เมื่อเยี่ยชิวได้ยินคำเตือนจากอมตะชางเหม่ย เขาเงยหน้าขึ้นและมองไปข้างหน้า และทันใดนั้นก็สูดอากาศเข้าไป
เบื้องหน้าพวกเขา มีสุสานขนาดใหญ่ปรากฏขึ้น
หลุมศพมีการถูกวางต่อกันอย่างใกล้ชิดและแน่นหนา แถมยังมีวัชพืชขึ้นรกและทรุดโทรมมาก
อย่างน้อยก็มีนับพัน!
นอกจากนี้ยังมีดาบขึ้นสนิมติดอยู่บนหลุมศพทุกแห่ง
จะเห็นได้ว่าสุสานเหล่านี้มีมาเป็นเวลานานมากแล้ว
“พระเจ้า ทำไมถึงมีหลุมศพมากมายที่นี่?”อมตะชางเหม่ยถามด้วยความประหลาดใจ:“ข้าดูไม่ออกเลยว่าผู้คนที่ถูกฝังอยู่ที่นี้เป็นใครบ้าง”
เยี่ยชิวจ้องมองไปที่หลุมศพที่ใกล้ที่สุด ลืมตาขึ้น และสายตาของเขาก็ทะลุผ่านดิน วินาทีต่อมา สีหน้าของเขาเปลี่ยนไปอย่างมาก
เยี่ยชิวพบว่ามีโลงศพสีดำเข้มอยู่ในหลุมศพ และภายในโลงศพนั้นมีชายวัยกลางคนคนหนึ่งนอนอยู่
ชายวัยกลางคนมีอายุประมาณสี่สิบหรือห้าสิบปีด้วยใบหน้าที่สงบสุขราวกับว่าเขากำลังนอนหลับ อย่างไงอย่างงั้น ตามการรับรู้ของเยี่ยชิว ชายวัยกลางคนคนนี้ไม่มีสัญญาณชีพ อีกต่อไปแล้ว
จากนั้น เยี่ยชิวก็มองไปที่หลุมศพอีกที่หนึ่ง
ทุกที่แทบจะเหมือนกันหมด
ภายในหลุมศพนี้ มีโลงศพสีดำเข้มอยู่ด้วย แต่มีชายหนุ่มคนหนึ่งนอนอยู่ข้างใน
ชายหนุ่มแต่งกายด้วยชุดสีขาว มีใบหน้าหล่อเหลา และหลับตาแน่นราวกับกำลังหลับอยู่
“เจ้าเด็กเหลือขอ เจ้ากำลังมองอะไรอยู่?”
อมตะชางเหม่ยเห็นเยี่ยชิวที่กำลังจ้องมองไปที่หลุมศพ เขากระพริบตาแล้วถามด้วยความสับสน
“อย่าเพิ่งพูด”
ดวงตาของเยี่ยชิวยังคงจ้องมองไปที่หลุมศพไปเรื่อยๆ เขาใช้เวลากว่าครึ่งชั่วโมงในการดูหลุมศพทั้งหมด
รวมสามพันหลุม!
ภายในหลุมศพแต่ละหลุมจะมีโลงศพซึ่งมีศพนอนอยู่ข้างใน รวมทั้งชายและหญิง ทั้งคนแก่และเด็ก แม้ว่าพวกเขาจะไม่มีลมหายใจแล้ว แต่ก็ไม่มีความเน่าเปื่อยในร่างกาย ราวกับว่าพวกเขาแค่หลับใหลไปเท่านั้น
“ตาเฒ่า เจ้าคิดว่าหลุมศพเหล่านี้อยู่ที่นี้นานแค่ไหนแล้ว?” เยี่ยชิวถามขึ้น
อมตะชางเหม่ยคิดอยู่พักหนึ่งแล้วพูดว่า:“ตามคำบอกเล่าที่ข้ารู้มาก็น่าจะเป็นเวลาอย่างน้อยหลายร้อยปี”
“บางทีนานกว่าพันปีก็เป็นไปได้”
“เจ้าเด็กเหลือขอ เจ้าพบวี่แววอะไรบางอย่างหรือเปล่า?”
