ปัง!ปัง!
เสียงดังสนั่นหวั่นไหว
พระสนมฮุ่ยเฟยตกใจจนสะดุ้งโหยง ทำไมถึงได้เสียงดังขนาดนี้ อีกทั้งยังมีเสียงสะท้อนกลับมา แม้แต่ฝุ่นบนคานก็ร่วงลงมาด้วย
นางหันหน้าไปมองก็เห็นว่าที่ด้านนอกตำหนักมีบรรยากาศที่ไม่สู้ดี มีเสียงอึกทึกดังขึ้น ที่แท้ก็เป็นโฉวซือเส่าที่กำลังมองราชองครักษ์ด้านนอกมุ่งหน้าเข้าไปใกล้ตำหนัก เมื่อเขาเห็นก็ร้อนใจจึงโยนระเบิดฟ้าคำรณออกไปสองลูก
เขาไม่ไว้หน้าพวกนั้นเลยสักนิด พวกนั้นได้คืบจะเอศอกไม่รู้ว่าความเก่งกาจของโฉวซือเส่าเสียแล้ว เมื่อเข้าใกล้ประตูและหน้าต่างเขาก็ยิงธนู เขามีที่ซ่อนที่ไหนกัน
หลังจากที่โยนระเบิดฟ้าคำรณสองลูกออกไปแล้ว เหล่าราชองครักษ์ก็ตกใจจนพากันถอยร่นออกไปและไม่กล้าที่จะเข้ามาอย่างสุ่มสี่สุ่มห้าอีก
และในเวลานี้เองฮ่องเต้ชราก็เปล่งเสียงในลำคอราวกับเขากำลังพ่นลมหายใจออกมา ไม่รู้ว่าเพราะถูกพระสนมฮุ่ยเฟยตีหรือว่าเป็นเพราะเสียงของระเบิดฟ้าคำรณ
ได้ผล?
พระสนมฮุ่ยเฟยลอบมองไปที่ด้านหลัง โฉวซือเส่ากำลังใช้สมาธิทั้งหมดในการจัดการกับทหารของพระสนามหลินเฟยจึงไม่ได้มีเวลามาสนใจเรื่องพวกนี้
ในเมื่อไม่มีใครมาดูก็ดี พระสนมฮุ่ยเฟยมีความกล้าที่จะทำเรื่องชั่วร้ายขึ้นมา นางขึ้นคร่อมบนตัวของชายชราและม้วนแขนเสื้อขึ้น จากนั้นก็ง้างมือขึ้นสูงและเตรียมที่จะออกแรงเพื่อที่จะตบอย่างสุดกำลังอีกครั้ง
ชายชราร้องออกมาทันทีและทนไม่ไหว “หยุดเขย่าได้แล้ว!”
แขนของพระสนมฮุ่ยเฟยที่ง้างขึ้นสูงก็ชะงักไป
จากนั้นฮ่องเต้ชราก็ลืมตาขึ้น “เจ้าคิดจะลอบปลงพระชนม์หรือไง? ถ้าเจ้ายังตีอีกข้าได้ไปจริงๆแน่”
พระสนมฮุ่ยเฟยตกใจจนตัวสั่น นางเหลือบมองฮ่องเต้ชราด้วยใบหน้าแดงระเรื่อ และมองไปยังแขนของตัวเองที่ง้างขึ้นสูงอีกครั้ง นางจึงได้สติในทันที แล้วตบลงบนต้นขาของตัวเอง “เฮ้อ บรรพบุรุษของข้า ในที่สุดท่านก็ฟื้นแล้ว! ถ้าท่านไม่ฟื้นขึ้นมาท่านอาจจะถูกลูกธนูไปแล้วก็ได้”
ฮ่องเต้ชราพยายามนวดขมับของตัวเอง เขายังคงรู้สึกเหมือนจะระเบิดอย่างไรอย่างนั้น “บังอาจ! พูดจาไร้สาระ!”
