เสียงตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยวราวกับเสียงฟ้าร้องดังมาจากด้านนอกประตูโรงแรม
ทันใดนั้น สีหน้าของชาวหลงเหมินในปัจจุบันก็เปลี่ยนไปอย่างมาก และพวกเขาทั้งหมดก็ดูวิตกกังวล
ต้องรู้ว่านี่คืองานเลี้ยงครบรอบหนึ่งเดือนของลูกสาวของเยี่ยชิว ฉะนั้นการมาก่อเรื่องขึ้นที่นี่ถือเป็นการรนหาที่ตายชัดๆ?
"ลูกพี่ เดี๋ยวผมไปดูเอง"
เซียวจ้านพูดจบก็เดินออกไป
"หยุด" เยี่ยชิวขมวดคิ้วเล็กน้อยและตะโกนเรียกเซียวจ้าน "เสียงนี้ทำไมฟังดูคุ้นๆ จัง?"
เมื่อพูดจบ
เสียงนั้นก็ดังขึ้นอีกครั้ง
"อมตะชางเหม่ยนายมันสารเลว ไสหัวออกมาเดี๋ยวนี้" หลังจากเสียงที่ดังขึ้น จู่ๆ ก็มีใครคนหนึ่งเดินเข้ามา
คือนักบวชเต๋าคนหนึ่ง
เขาสวมชุดของลัทธิเต๋า ศีรษะล้านและมือขวาถือแส้ขนหางจามรี ซึ่งดูขลังเสมือนกับผู้เป็นอมตะยังไงยังงั้น
"ชงซวีเต้าเหริน!"
ผู้อาวุโสเยี่ยและเทพสงครามต่างจำชงซวีเต้าเหรินได้และพากันมองหน้ากัน
ในความคิดของพวกเขานั้น ชงซวีเต้าเหรินเป็นพระอาจารย์ของสำนักอู่ตานและปกติแล้วเขาเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับมารยาทมาก ทำไมวันนี้จู่ๆ ถึงได้โกรธเกรี้ยวเป็นฟืนเป็นไฟได้ขนาดนี้?
ขณะที่เยี่ยชิวมองเห็นชงซวีเต้าเหรินก็เข้าใจได้ทันทีว่าทำไมเขาถึงมาหาอมตะชางเหม่ย
ขณะนี้เอง ชงซวีเต้าเหรินเต็มไปด้วยความโกรธแค้น เขากวาดสายตาไปรอบๆ และจากนั้นก็จ้องไปที่อมตะชางเหม่ย
ทว่าชงซวีเต้าเหรินได้เก็บกั้นความโกรธไว้พร้อมกับเดินเข้าไปหาเยี่ยชิว
"เยี่ยชิว ได้ยินมาว่าวันนี้เป็นงานเลี้ยงครบหนึ่งเดือนลูกสาวของเจ้าข้าต้องขอโทษด้วยที่เข้ามารบกวน"
ชงซวีเต้าเหรินพูดจบก็หยิบขวดกระเบื้องเคลือบลายครามออกมาและยื่นให้เยี่ยชิวพร้อมกับกล่าว "นี่คือยาทำความสะอาดไขกระดูกของสำนักอู่ตาน ข้ามอบให้กับลูกสาวของเจ้า หวังว่าสิ่งนี้จะมีประโยชน์กับลูกสาวของเจ้าได้บ้าง"
"ขอบคุณมาก" เยี่ยชิวรับขวดกระเบื้องเคลือบลายครามนั้นมาและแสร้งทำเป็นถามออกไป "ผู้อาวุโส ทำไมท่านถึงโกรธมากขนาดนี้?"
ชงซวีเต้าเหรินเริ่มทำหน้าโกรธแค้นขึ้นอีกครั้งพร้อมกับชี้ไปที่อมตะชางเหม่ย "เยี่ยชิว เจ้าลองถามเจ้าหมอนั่นดูว่าเขาได้ทำอะไรลงไป?"
อมตะชางเหม่ยที่กำลังนั่งอย่างเพลิดเพลินก็พูดขึ้นมา "เรื่องดีๆ ที่ข้าทำมีเยอะออกจะตายไป เจ้าพูดถึงเรื่องไหนเหรอ?"
"เจ้า......."
