัง พวกเรา จับมันมัดไว้!”

ตัวคนเดียวมิอาจสู้คนหลายคนได้ คนเหล่านั้นกรูเข้ามารุมทั้งต่อยและเตะเหลิ่งชิงเจียวก่อนจะเอาเขาไปมัดไว้ให้แน่น

เหลิ่งชิงเจียวขบกรามกัดฟันแน่น และกล่าวโทษด้วยความโกรธ “พวกเจ้ามิใช่มนุษย์หรือไร เขาเป็นแค่เด็กคนหนึ่ง พวกเจ้าก็ยังมิปล่อยไปรึ!”

ลูกพี่เหลียนประหลาดใจเล็กน้อย มองไปทางเหลิ่งชิงเจียวด้วยความแปลกประหลาด “หายากนะ ได้ยินมาว่าแม่ของพวกเจ้ามีความบาดหมางกับเหลิ่งชิงฮวนนั่น เจ้าจะช่วยพูดให้ไอ้เด็กเหลือขอของเหลิ่งชิงฮวนทำไมกัน? มิสนใจชีวิตของแม่เจ้าเองแล้วรึ?”

“เขาไร้เดียงสา เขาเรียกข้าว่าน้า หอมข้า เห็นว่าข้าเป็นญาติ! คนที่ควรชดใช้ชีวิตแม่ของข้าคือพวกเจ้า เขามิเกี่ยว!”

“โถ แยกแยะความรักกับความเกลียดชัง เด็ดเดี่ยวและองอาจผึ่งผาย เยี่ยงชายชาตรีขนาดนี้ เจ้านี่ พวกข้าก็มิเปลืองแรงเปลืองน้ำลายแล้วเช่นกัน เชื่อว่าการงัดปากเด็กมันง่ายเสียกว่าอีก ตบไปสองทีก็ฟังรู้เรื่องแล้ว”

“ข้าขอบอกพวกเจ้าไว้เลยว่า ห้ามพวกเจ้าทำร้ายเขา!”

“แล้วตอนนี้จะบอกได้หรือยัง?”

“ข้าจะบอก พวกเจ้าห้ามบีบบังคับเขาอีก ตราราชลัญจกรฝังอยู่ใต้เตียงของเหลิ่งชิงฮวนที่ตำหนักฉาวเทียน”

ลูกพี่เหลียนหัวเราะเย้ยหยัน “เจ้านี่รู้จักเอาตัวรอดดี”

หลังจากนั้นก็หันกลับไปสั่งชายร่างใหญ่สองคนในนั้น “พวกเจ้าสองคนเอามันไปขังไว้กับจินซื่อ แล้วเฝ้าไว้ให้ดี ถ้ามันพูดมิตรงกัน ก็ฆ่ามันได้เลย”

และสั่งอีกคนหนึ่ง “รีบส่งข่าวไปว่าพระราชลัญจกรซ่อนอยู่ใต้เตียงของเหลิ่งชิงฮวน ให้พวกเขารีบหาให้ทั่ว หาตราราชลัญจกรให้เจอ แล้วเข้าไปมอบให้ให้พระสนมหลินเฟยในวังก่อนที่มู่หรงฉีจะกลับมาที่จวน”

เมื่อออกคำสั่งเสร็จแล้ว ก็โบกมือให้สองคนสุดท้าย “พวกเจ้าตามข้ามา ไปสมทบกับหนิวเอ้อร์ แล้วส่งไอ้เด็กเหลือขอนั่นเข้าวังไปรับรางวัลกันเถอ”

คนเหล่านั้นรีบรับคำสั่ง และเริ่มปฏิบัติอย่างดีอกดีใจ

เหลิ่งชิงเจียวถูกซ้อม ส่วนฉีจิ่งอวิ๋นมิขยับตัว ชีวิตของเหลิ่งชิงเจียวยังมีที่อยู่ของพระราชลัญจกร ซึ่งทั้งหมดนี้มันมิคุ้มค่ากับอวิ๋นเช่อเลย

เขาจำเป็นต้องช่วยอวิ๋นเช่อ จะปล่อยให้อวิ๋นเช่อตกไปอยู่ในมือของพระสนมหลินเฟยและถูกใช้เพื่อข่มขู่ชิงฮวนกับมู่หรงฉีมิได้เป็นอันขาด จะให้มีข้อผิดพลาดมิได้

ในเมื่อลูกพี่เหลียนผู้นี้จะไปสมทบกับคนที่ลักพาตัวอวิ๋นเช่อ จะแหวกหญ้าให้งูตื่นมิได้ จึงมิได้ตามเขาไป แต่ไปช่วยอวิ๋เช่อออกมาก่อน

ส่วนเหลิ่งชิงเจียวผู้นี้ อย่างไรเสียชีวิตของเขาก็มิได้ตกอยู่ในอันตรายในตอนนี้ ให้เขาช่วยตัวเองก็แล้วกัน

คำนวนดูแล้ว เขาจะบุ่มบ่ามมิได้ในตอนนี้ ลูกพี่เหลียนและคนอื่นๆ ก็กลัวธุระจะล่าช้า จึงสั่งให้ขังชิงเจียวเอาไว้ แล้วตัวเขาก็พาลูกกระจ๊อกสองคนจากไปในทันที

ฉีจิ่งอวิ๋นลอบทิ้งเครื่องหมายเอาไว้ และตามหลังทั้งสามคนไปเงียบๆ ราวกับผี หลบซ้ายหลบขวาตลอดทาง จนถึงถ้ำที่มีเถาวัลย์ปิดบังอำพราง

คนที่เพิ่งคาบข่าวมารายงานก็ยกมือขึ้น “ที่นี่แหละ”

พูดพลางแหวกเถาวัลย์ออกแล้วมองไปข้างในก่อนจะชะงัก “เอ๋ เด็กนั่นล่ะ?”