พระสนมฮุ่ยเฟยถลาลงจากเตียงอย่างรวดเร็วและคุกเข่าบนพื้น “เป็นหม่อมฉันที่บังอาจไปเอง ท่านโปรดมองไปด้านนอกเถิด พระสนมหลินเฟยก่อกบถแล้วเพคะ!”
ฮ่องเต้ชราตื่นเต็มตาทันทีราวกับว่าก่อนหน้านี้เขายังไม่ทันได้สติรู้ตัว คำพูดประโยคเดียวของพระสนมฮุ่ยเฟยเตือนสติเขา เขานึกไปถึงเรื่องราวทั้งหมดก่อนที่เขาจะหมดสติไปทันใดนั้นเขาก็ร้อนรนขึ้นมา
“เกิดเรื่องอะไรขึ้น? ใครก่อกบถ? แล้วฉีเอ๋อร์ล่ะ?”
ชายชรายังจำเรื่องนี้ได้อยู่นี่ พระสนมฮุ่ยเฟยพูดย้ำขึ้นว่า “ฉีเอ๋อร์ไม่เป็นอะไรเพคะ พวกชิงฮวนเองก็ปลอดภัย ตอนนี้คนที่อยู่นอกวังกำลังจะมาช่วยฝ่าบาทเพคะ! พระสนมหลินเฟยขังพวกเราไว้ในวังเยี่ยนชิ่ง นางออกคำสั่งให้ยิงธนูกะให้พวกเราตายเพคะ”
ในที่สุดสติสัมปชัญญะของฮ่องเต้ชราก็ฟื้นคืนมา เขาผุดลุกขึ้นเสียงดัง
“หยุด! ข้าสั่งหยุด!”
ถึงแม้ว่าธนูจะยิงมาหลายวันแล้ว ของดีอย่างโสมและรังนกชายชราก็ไม่ได้ดื่มไปน้อยลง เสียงของเขาจึงดังมาก
ห่าลูกธนูทั้งหมดก็หยุดลงทันที
โฉวซือเส่าหันหน้ามามองพร้อมเข่นเขี้ยวเคี้ยวฟัน “ฝ่าบาทท่าฟื้นเสียที ท่านนอนหลับมีความสุขมากจนเอาพวกเราแทบแย่เลยพ่ะย่ะค่ะ”
ชายชราหรี่ตาลง “โฉวซือเส่า?”
“โอ้! ฝ่าบาททรงปรีชา ดวงตาอันหลักแหลมราวกับคบเพลิงของท่านไม่ธรรมดาเลย แค่มองก็กระหม่อมได้”
ชายชราส่งเสียงคำรามในลำคออย่างไม่ไว้หน้าเลยสักนิด “ผู้ชายที่ดูเหมือนผู้หญิง พูดจาพลิกลิ้นไปเรื่อง ถ้าไม่ใช่เจ้าแล้วจะเป็นใคร”
เมื่อครู่นี้ตอนที่นางกำลังลงไม้ลงมือกับชายชราอยูนั้นนางก็ได้กระชากผ้าโพกศีรษะออกไป ดูเหมือนว่าจะทำให้มันหลุดไปพอดีจึงทำให้ชายชราฟื้นขึ้นมาได้
“ถึงว่าสิพระสนมหลินเฟยทำดีหวังผล จู่ๆนางก็ส่งผ้าโพหศีรษะเข้ามาในวัง ที่แท้ตอนนั้นนางก็มีใจไม่ซื่อแล้ว!”
เหมือนกับกำลังตบหน้าชายชราอย่างเงียบๆ
ในตอนนั้นตัวนางโกรธชายชราไม่น้อยเพราะผ้าโพกศีรษะนี้ เขาใส่มันราวกับสมบัติล้ำค่าและจงใจทำให้นางโมโห สมน้ำหน้า
ฮ่องเต้ชรากระแอมออกมาเล็กน้อย เขาไม่มีหน้าจะไปเอาเรื่องกับพระสนมฮุ่ยเฟย
“พระสนมหลินเฟยอย่างเจ้า ใช้ได้เลยนี้ ข้าคิดไม่ถึงจริงๆว่าจะถูกกลอุบายของเจ้าเข้า”
พระสนมหลินเฟยยืนอยู่หน้าตำหนัก นางเชิดคางขึ้นด้วยใบหน้าเย่อหยิ่ง
“ถ้าเป็นข้าแล้วอย่างไรกันเพคะ? ทำไมข้าถึงต้องก่อกบฏข้าคิดว่าท่านน่าจะรู้ดีอยู่แล้ว วันนี้ท่านอยู่ในกำมือของข้าแล้วยังจะมาโอ้อวดถึงความเป็นฮ่องเต้กับข้าอีกรึ?”