ชงซวีเต้าเหรินโกรธจนหน้าเขียวและจากนั้นก็พูดขึ้นมา "เยี่ยชิว เจ้าไม่รู้อะไร เจ้าหมอนี่ทำลายชื่อเสียงของข้ามาตลอดทางที่เขาลงมาจากเทือกเขาคุนหลุน"
"เขาปลอมตัวเป็นข้าและแอบลักขโมยไก่ของชาวบ้าน"
"เขาปลอมตัวเป็นข้าแอบไปดูภรรยาของคนอื่น"
"เขายังปลอมตัวเป็นข้าและกินข้าวโดยไม่จ่ายเงิน ทำให้บรรดาเจ้าของร้านต่างพากันไปพาข้าที่สำนักอู่ตาน"
"เมื่อวานมีเจ้าของร้ายหลายสิบคนดักเฝ้าอยู่ที่หน้าทางเข้าสำนักอู่ตานโดยไม่ไปไหน ไม่ว่าข้าจะอธิบายกับพวกเขายังไงก็ไม่มีประโยชน์ พวกเขาพูดตะโกนผ่านลำโพงและต้องการให้ข้าจ่ายเงิน สุดท้ายข้าต้องชำระเงินค่าอาหารให้เจ้าหมอนี่แถมยังต้องจ่ายค่าเดินทางให้คนเหล่านั้นอีกด้วย"
หลังจากที่ทุกคนได้ยินที่ชงซวีเต้าเหรินพูดจบก็ต่างมองไปที่อมตะชางเหม่ยอย่างดูถูกและแอบคิดในใจว่าเจ้าหมอนี่หน้าด้านชะมัดเลย
"ชงซวี เจ้าพูดอะไรระวังปากหน่อยเถอะ!"
อมตะชางเหม่ยปฏิเสธด้วยสีหน้าจริงจัง "ข้าเป็นถึงพระอาจารย์ ข้าจะทำเรื่องชั่วๆ เช่นนั้นได้ยังไงกัน?"
"อีกอย่าง ข้ามีเงินมากมาย เป็นไปได้ยังไงที่ข้าจะกินแล้วไม่จ่ายเงิน?"
"เห็นได้ชัดว่าเจ้าถูกคนอื่นหลอกเข้าแล้ว"
"เจ้ายังคิดจะโกหกต่ออีกเหรอ......" ชงซวีเต้าเหรินยังพูดไม่ทันจบ อมตะชางเหม่ยก็พูดแทรกขึ้นมา "ชงซวี ข้าไม่ได้จะว่าเจ้าหรอกนะ เจ้าก็อายุปูนนี้แล้ว แต่ทำไมถึงยอมให้คนอื่นหลอกได้?"
"คนอื่นมาเรียกเงินจากเจ้าโดยไม่มีหลักฐานอะไร หากพวกเขาต้องการภรรยาของเจ้า เจ้าก็คงให้พวกเขาไปอย่างนั้นเหรอ?"
"อ้อ ขอโทษด้วยนะข้าลืมไปว่าเจ้าไม่มีภรรยา"
ทุกคนต่างพากันหัวเราะขบขัน
ชงซวีเต้าเหรินโกรธจนหน้าเขียวพร้อมกับกล่าวด้วยความโมโห "ชางเหม่ย เจ้าอย่าคิดพูดบิดเบือนอะไรอีกเลย เจ้าปลอมตัวเป็นข้าและนักกวีที่ชื่อต้วนต้าเข่อ ทั้งสองคนเขียนบทกวีไร้สาระ เขายังแก้ไขและรวบรวมบทกลอนกวีส่งขึ้นไปที่สำนักอู่ตานด้วยตนเอง"
"เจ้าและข้าต่างก็เป็นนักบวชเต๋าเหมือนกัน อันที่จริงก็นับเป็นมิตรสหายกัน ทำไมเจ้าถึงต้องคิดทำอะไรแบบนี้ด้วย?"