ภายในถ้ำขนาดมิได้ใหญ่นัก เข้าไปเพียงสองคนก็เต็มแล้ว แต่ตอนนี้กลับว่างเปล่า ไร้เงาคนงั้นรึ?

ลูกพี่เหลียนถามขึ้น “เจ้าแน่ใจนะว่าที่นี่”

อวิ๋นเช่อกระพริบตาปริบๆ “เหตุใดเจ้าถึงมีคนลักพาตัวที่ทึ่มเช่นนี้เล่า ยากนะที่เจ้าจะลักพาตัวข้าได้ ควรจะพาข้าไปซ่อนแล้วติดต่อท่านพ่อกับท่านแม่ของข้า ให้พวกเขาเอาเงินมาไถ่ข้า แต่เงินยังมิถึงมือเลย เหตุใดถึงส่งข้ากลับไปล่ะ”

ชายมีอายุอานามใหญ่ขนาดนี้ มินึกเลยว่าจะถูกเด็กปากมิสิ้นกลิ่นน้ำนมสั่งสอน ลูกพี่เหลียนมิพอใจเป็นอย่างมาก

“ข้าจะพาเจ้าไปแลกรางวัลที่วัง!”

“ถ้างั้นทำไมเจ้าถึงมิเคารพข้าหน่อยล่ะ มิเช่นนั้นหากกลับวังไปแล้ว ข้าจะฟ้องเจ้ากับเสด็จปู่ให้ตัดหัวเจ้าซะ อีกอย่าง คุณชายน้อยอย่างข้าหิวแล้ว อยากกินเอ็นเนื้อหมักซอส กุนเชียงของไป๋เว่ยจู เค้กถั่วลันเตา และลูกชิ้นข้าวเหนียวนึ่งของกุ้ยฟางไจ ทั้งหมดต้องร้อนด้วย”

เฮ้ๆ คิดว่าตัวเองใหญ่จริงๆ หรือไง? สิ่งนั้นทำให้ลูกพี่เหลียนโกรธจนควันออกหู

“หุบปาก พวกเจ้าทั้งสองอุดปากมัน จับมันใส่กระสอบแล้วรีบไปซะ อีกเดี๋ยวถ้ามู่หรงฉีรู้เข้า พวกเราจะมิมีผู้ใดออกไปได้แน่ หนิวเอ้อร์ ยืนบื้ออยู่ทำซากอะไรวะ เอาตัวมันมา!”

อวิ๋นเช่อหัวเราะคิกคัก ส่ายข้อมือ “เพราะเขามิกล้าขยับอย่างไรเล่า! ข้าเอาเบี้ยในถุงเงินติดสินบนเขาไว้ แล้วข้าก็ปล่อยเจ้าสามตัวน้อยในถุงเงินออกมาหาเขาด้วย เจ้าสามตัวน้อยดุมากเลยทีเดียวเชียวล่ะ!”

คนเป็นลูกพี่เหลียนผงะมองค้างไปบนแขนเล็กๆ กลมๆ ของอวิ๋นเช่อ แล้วก็มีงูตัวเล็กเรียวยาวสามตัวเลื้อยพันไว้ สีสันสดใส กำลังขู่ฟ่อไปทางเขา ดูเหมือนจะเป็นงูพิษเสียด้วย

มิแปลกใจที่หนิวเอ้อร์จะฟังคำสั่งของเด็กเวรนั่นอย่างว่าง่าย

ลูกพี่เหลียนที่ถืออาวุธอยู่ในมือ มิได้สนใจเจ้าสามตัวน้อยนั่น และออกคำสั่งกับลูกน้องทั้งสองคน “จัดการมัน!”

ลูกน้องทั้งสองอยากลองดูสักตั้ง หนิวเอ้อร์ก็หดคอตัวสั่น

คุณชายน้อยอวิ๋นเช่อย่นจมูกก่อนจะสะบัดข้อมือ งูทั้งสองงอตัวแล้วพุ่งออกไปด้วยความงุนงงราวกับลูกศรสองดอกที่ดีดออกจากเชือก ลูกพี่เหลียนเห็นเพียงเงาสองเงาที่แวบผ่านไป ลูกน้องทั้งสองคนของตนก็ล้มลง “ครืน” ไปบนพื้น ตัวกระตุก น้ำลายฟูมปาก และหมดสติไปในทันที

แม่เจ้า โลกนี้มันมีงูบินได้ด้วยเหรอวะ?

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา