เดิมทีอมตะชางเหม่ยต้องการที่จะสาธิตให้เยี่ยชิวดู แต่เขาคิดไม่ถึงเลยว่าถนนที่ทำจากไม้กระดานนั้นจะมีสภาพที่ทรุดโทรมมาหลายปีและถูกลมและฝนกัดกร่อนอย่างมาก
ทันทีที่เขาลุกขึ้น ไม้กระดานใต้เท้าของเขาก็พังลง
“บูม!”
อมตะชางเหม่ยตกจากถนนไม้กระดานและล้มลงกับพื้น เขารู้สึกเจ็บปวดอย่างรุนแรงไปทั่วทั้งร่างกาย
“เจ้าเด็กเหลือขอ ไอ่คนไร้หัวใจ ยังไม่รีบพยุงข้าขึ้นอีก ข้าเจ็บไปหมดแล้ว”
อมตะชางเหม่ยต่อว่าเยี่ยชิวไม่หยุด:“ข้าบอกเจ้าแล้ว ว่าอย่ามาภูเขาซู พวกเราอาจจะมีอันตรายถึงชีวิต เจ้าก็ไม่ยอมฟังยืนกรานที่จะมา ข้าเกือบตายแล้วไหมล่ะ”
เยี่ยชิวพูดด้วยท่าทางดูถูก:“ตาเฒ่า เจ้าเป็นถึงขั้นเคารพชั้นสูงแต่กลับล้มลงแบบนี้ ข้าละรู้สึกอับอายแทนเจ้าจริงๆ”
“เฮ้เฮ้ ข้าแค่ล้อเล่นกับเจ้าเฉยๆ จริงๆแล้วข้าแค่อยากจะลองดูเฉยๆว่าขั้นเคารพชั้นสูงเมื่อตกลงมาจะได้รับบาดเจ็บหรือไม่?”
อมตะชางเหม่ยลุกขึ้นจากพื้นพร้อมพูดขึ้นว่า:“เจ้าเด็กเหลือขอ ขอบอกไว้ก่อนว่าเนื้อหนังมังสาของขั้นเคารพชั้นสูงนั้น......ลืมมันเถอะ ข้าไม่พูดแล้ว ยังไงพูดไปเจ้าก็ไม่เข้าใจ”
“รอให้เจ้าขั้นเคารพชั้นสูงก็ เดียวเจ้าก็จะรู้เอง”
เยี่ยชิวหัวเราะ:“ฮิฮิ..”
“เอาล่ะ ไปกันเถอะ!”หลังจากที่อมตะชางเหม่ยพูดจบเขาก็พุ่งตัวออกไปและร่อนตัวลงบนถนนไม้กระดานอีกครั้ง
ครั้งนี้เขาระมัดระวังมาก และเดินอย่างช้าๆ เพื่อไม่ให้เกิดอุบัติเหตุอีก
อยู่ๆเยี่ยชิวตะโกนดังจากด้านล่าง:“ตาเฒ่า ถ้าเดินด้วยความเร็วแบบเจ้า เราคงต้องใช้เวลาอีกหลายวันหลายคืนเลยกว่าจะไปถึงภูเขาซู เดินเร็วกว่านี้หน่อยได้ไหม”
อมตะชางเหม่ยพูดอย่างไม่พอใจ:“เจ้าคิดว่าข้าไม่อยากเดินเร็วๆหรอ ไม้กระดานนี้มันเดินยาก เจ้าลองเดินดูแล้วจะรู้”
ฟืด!
เยี่ยชิวใช้ทะยานบันไดเมฆา ร่างกายของเขากำลังเหยียบลงบนหน้าผา และในไม่ช้าก็มีถนนไม้กระดานปรากฏ
ถนนไม้กระดานนั้นแคบและชันมาก แต่สำหรับผู้เชี่ยวชาญอย่างเยี่ยชิวแล้วนั้น ก็ไม่ใช่ปัญหาแต่อย่างใด
“บูม!”
เยี่ยชิวเหยียบเบาๆลงบนกระดานไม้ด้วยเท้าของเขา และบินไปในอากาศสูงหลายสิบฟุต และเคลื่อนไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว
ในชั่วพริบตาร่างนั้นก็หายไป
“ให้ตายเถอะ เจ้าเด็กเหลือขอนี้ ระดับพลังยุทย์ก็ไม่ได้แกร่งเท่าข้า แต่กล้ามาอวดดีต่อหน้าข้า เดียวข้าจะแสดงพลังที่แท้จริงของข้าให้เจ้าดู”
อมตะชางเหม่ยพูดออกมาอย่างเย็นชา เขาก้าวไปข้างหน้าข้ามไปราวหลายสิบฟุต และตามเยี่ยชิวอย่างรวดเร็ว
ถนนไม้กระดานทอดยาวไปตามหน้าผาและเลี้ยวนับพันครั้ง น่าตื่นเต้นมาก
ถนนไม้กระดานเริ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ และในขณะนั้นเองก็มีเมฆหมอกหนาเกิดขึ้น ในขณะที่เยี่ยชิวและอมตะชางเหม่ยเดินอยู่นั้นก็รอบข้างเต็มไปด้วยเมฆหมอก ราวกับว่าพวกเขาอยู่ในแดนสวรรค์
เดินมาครึ่งชั่วโมง
ในที่สุด ห้องใต้หลังคาอันแปลกตาก็ปรากฏขึ้นตรงหน้าพวกเขา
ศาลาแห่งนี้ใช้หน้าผาเป็นดาบ และชายคา เป็นศาลา ภูเขาดาบขนาดใหญ่และเล็กทั้งสองข้างทอดยาวหลายร้อยไมล์ หินขนาดใหญ่ เช่น มีดและขวานทอดยาวจากทิศตะวันออกเฉียงเหนือไปทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ ก่อให้เกิดสิ่งกีดขวางที่น่าเกรงขามและผ่านไม่ได้
เหนือประตูห้องใต้หลังคามีแผ่นจารึกแนวนอนซึ่งมีคำจารึกอยู่
“ศาลาดาบภูเขาซู!”