เยี่ยชิวตอบกลับว่า:“ข้าเพิ่งจะนับหลุมศพทั้งหมดที่มีอยู่ไป หลุมศพที่นี้มีทั้งหมดสามพันหลุม แต่ละหลุมมีร่างนอนอยู่ในนั้น แต่...”
“แต่อะไร?” อมตะชางเหม่ยถามอย่างเร่งรีบ
เยี่ยชิวตอบกลับว่า:“แต่ร่างแต่ละร่างในหลุมศพนั้นไม่เน่าเปื่อยเลย มันดูเหมือนว่าพวกเขากำลังหลับอย่างสุขสบายอยู่อย่างไงอย่างงั้น”
“มันเป็นไปไม่ได้!” อมตะชางเหม่ยพูดว่า: “แม้ว่าคนเหล่านี้จะตายไปเพียงไม่กี่ร้อยปี แต่พวกเขาควรจะเหลือเพียงกระดูกเท่านั้นสิ มันเป็นไปไม่ได้ที่จะไม่เน่าเปื่อย”
เยี่ยชิวก็พูดต่อว่า:“จริงๆแล้วร่างพวกนี้ไม่ได้รับอันตรายอะไรเลย”
“เจ้าเด็กเหลือขอ เจ้าพูดจริงหรอ?อย่าพูดล้อเล่นนะ?”
“ข้าดูเหมือนพูดล้อเล่นหรอ?”
อมตะชางเหม่ยขมวดคิ้วและพูดว่า :“เป็นไปได้ไหมว่าสิ่งที่บันทึกไว้ในหนังสือโบราณของภูเขาหลงหู่นั้นเป็นเรื่องจริง และภูเขาซูนถูกทำลายในชั่วข้ามคืนจริงๆ”
“ผู้ฝึกฝนดาบสามพันคนของภูเขาซู ถูกฝังอยู่ในหลุมศพเหล่านี้ใช่ไหม?”
“เจ้าเด็กเหลือขอ ไม่ว่ายังไงก็ตามอะไรเป็นสาเหตุที่ทำให้คนในหลุมศพเสียชีวิต?”
เยี่ยชิวส่ายหัว:“หากไม่มีการตรวจสอบอย่างรอบคอบ ข้าก็ไม่สามารถบอกสาเหตุการเสียชีวิตได้ แต่ข้าสามารถยืนยันได้ว่าไม่มีอาการบาดเจ็บภายนอกบนร่างกายของพวกเขา”
“ช่างมันเถอะ การค้นหาเอ็นมังกรนั้นสำคัญกว่า”
“ตาเฒ่า เจ้าเชี่ยวชาญเรื่องฮวงจุ้ย เจ้าสามารถค้นหาเอ็นมังกรจากที่นี่ได้ไหม?”
อมตะชางเหม่ยหยุดพูด เขาลังเลอยู่ครู่หนึ่งแล้วพูดว่า:“เจ้าเด็กเหลือขอ พวกเราเดินทางต่อกันเถอะ”
“นี้มันดาบอะไรกันนี้!”
อมตะชางเหม่ยยื่นมือออกไปแตะขอบดาบ โดยไม่ทันได้คาดคิด ทันทีที่ผิวหนังของเขาสัมผัสกับใบมีด นิ้วของเขาก็มีรอยเลือดปรากฏขึ้น
“คมมาก!”