ฮ่องเต้ชราค่อยๆกวาดสายตาไปยังเหล่าทหารฝ่ายต่างๆ “อ๋องฉี ตอนนี้เขาอยู่ที่นอกวัง ข้าคิดว่ากองทัพของเขาจะมาถึงแล้ว พวกเจ้าแน่ใจนะว่าจะยอมทำชั่วและก่อกบฏกับผู้หญิงบ้าคนนี้?”
“พวกเจ้าอย่าไปฟังคำยุยงของเขา ต่อให้ตอนนี้พวกเจ้าวางอาวุธในมือลงเขาก็ไม่มีทางปล่อยพวกเจ้าไป ทางรอดเดียวของพวกเจ้าก็คือจับเขาเอาไว้เพื่อให้อ๋องฉีถอยทัพไป!”
“แล้วจากนั้นล่ะ?” ฮ่องเต้ชราพูดแทงใจดำขึ้นว่า “เพียงแค่พวกเจ้าจะสามารถต้านทานกำลังของอ๋องฉีได้หรือ? ในมือของอ๋องฉีมีตราพระราชลัญจกรกับราชโองการลับจากข้า ทุกอย่างแล้วแต่ฟ้าลิขิต ถ้าหากพวกเจ้ากล้าทำร้ายข้าการโจมตีทำลายวังหลวงก็เหมือนกับการกระดิกนิ้วเท่านั้น
ส่วนพวกเจ้าต้องหนีไปไกลแสนไกล ทำได้แค่ต้องตายจากไปและไม่มีหน้าไปพบบรรพบุรุษได้อีก! ข้าพูดคำไหนคำนั้น ขอเพียงแค่พวกเจ้าวางอาวุธลงและหันอาวุธเข้าหานางปีศาจและจับกุมนางเอาไว้แทน ข้าจะเว้นโทษให้กับพวกเจ้า!”
คำพูดของฮ่องเต้ชรานั้นได้ผลมาก ทุกคนมองหน้ากันไปมาอย่างลังเล
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติเวลามาเป็นชายา
แอดขาาาาาา หนีเที่ยวพอหรือยัง มาต่อให้จบบบบบบ...
แอดขาาาาาา 794 และ 797 ตกหล่นหายไปคะแอด ช่วยเก็บมาหน่อยคะ คิคถึงงงงงงงงงง...
แอดขาาาาาา ตอน794และ797 หายไปคะ แอดทำตกหล่นช่วยเก็บกลับมาหน่อยคะ...
อยากทราบว่ามีทั้งหมดกี่ตอนคะ....
หยุดนานแล้วนะคะ ผู้เขียน มีอัพเดทต่อไหมคะ...
ขอบคุณทุกๆๆคนนะคะที่มาบอก แต่พอให้เตรียมทิชชู่นี่ปวดตับ ปวดใจก่อนล่ะ...
อยากรู้จังว่าพระเอกรู้ความจริงว่าผู้หญิงในคืนนั้นเป็นนางเอกตอนไหนคะ ใครอ่านแล้วบอกหน่อยค่ะรบกวนสปอยหน่อยยย...
ขอบคุณนะคะที่หานิยายสนุกๆๆมาให้อ่าน จะรออ่านทุกวันค่ะ...
ขอบคุณมากๆค่ะที่อัพเดทต่อจะตั้งใจอ่านต่อไป...ตอนเรียนยังไม่ตั้งใจขนาดนี้🤗😘😄😅😊...
อย่าเท..กลางทาง..นะแอดนะ😁😁😁...