อมตะชางเหม่ยยิ้มและพูดว่า:“เจ้าเด็กเหลือขอ หากเจ้าข้ามผ่านศาลาดาบภูเขาซูไปได้ จากนั้นจะเป็นภูเขาซุของจริง”
“แล้วจะรออะไรอยู่ล่ะ ไปกันเถอะ!” เยี่ยชิวพูดจบก็เดินเข้าไปในศาลาดาบภูเขาซู
จริงๆ แล้วศาลาดาบภูเขาซูที่เรียกว่าเป็นทางผ่านโดยไม่มีอะไรอยู่ข้างในเลย
เยี่ยชิวและอมตะชางเหม่ยผ่านศาลาดาบภูเขาซูได้อย่างง่ายดาย และเมื่อพวกเขามองไปรอบ ๆ พวกเขาก็เห็นยอดเขาขนาดใหญ่ยืนอยู่ตรงหน้าพวกเขา
ยอดเขาทุกลูกว่างเปล่าและเต็มไปด้วยหญ้า ราวกับดาบวิเศษที่แทงทะลุท้องฟ้า
เยี่ยชิวค้นพบว่ายอดเขาทุกลูกที่นี่มีความโดดเด่นที่ไม่มีใครเทียบได้
อมตะชางเหม่ยพูดว่า:“ตำแหน่งที่เราอยู่ตอนนี้เป็นเพียงขอบภูเขาซูเท่านั้น”
“ถ้าอยากไปใจกลางของภูเขาซู ก็จะเห็นอยู่อาศัยของผู้ฝึกฝนดาบในตอนนั้น”
“หากเราโชคดีล่ะก็ บางทีเราอาจยังสามารถหาสมบัติได้อีกด้วย อย่างไรเสียที่นี้ก็เคยมีนักดาบที่ทรงพลังมากมาย”
เยี่ยชิว:“ไปกันเถอะ!”
“ไม่ต้องรีบ ให้ข้าหาทิศทางก่อน”เมื่ออมตะชางเหม่ยพูดจบ เขาก็หยิบเข็มทิศออกมาจากแขนเสื้อของเสื้อคลุมลัทธิเต๋า และก็พูดว่า:“เจ้าเด็กเหลือขอ ตามข้ามา”
เยี่ยชิวติดตามอมตะชางเหม่ยไป และทั้งสองมุ่งหน้าไปทางเหนือ
ทั้งคู่เดินไปประมาณครึ่งชั่วโมง
“เฮือก——”
ทันใดนั้น พลังงานหยินก็ระเบิดเข้าใส่พวกเขา ทำให้พวกเขายืนนิ่ง
“บ้าเอ๊ย ทำไมมันหนาวอย่างนี้”
อมตะชางเหม่ยเตือนว่า: “เจ้าเด็กเหลือขอ ข้ามีความรู้สึกอะไรแปลกๆ”
ในความเป็นจริง แม้ว่าอมตะชางเหม่ยจะไม่พูดอะไร เยี่ยชิวก็รับรู้ได้ถึงบางสิ่งบางอย่าง
ด้วยระดับการฝึกฝนของเขาและอมตะชางเหม่ยในตอนนี้ พลังงานหยินแค่นี้ไม่สามารถทำให้พวกเขารู้สึกหนาวได้เลย แต่พลังงานหยินที่นี่ทำให้เยี่ยชิวรู้สึกเหมือนผมของเขาตั้งชัน
ทั้งสองคนก็เดินทางต่อไป
เดินไม่กี่นาที
จู่ๆ อมตะชางเหม่ยก็หยุดเดินและพูดด้วยน้ำเสียงทุ้ม: “เจ้าเด็กเหลือขอ มองไปข้างหน้าสิ”
เยี่ยชิวมองไปข้างหน้า และทันใดนั้นก็สูดลมหายใจเข้า: “เฮือก——”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ
เรื่องนี้มีเติมเงินอ่านไหมครับ แนะนำหน่อย...
ทำไมลงวันละตอนแล้วครับ ช่วยชี้แจงหน่อยครับ...
ทำไมช่วงนี้ลงวันละตอนล่ะครับอีกอย่างช่วงแรกได้อ่านตั้งแต่7โมงเช้าแต่พอลงตอนเดียวต้องอ่านตอน3โมงเย็น...
ไอ้ชิบหาย มีแต่หน้าเปล่าๆมา3วันแล้ว พอๆเลิกอ่านบล็อคแม่งออกเลย หนังสือที่อื่นมีอ่านเยอะแยะ...
หลังๆทำไมลงแต่หน้าเปล่า ไม่มีตัวหนังสือสักตัว...
จะอ่านบท1611-1616ยังใงคับ...
ตอนที่ 267 - 301 มีแค่ 2-3 บรรทัดเองรบกวนแก้ไขให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ...
อยากอ่านจนจบเรื่องทำไงบ้างครับ...
ฮาเร็มไหมครับ...
ทำไมตอนที่267มันมีน้อยจังอะ...