ในห้องทางทิศตะวันออก ซูหวั่นนอนพิงอยู่บนเตียงอิฐไฟ โดยภายใต้ผ้าห่มสีเทายังมีฟางแห้งรองเอาไว้อีกหนึ่งชั้น
โดยที่นางหลี่ได้นั่งอยู่บนขอบเตียงพร้อมกับดึงผ้ามาห่มให้กับนางด้วยความห่วงใย ซึ่งนางก็ยังจำได้ว่าก่อนหน้านี้ซูหวั่นได้บ่นบอกว่าหิว“อาหวั่น แม่จะไปทำกับข้าวนะ ประเดี๋ยวจะเอาโจ๊กมาให้เจ้า”
ซูหวั่นเงียบไปสักพัก
เพิ่งจะทะเลาะกับแม่เฒ่าเซี่ยงมาหยกๆ และครอบครัวนางก็ไม่เป็นที่โปรดปรานด้วย แล้วจะมีข้าวเย็นกินได้อย่างไรกัน
หากนางหลี่ไปในห้องครัวคาดว่าจะต้องถูกรังแกทุบตีและต่อว่าเป็นแน่ แต่หากไม่ยอมให้นางหลี่ไป ด้วยนิสัยที่ซื่อๆของนางหลี่นั้น นางก็คงจะไม่ยอมอย่างแน่นอน
“ท่านแม่ ระวังตัวด้วยนะคะ”
ขอบตาของนางหลี่บวมแดง นางรีบพยักหน้าหงึกหงักแล้วตอบรับกลับไปว่า“อืม แม่รู้แล้วล่ะ”
หลังจากที่นางหลี่ออกไปแล้ว ซูหวั่นก็ผล็อยหลับไปอีกครั้ง
และดูเหมือนว่านางจะเข้าไปสู่พื้นที่แห่งภาพลวงตาแห่งหนึ่งเสียแล้ว
โดยที่ด้านในเต็มไปด้วยสวนผลไม้และพืชสมุนไพร ซูหวั่นรู้สึกปลื้มปีติเป็นอย่างมาก โดยที่ยังคงมีความไม่เชื่ออยู่เล็กน้อย นี่มันเป็นสถานที่ที่นางเคยทำงานวิจัยผลิตภัณฑ์ไม่ใช่เหรอ
และมันก็ตามนางมาเช่นกันอย่างนั้นเหรอ!
นางจึงเดินค้นหาไปรอบๆ และค้นเจอยาแก้อักเสบ จากนั้นก็ไปยังสวนผลไม้เพื่อเก็บมากินอีกสองสามผล
โดยที่ในตอนนี้พื้นที่ยังไม่ใหญ่มาก แต่ว่ามันสามารถขยายใหญ่ออกไปได้อีก
นอกจากบ้านและสวนผลไม้แล้ว ยังมีแม่น้ำอยู่อีกหนึ่งสาย เพียงแต่ว่าในแม่น้ำนั้นยังไม่มีกุ้งหอยปูปลา และพื้นที่แห่งนี้ก็เงียบสงบมาก
หลังจากอิ่มหนำสำราญแล้ว นางก็พอจะมีเรี่ยวแรงขึ้นมาบ้าง ดังนั้นนางจึงลงไปอาบน้ำชำระล้างร่างกาย และรู้สึกสบายไปทั้งตัว
หลังจากที่ร่างกายเกือบจะฟื้นตัวอย่างเต็มที่แล้ว
นางถึงได้เดินออกจากพื้นที่แห่งนี้ไป
นางผลักเปิดประตูออกไป จากนั้นก็เรียกซูลิ่วหลางที่กำลังนั่งเหม่อลอยอยู่ข้างนอกให้เข้ามา ยื่นลูกท้อให้เขาแล้วพูดว่า“พี่เก็บลูกท้อลูกนี้มาจากภูเขา เจ้าเอามันไปกินในห้องเถอะ แล้วอย่าบอกให้ใครรู้นะ”
“ท่านพี่?”
ซูลิ่วหลางรู้สึกมึนงงขึ้นมาเล็กน้อย และถือลูกท้อเอาไว้ในมือโดยไม่ได้กินแต่อย่างใด“แล้วมีให้ท่านแม่หรือเปล่าครับ?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ทะลุมิติมาเป็นสาวชาวนา