อมตะชางเหม่ยก็พูดขึ้นว่า:“เจ้าเด็กเหลือขอ ความคมของดาบนี้อาจจะไม่อ่อนแอไปกว่าดาบจักรพรรดิของเจ้าเลยนะ”
เยี่ยชิวไม่ได้คิดอะไรมากนักเขากดแรงลงบนปลายนิ้วของเขาแล้วสะบัดดาบเบา ๆ ทันใดนั้นดาบก็ส่งเสียงที่คมชัด
“มันเป็นดาบที่ดีจริงๆ!” เยี่ยชิวอุทาน
อมตะชางเหม่ยพูดต่อว่า:“ข้าเพิ่งดึงดาบออกมาแบบสุ่มๆ และมันก็ทรงพลังมากขนาดนี้ มันแสดงให้เห็นว่าภูเขาซูนั้นรุ่งโรจน์แค่ไหนในตอนนั้น”
เยี่ยชิวพูดอย่าไร้อารมย์ว่า:“น่าเสียดายที่นิกายที่ยิ่งใหญ่ของคนรุ่นนี้โดดเดี่ยวมาก”
“ใช่ ลองคิดดูสิว่าภูเขาหลงหู่ของเรานั้นรุ่งโรจน์ขนาดไหนในฐานะที่เป็นบ้านบรรพบุรุษของลัทธิเต๋าในโลก ตอนนี้ มันไม่ได้ดีเท่ากับภูเขาหวู่ดังด้วยซ้ำ ช่างเศร้า! และน่าเสียดายมากจริง!”
อมตะชางเหม่ยยังพูดต่อว่า:“พูดตามตรง ดาบเล่มนี้ดีมาก ข้าชอบมันมาก อันที่จริง ข้อยากจะเอาดาบทั้งหมดที่นี่กลับไปด้วย”
“เพียงแต่ว่าข้าก็เป็นคนมีหลักการในการทำสิ่งต่างๆ ”
“ให้ดาบเล่มนี้มันอยู่กับเจ้าของมันแล้วกัน!”
ในเวลานี้ ท้องฟ้าเริ่มมืด มองไปไม่เห็นดาวสักดวงเดียว มันมืดมากจนหายใจไม่ออก
ทุกอย่างเงียบสงบ ไม่มีเสียงใดได้ยินจากรอบข้าง
มันเงียบอย่างน่าขนลุก
ทันใดนั้น เยี่ยก็จำบางสิ่งบางอย่างได้และพูดว่า:“ตาเฒ่า ถ้าคนของภูเขาซูทั้งหมดถูกทำลาย แล้วใครเป็นคนฝังผู้ฝึกฝนดาบเหล่านี้กันล่ะ?”
อมตะชางเหม่ยตกตะลึง:“เจ้าเด็กเหลือขอ เจ้าจะบอกว่ายังมีคนของภูเขาซูหลงเหลืออยู่งั้นหรอ?”
ทันทีที่อมตะชางเหม่ยพูดจบ
ทันใดนั้นเอง ก็มีเสียงฝีเท้าดังขึ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ
เรื่องนี้มีเติมเงินอ่านไหมครับ แนะนำหน่อย...
ทำไมลงวันละตอนแล้วครับ ช่วยชี้แจงหน่อยครับ...
ทำไมช่วงนี้ลงวันละตอนล่ะครับอีกอย่างช่วงแรกได้อ่านตั้งแต่7โมงเช้าแต่พอลงตอนเดียวต้องอ่านตอน3โมงเย็น...
ไอ้ชิบหาย มีแต่หน้าเปล่าๆมา3วันแล้ว พอๆเลิกอ่านบล็อคแม่งออกเลย หนังสือที่อื่นมีอ่านเยอะแยะ...
หลังๆทำไมลงแต่หน้าเปล่า ไม่มีตัวหนังสือสักตัว...
จะอ่านบท1611-1616ยังใงคับ...
ตอนที่ 267 - 301 มีแค่ 2-3 บรรทัดเองรบกวนแก้ไขให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ...
อยากอ่านจนจบเรื่องทำไงบ้างครับ...
ฮาเร็มไหมครับ...
ทำไมตอนที่267มันมีน้อยจังอะ...