"จะว่าไปแล้วการที่เจ้าทำแบบนี้ทำให้ข้ารู้สึกเศร้ามาก"
เยี่ยชิวเบิกตากว้าง หากมีอาณาจักรที่พูดเรื่องเพ้อเจ้อไร้สาระได้เป็นตุเป็นตะแบบนี้ เช่นนั้นอมตะชางเหม่ยคงได้เป็นยอดปรมาจารย์ระดับสูงสุดไปแล้วแน่ๆ
"เจ้า.....เจ้า.....คอยดูเถอะ!" ชงซวีเต้าเหรินพุ่งเข้าไปเตรียมจะลงมืออย่างอดทนไม่ได้อีกต่อไป
อมตะชางเหม่ยยังคงนั่งอยู่ตรงนั้นไม่ขยับไปไหนและทำหน้าไม่แยแส "ชงซวี ทำไมเจ้าต้องทำแบบนี้ด้วยนะ?"
"ข้าก็แค่เปิดโปงความคิดชั่วๆ ของเจ้าที่คอยพยายามใส่ร้ายข้า เจ้าถึงกับต้องลงไม้ลงมือเลยเหรอ?"
"เจ้าวางใจได้ ข้าไม่คิดโกรธแค้นอะไรเจ้าหรอก เรายังเป็นเพื่อนกันได้เหมือนเดิม"
ชงซวีเต้าเหรินโมโหจนสติหลุดไปแล้ว เขาพุ่งเข้ามาเพื่อจะจัดการอมตะชางเหม่ย
อมตะชางเหม่ยรีบหลบพร้อมกับตะโกนเสียงดัง "นี่ นี่ นี่ มีอะไรก็พูดกันดีๆ คนที่เจริญแล้วเขาไม่ลงไม้ลงมือกันหรอกนะ"
"ชงซวี หากเจ้ายังทำแบบนี้อีก ระวังข้าจะเอาคืนเจ้าแล้วกัน"
"ไม่ใช่ว่าข้าดูถูกเจ้า หากข้าลงมือขึ้นมาละก็ เจ้าอาจต้องคุกเข่าชื่นชมความสามารถของข้าก็ได้"
"เอ๊ะ ทำไมศีรษะถึงเย็นขนาดนี้?"
อมตะชางเหม่ยรู้สึกได้ถึงความผิดปกติและเมื่อยกมือขึ้นจับดู จู่ๆ ก็พบว่าหมวกของเขาได้หายไปแล้ว
เมื่อมองดูก็เห็นว่าหมวกของเขาไปอยู่ในมือของชงซวีเต้าเหรินตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้
ชงซวีเต้าเหรินกล่าวด้วยรอยยิ้มที่เยือกเย็น "ข้าก็ว่าทำไมเจ้าต้องสวมหมวกเก่าเกรอะนี่ด้วย ที่แท้เจ้าก็หัวล้านนี่เอง ฮ่าๆๆ....."
อมตะชางเหม่ยโกรธจนหน้าแดงพร้อมกับตะคอกออกไป "คืนหมวกมาให้ข้าเดี๋ยวนี้นะ"
"ไม่" ชงซวีเต้าเหรินกล่าว "มีความสามารถก็มาเอาเองสิ"
"ในเมื่อเจ้าคิดจะลองดี งั้นข้าก็จะทำตามความต้องการของเจ้า" อมตะชางเหม่ยพูดจบก็ลงมือทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ
เรื่องนี้มีเติมเงินอ่านไหมครับ แนะนำหน่อย...
ทำไมลงวันละตอนแล้วครับ ช่วยชี้แจงหน่อยครับ...
ทำไมช่วงนี้ลงวันละตอนล่ะครับอีกอย่างช่วงแรกได้อ่านตั้งแต่7โมงเช้าแต่พอลงตอนเดียวต้องอ่านตอน3โมงเย็น...
ไอ้ชิบหาย มีแต่หน้าเปล่าๆมา3วันแล้ว พอๆเลิกอ่านบล็อคแม่งออกเลย หนังสือที่อื่นมีอ่านเยอะแยะ...
หลังๆทำไมลงแต่หน้าเปล่า ไม่มีตัวหนังสือสักตัว...
จะอ่านบท1611-1616ยังใงคับ...
ตอนที่ 267 - 301 มีแค่ 2-3 บรรทัดเองรบกวนแก้ไขให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ...
อยากอ่านจนจบเรื่องทำไงบ้างครับ...
ฮาเร็มไหมครับ...
ทำไมตอนที่267มันมีน้อยจังอะ...