วิสารทแพทย์เทวัญ นิยาย บท 1071

เยี่ยชิวอุทานออกมาด้วยความประหลาดใจ เพราะเขาพบว่าตำหนักที่หกนั้นแตกต่างออกไป

อันดับแรก ตำหนักนี้มีขนาดเล็กมาก

ถึงแม้ว่ารูปแบบสถาปัตยกรรมจะเหมือนกับตำหนักอื่นๆ แต่ตำหนักนี้ดูเหมือนบ้านหลังเล็กๆ มันมีที่เพียง สองร้อยตารางเมตรเท่านั้น ดังนั้นเป็นธรรมดามากถ้จะรู้สึกว่ามันมีขนาดเล็ก

อันดับที่สอง ไม่มีป้ายแผ่นทองสัมฤทธิ์แขวนอยู่เหนือทางเข้าหลักของตำหนักนี้

ตำหนักทั้งห้าก่อนหน้านี้นั้นล้วนมีป้ายแผ่นทองสัมฤทธิ์เขียนบอกไว้ว่าแต่ละตำหนักคืออะไร แต่ตำหนักกลับนี้ไม่มี

มันช่างดูผิดปกติมาก

เยี่ยชิวยืนอยู่นอกประตู เขารู้สึกหนักแน่นว่าจะต้องมีสมบัติล้ำค่าในตำหนักนี้

“มันจะเป็นอะไรกันนะ?”

เยี่ยชิวตอนนี้นั้นทั้งรู้สึกตื่นเต้นและอยากรู้อยากเห็นมนเวลาเดียวกัน จากนั้นเขาก็ยื่นมือออกไปเปิดประตู

คาดไม่ถึงเลยว่า ทันทีที่มือของเขาจับไปที่ประตู อยู่ๆก็มีลมพัดแรงมหาศาลเกิดขึ้น

เยี่ยชิวไม่ทันได้ระวังถูกลมนั้นพัดเขาลอยออกไปไกลกว่าสิบเมตรและตกลงมาอย่างแรง ตอนนี้เขามีเลือดไหลออกมาจากมุมปาก

และเจ็บที่ช่วงหน้าอกราวกับมีเลือดพุ่งพล่านในนั้น

พลังที่ตีเขาออกมาเมื่อสักครู่นี้นั้น มันมีพลังราวกับผู้ฝึกฝนพลังชี่เเท้ที่เจ็ดเลย ช่างร้ายกาจมาก

เยี่ยชิวไม่เพียงแต่จะไม่รู้สึกกลัวแล้วนั้น เขากลับรู้สึกตื่นเต้นขึ้นมาอีกต่างหาก

ยิ่งเข้าประตูยากก็ยิ่งแปลว่ามีสิ่งดีอยู่ข้างใน

เยี่ยชิวรีบลุกขึ้นจากพื้น จากนั้นลืมตาขึ้นและมองไปที่ประตู

เขาต้องการที่จะรู้ว่าพลังเมื่อกี้นี้มาจากไหน?

วินาทีต่อมา ดวงตาของเยี่ยชิวก็เปล่งแสงสีทองออกมา มันสว่างราวกับทองคำยังไงอย่างนั้น

วินาทีต่อมา แสงสีทองก็ปรากฏขึ้นในดวงตาของ Ye Qiu สว่างราวกับทองคำ

ไม่เพียงแต่ประตูเท่านั้น แต่ยังรวมถึงชั้นนอกของตำหนักทั้งหมดที่เปล่งแสงสีทองออกมา

ชั้นแสงสีทองนี้บดบังการมองเห็นของเยี่ยชิวโดยสิ้นเชิง ทำให้ดวงตาสวรรค์ของเขาไม่สามารถมองผ่านได้

สิ่งที่น่าแปลกก็คือ เมื่อเยี่ยชิวเก็บดวงตาสวรรค์ของเขาแล้วมองใหม่ เขาก็เห็นมันเพียงตำหนักธรรมดาเล็กๆเท่านั้น

“ชั้นแสงสีทองนี้คืออะไรกันนะ?”

“ผนึกงั้นหรอ?”

“หรือจะเป็นค่ายกล?”

เยี่ยชิวใช้ดวงตาสวรรค์ของเขาอีกครั้ง และจ้องไปที่ตำหนักนั้น นอกจากชั้นแสงสีทองพวกนั้น เขาก็ไม่เจออะไรที่ผิดปกติ

หลังจากนั้น เขาก็รวมพลังชี่เเท้ไว้ที่ปลายนิ้วของเขา และดันไปที่ประตูเบาๆ

“ปัง!”

เยี่ยชิวถูกกระแทกลอยออกไปอีกครั้ง

แต่ทว่า ครั้งนี้เยี่ยชิวนั้นได้เตรียมความพร้อมมาแล้ว เขาจึงไม่ได้รับบาดเจ็บแต่อย่างใด

“บ้าเอ๊ย นี่มันบ้าอะไรเนี่ย”

เยี่ยชิวรู้สึกงุนงง และในเวลาเดียวกัน เขาก็เสียดายที่ไม่ได้พาอมตะชางเหม่ยมาด้วย

“ถ้าตาเฒ่าอยู่ที่นี่ เขาอาจจะบอกอะไรบางอย่างได้ก็ได้”

“ไม่ใช่สิ ตอนนี้ตาเฒ่านั้นตาบอดมองอะไรไม่เห็น”

“ฉันจะเปิดประตูนี้ได้ยังไง”

เยี่ยชิวคิดอย่างหนัก

เขาคิดอยู่สักพักแต่ก็คิดหาวิธีไม่ได้

“ช่างมัน ในเมื่อไม่มีทางอื่นแล้วก็ใช้กำลังพังเขาไปแล้วกัน”

“ลืมมันไปเถอะ เนื่องจากไม่มีทางอื่น แค่ใช้กำลังอันดุร้ายเพื่อเปิดประตู” เยี่ยชิวหายใจเข้าลึก ๆ และเริ่มใช้วิชามังกรศักดิ์สิทธิ์เก้าชั้นเชิงของเขา เขากำหมัดขวาไว้แน่น จากนั้นเขาก็ต่อยไปที่ประตูอย่างแรง

“บูม!”

