วิสารทแพทย์เทวัญ นิยาย บท 1311

เสียงตะโกนอย่างโกรธเกรี้ยวราวกับเสียงฟ้าร้องดังมาจากด้านนอกประตูโรงแรม

ทันใดนั้น สีหน้าของชาวหลงเหมินในปัจจุบันก็เปลี่ยนไปอย่างมาก และพวกเขาทั้งหมดก็ดูวิตกกังวล

ต้องรู้ว่านี่คืองานเลี้ยงครบรอบหนึ่งเดือนของลูกสาวของเยี่ยชิว ฉะนั้นการมาก่อเรื่องขึ้นที่นี่ถือเป็นการรนหาที่ตายชัดๆ?

"ลูกพี่ เดี๋ยวผมไปดูเอง"

เซียวจ้านพูดจบก็เดินออกไป

"หยุด" เยี่ยชิวขมวดคิ้วเล็กน้อยและตะโกนเรียกเซียวจ้าน "เสียงนี้ทำไมฟังดูคุ้นๆ จัง?"

เมื่อพูดจบ

เสียงนั้นก็ดังขึ้นอีกครั้ง

"อมตะชางเหม่ยนายมันสารเลว ไสหัวออกมาเดี๋ยวนี้" หลังจากเสียงที่ดังขึ้น จู่ๆ ก็มีใครคนหนึ่งเดินเข้ามา

คือนักบวชเต๋าคนหนึ่ง

เขาสวมชุดของลัทธิเต๋า ศีรษะล้านและมือขวาถือแส้ขนหางจามรี ซึ่งดูขลังเสมือนกับผู้เป็นอมตะยังไงยังงั้น

"ชงซวีเต้าเหริน!"

ผู้อาวุโสเยี่ยและเทพสงครามต่างจำชงซวีเต้าเหรินได้และพากันมองหน้ากัน

ในความคิดของพวกเขานั้น ชงซวีเต้าเหรินเป็นพระอาจารย์ของสำนักอู่ตานและปกติแล้วเขาเป็นคนที่ให้ความสำคัญกับมารยาทมาก ทำไมวันนี้จู่ๆ ถึงได้โกรธเกรี้ยวเป็นฟืนเป็นไฟได้ขนาดนี้?

ขณะที่เยี่ยชิวมองเห็นชงซวีเต้าเหรินก็เข้าใจได้ทันทีว่าทำไมเขาถึงมาหาอมตะชางเหม่ย

ขณะนี้เอง ชงซวีเต้าเหรินเต็มไปด้วยความโกรธแค้น เขากวาดสายตาไปรอบๆ และจากนั้นก็จ้องไปที่อมตะชางเหม่ย

ทว่าชงซวีเต้าเหรินได้เก็บกั้นความโกรธไว้พร้อมกับเดินเข้าไปหาเยี่ยชิว

"เยี่ยชิว ได้ยินมาว่าวันนี้เป็นงานเลี้ยงครบหนึ่งเดือนลูกสาวของเจ้าข้าต้องขอโทษด้วยที่เข้ามารบกวน"

ชงซวีเต้าเหรินพูดจบก็หยิบขวดกระเบื้องเคลือบลายครามออกมาและยื่นให้เยี่ยชิวพร้อมกับกล่าว "นี่คือยาทำความสะอาดไขกระดูกของสำนักอู่ตาน ข้ามอบให้กับลูกสาวของเจ้า หวังว่าสิ่งนี้จะมีประโยชน์กับลูกสาวของเจ้าได้บ้าง"

"ขอบคุณมาก" เยี่ยชิวรับขวดกระเบื้องเคลือบลายครามนั้นมาและแสร้งทำเป็นถามออกไป "ผู้อาวุโส ทำไมท่านถึงโกรธมากขนาดนี้?"

ชงซวีเต้าเหรินเริ่มทำหน้าโกรธแค้นขึ้นอีกครั้งพร้อมกับชี้ไปที่อมตะชางเหม่ย "เยี่ยชิว เจ้าลองถามเจ้าหมอนั่นดูว่าเขาได้ทำอะไรลงไป?"

อมตะชางเหม่ยที่กำลังนั่งอย่างเพลิดเพลินก็พูดขึ้นมา "เรื่องดีๆ ที่ข้าทำมีเยอะออกจะตายไป เจ้าพูดถึงเรื่องไหนเหรอ?"

"เจ้า......."

ชงซวีเต้าเหรินโกรธจนหน้าเขียวและจากนั้นก็พูดขึ้นมา "เยี่ยชิว เจ้าไม่รู้อะไร เจ้าหมอนี่ทำลายชื่อเสียงของข้ามาตลอดทางที่เขาลงมาจากเทือกเขาคุนหลุน"

"เขาปลอมตัวเป็นข้าและแอบลักขโมยไก่ของชาวบ้าน"

"เขาปลอมตัวเป็นข้าแอบไปดูภรรยาของคนอื่น"

"เขายังปลอมตัวเป็นข้าและกินข้าวโดยไม่จ่ายเงิน ทำให้บรรดาเจ้าของร้านต่างพากันไปพาข้าที่สำนักอู่ตาน"

"เมื่อวานมีเจ้าของร้ายหลายสิบคนดักเฝ้าอยู่ที่หน้าทางเข้าสำนักอู่ตานโดยไม่ไปไหน ไม่ว่าข้าจะอธิบายกับพวกเขายังไงก็ไม่มีประโยชน์ พวกเขาพูดตะโกนผ่านลำโพงและต้องการให้ข้าจ่ายเงิน สุดท้ายข้าต้องชำระเงินค่าอาหารให้เจ้าหมอนี่แถมยังต้องจ่ายค่าเดินทางให้คนเหล่านั้นอีกด้วย"

หลังจากที่ทุกคนได้ยินที่ชงซวีเต้าเหรินพูดจบก็ต่างมองไปที่อมตะชางเหม่ยอย่างดูถูกและแอบคิดในใจว่าเจ้าหมอนี่หน้าด้านชะมัดเลย

"ชงซวี เจ้าพูดอะไรระวังปากหน่อยเถอะ!"

อมตะชางเหม่ยปฏิเสธด้วยสีหน้าจริงจัง "ข้าเป็นถึงพระอาจารย์ ข้าจะทำเรื่องชั่วๆ เช่นนั้นได้ยังไงกัน?"

"อีกอย่าง ข้ามีเงินมากมาย เป็นไปได้ยังไงที่ข้าจะกินแล้วไม่จ่ายเงิน?"

"เห็นได้ชัดว่าเจ้าถูกคนอื่นหลอกเข้าแล้ว"

"เจ้ายังคิดจะโกหกต่ออีกเหรอ......" ชงซวีเต้าเหรินยังพูดไม่ทันจบ อมตะชางเหม่ยก็พูดแทรกขึ้นมา "ชงซวี ข้าไม่ได้จะว่าเจ้าหรอกนะ เจ้าก็อายุปูนนี้แล้ว แต่ทำไมถึงยอมให้คนอื่นหลอกได้?"

"คนอื่นมาเรียกเงินจากเจ้าโดยไม่มีหลักฐานอะไร หากพวกเขาต้องการภรรยาของเจ้า เจ้าก็คงให้พวกเขาไปอย่างนั้นเหรอ?"

"อ้อ ขอโทษด้วยนะข้าลืมไปว่าเจ้าไม่มีภรรยา"

ทุกคนต่างพากันหัวเราะขบขัน

ชงซวีเต้าเหรินโกรธจนหน้าเขียวพร้อมกับกล่าวด้วยความโมโห "ชางเหม่ย เจ้าอย่าคิดพูดบิดเบือนอะไรอีกเลย เจ้าปลอมตัวเป็นข้าและนักกวีที่ชื่อต้วนต้าเข่อ ทั้งสองคนเขียนบทกวีไร้สาระ เขายังแก้ไขและรวบรวมบทกลอนกวีส่งขึ้นไปที่สำนักอู่ตานด้วยตนเอง"

"เจ้าและข้าต่างก็เป็นนักบวชเต๋าเหมือนกัน อันที่จริงก็นับเป็นมิตรสหายกัน ทำไมเจ้าถึงต้องคิดทำอะไรแบบนี้ด้วย?"