ทันทีที่หมัดของเขาชกไปที่ประตู พลังมังกรนั้นก็ตีกลับใส่เขา และทำให้เขานั้นกระเด็นออกไปอีกครั้ง

เย่ชิวตีลังกากลับหลังเล็กน้อยและร่อนลงบนพื้นอย่างราบรื่น จ้องมองที่ตำหนัก รู้สึกกังวลอยู่พักหนึ่ง

“จะทำยังไงดี”

ในขณะที่เขากำลังร้อนใจอยู่นั้น เขาก็คิดออกวิธีหนึ่ง

“ทำไมข้าถึงลืมวิชาหารหายตัวไปกันนะ ในเมื่อพังประตูเข้าไปไม่ได้ ทำไมไม่หายตัวเข้าไปล่ะ?”

นี่เป็นภาชนะเฉียนคุนชิ้นที่สามที่เยี่ยชิวได้เห็นแล้ว

ภาชนะเฉียนคุนชิ้นแรกเป็นของขวัญการประชุมที่จางเทียนซือมอบให้กับเขา และภาชนะเฉียนคุนชิ้นที่สองถูกพบในห้องสมบัติของปู่ของสวีชางจิน เขาไม่คาดคิดว่าจะมีภาชนะเฉียนคุนชิ้นที่สามอยู่ในห้องลับนี้ด้วย

“ภาชนะเฉียนคุนถูกวางไว้ในสถานที่ที่ซ่อนอยู่ ซึ่งแสดงให้เห็นว่าสำหรับหลงอีแล้ว มันเป็นสมบัติล้ำค่าอย่างมากแน่นอน”

“แล้วภาชนะเฉียนคุนนี้มันมีอะไรพิเศษกันแน่”

เยี่ยชิวไม่ได้คิดอะไรมาก ก็เปิดกล่องไม้กล่องที่สอง

มีกริชอยู่ในกล่องนั้น

กริชเล่มนี้ยาวมากกว่าสี่ฟุตยาวกว่าดาบธรรมดาฝักไม้สีแดงเข้มมีรอยแตกร้าวอยู่

แน่นอนว่านี่คือกริชโบราณ

เยี่ยชิวหยิบกริชออกจากกล่องไม้ จับด้ามและดึงมันออกมาด้วยแรง

“อ้า!”

เมื่อกริชนั้นถูกชักออก ก็มีเหมือนเสียงคำรามของมังกรดังออกมา ตัวกริซนั้นมีเปล่งแสงออกมามันช่างเย็นชาซะเหลือเกิน

“นี้มันกริชอะไรกัน!”

เยี่ยชิวถึงกับร้องอุทานเมื่อมองลงไปที่กริชนั้น เขาพบว่าเขามีความรู้สึกเหมือนยืนอยู่บนยอดเขาและมองลงไปในเหวที่ไร้ตัวตนและลึกซึ้ง

ทันใดนั้น เยี่ยชิวก็ค้นพบว่ามีอักขระผนึกเล็ก ๆ สองตัวบนดาบ เขามองดูพวกเขาสักพักก่อนจะจำอักขระทั้งสองได้

“หลงหยวน?”

เยี่ยชิวนั้นรู้สึกสับสนในตอนแรก จากนั้นหัวใจของเขาก็สั่นสะท้าน

“เป็นไปได้ไหมว่านี่คือกริชหลงหยวนเจ็ดดาว หนึ่งในสิบดาบที่มีชื่อเสียงที่สุด?”

ตามตำนานเล่าว่ากริชหลงหยวนเจ็ดดาวนั้ยถูกสร้างขึ้นดโดยช่างตีดาบระดับปรมาจารย์อาจารย์โอวไท่จือกับเฉียนเจียน ซึ่งอยู่ในอันดับที่ห้าในบรรดากริชที่มีชื่อเสียง

ในช่วงฤดูใบไม้ผลิและฤดูใบไม้ร่วง นายพลผู้โด่งดังหวูจือซูถูกคนทรยศล้อม เขาจึงหนีไปที่แม่น้ำและโชคดีที่มีชาวประมงช่วยเขา ไว้ได้ หวูจือซูกลัวว่าชาวประมงจะทรยศต่อเขา ดังนั้น เขาจึงมอบกริชหลงหยวนให้กับชาวประมง ชาวประมงนั้นบริสุทธิ์ใจและเพื่อความสบายใจเขาจึงฆ่าตัวตายด้วยกริชนี้ ดังนั้นมันจึงเป็นสัญลักษณ์ของความจริงใจกริชหลงหยวนจึงถูกเรียกว่ากริชแห่งความซื่อสัตย์และความบริสุทธิ์

ความอยากรู้อยากเห็นของเยี่ยชิวนั้นถูกกระตุ้นขึ้น กล่องไม้สองกล่องบรรจุสมบัติที่มีเอกลักษณ์ขนาดนี้ แล้วจะมีสมบัติชนิดแบบไหนที่จะอยู่ในกล่องไม้ที่สามล่ะ?

เมื่อเข้าก้าวเดินเข้าไป

เยี่ยชิวเปิดกล่องไม้กล่องที่สาม

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