"จะว่าไปแล้วการที่เจ้าทำแบบนี้ทำให้ข้ารู้สึกเศร้ามาก"

เยี่ยชิวเบิกตากว้าง หากมีอาณาจักรที่พูดเรื่องเพ้อเจ้อไร้สาระได้เป็นตุเป็นตะแบบนี้ เช่นนั้นอมตะชางเหม่ยคงได้เป็นยอดปรมาจารย์ระดับสูงสุดไปแล้วแน่ๆ

"เจ้า.....เจ้า.....คอยดูเถอะ!" ชงซวีเต้าเหรินพุ่งเข้าไปเตรียมจะลงมืออย่างอดทนไม่ได้อีกต่อไป

อมตะชางเหม่ยยังคงนั่งอยู่ตรงนั้นไม่ขยับไปไหนและทำหน้าไม่แยแส "ชงซวี ทำไมเจ้าต้องทำแบบนี้ด้วยนะ?"

"ข้าก็แค่เปิดโปงความคิดชั่วๆ ของเจ้าที่คอยพยายามใส่ร้ายข้า เจ้าถึงกับต้องลงไม้ลงมือเลยเหรอ?"

"เจ้าวางใจได้ ข้าไม่คิดโกรธแค้นอะไรเจ้าหรอก เรายังเป็นเพื่อนกันได้เหมือนเดิม"

ชงซวีเต้าเหรินโมโหจนสติหลุดไปแล้ว เขาพุ่งเข้ามาเพื่อจะจัดการอมตะชางเหม่ย

อมตะชางเหม่ยรีบหลบพร้อมกับตะโกนเสียงดัง "นี่ นี่ นี่ มีอะไรก็พูดกันดีๆ คนที่เจริญแล้วเขาไม่ลงไม้ลงมือกันหรอกนะ"

"ชงซวี หากเจ้ายังทำแบบนี้อีก ระวังข้าจะเอาคืนเจ้าแล้วกัน"

"ไม่ใช่ว่าข้าดูถูกเจ้า หากข้าลงมือขึ้นมาละก็ เจ้าอาจต้องคุกเข่าชื่นชมความสามารถของข้าก็ได้"

"เอ๊ะ ทำไมศีรษะถึงเย็นขนาดนี้?"

อมตะชางเหม่ยรู้สึกได้ถึงความผิดปกติและเมื่อยกมือขึ้นจับดู จู่ๆ ก็พบว่าหมวกของเขาได้หายไปแล้ว

เมื่อมองดูก็เห็นว่าหมวกของเขาไปอยู่ในมือของชงซวีเต้าเหรินตั้งแต่เมื่อไรไม่รู้

ชงซวีเต้าเหรินกล่าวด้วยรอยยิ้มที่เยือกเย็น "ข้าก็ว่าทำไมเจ้าต้องสวมหมวกเก่าเกรอะนี่ด้วย ที่แท้เจ้าก็หัวล้านนี่เอง ฮ่าๆๆ....."

อมตะชางเหม่ยโกรธจนหน้าแดงพร้อมกับตะคอกออกไป "คืนหมวกมาให้ข้าเดี๋ยวนี้นะ"

"ไม่" ชงซวีเต้าเหรินกล่าว "มีความสามารถก็มาเอาเองสิ"

"ในเมื่อเจ้าคิดจะลองดี งั้นข้าก็จะทำตามความต้องการของเจ้า" อมตะชางเหม่ยพูดจบก็ลงมือทันที

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