“ความลับอะไร” เยี่ยชิวถามด้วยความสงสัย
หยุนซีพูด : “อันที่จริง ฉันไม่เพียงแต่เป็นนักบุญหญิงของนิกายดาบชิงอวิ๋นเท่านั้น ฉันยังมีอีกตัวตนหนึ่ง”
“พ่อของฉันเป็นหัวหน้านิกายคนปัจจุบันของนิกายดาบชิงอวิ๋น”
“ในเวลาเดียวกัน เขาก็เป็นนักปราชญ์ผู้แข็งแกร่งคนหนึ่ง!”
อะไรนะ พ่อของหยุนซีเป็นหัวหน้านิกายชั้นหนึ่งในตงฮวงเหรอ
นอกจากนี้ยังเป็นนักปราชญ์ผู้แข็งแกร่งอีกด้วย
ดวงตาของเยี่ยชิวตะลึงจนะเกือบจะหลุดออกมาแล้ว ต่อจากนั้น ความรู้สึกที่ไม่สบายใจเริ่มผุดออกมา
“จบแน่ ฉันนอนกับลูกสาวของนักปราชญ์ผู้แข็งแกร่งแล้ว ถ้าหากพ่อตารู้เข้าล่ะก็ จะต้องสับฉันเป็นชิ้นๆอย่างแน่นอน”
หยุนซีไม่ได้สังเกตเห็นอารมร์ของเยี่ยชิว พูดอย่างอ่อนโยน : “เยี่ยหลาง เดิมทีฉันไม่ได้ตั้งใจที่จะหลอกคุณ”
“อันที่จริง ครั้งที่แล้วตอนที่อยู่ในสุสานนักปราชญ์ ฉันก็เตรียมจะบอกคุณแล้ว เพียงแต่ในตอนนั้นมันยังไม่ถึงเวลา”
“บอกคุณตอนนี้ เป็นเพราะว่าฉันมั่นใจแล้ว คุณเป็นผู้ชายคนเดียวในชีวิตของฉัน”
“เยี่ยหลาง ฉันเพิ่งบอกคุณตอนนี้ คุณไม่โทษฉันใช่ไหม”
“ผมไม่โทษคุณแน่นอน” เยี่ยชิวกอดหยุนซีแล้วถาม : “ซีเอ๋อ พ่อของคุณดุไหม”
หยุนซีพูด : “แม้ว่าพ่อของฉันจะเป็นหัวนิกายก็ตาม แต่ว่าเป็นคนใจดี ไม่ดุเลยแม้แต่นิดเดียว ดีกับฉันอย่างมาก”
เยี่ยชิวถอนหายใจด้วยความโล่งอก ถามอีกครั้ง : “ซีเอ๋อ ที่บางของคุณมีพี่น้องคนอื่นไหม”
เขาคิดในใจ ถ้าหากหยุนซีมีพี่น้องหลายคน อย่างนั้นความรักและความเอ็นดูที่พ่อตามีต่อหยุนซีก็ไม่ได้มากขนาดนั้นแล้ว อย่างนั้นอันตรายของเขาก็จะน้อยลงเล็กน้อย
ใครจะไปคิด หยุนซีตอบกลับ : “พ่อของฉันมีลูกสาวแค่คนเดียว”
หัวใจของเยี่ยชิวจมลง ความวิตกกังวลผุดขึ้นในใจอีกครั้ง คิดในใจ จบแล้ว พ่อตาต้องมาเอาชีวิตฉันแน่
ลองนึกย้อนกลับไปถึงความรู้สึกก่อนหน้านี้ที่ถูกสอดแนม เยี่ยชิวยิ่งรู้สึกแย่ลงไปอีก
หยุนซีพูดแล้ว ค่ายกลที่อยู่บนจี้หยกพ่อของเธอเป็นคนสลักลงไปด้วยตัวเอง นอกจากนี้พ่อของเธอยังเป็นนักปราชญ์ผู้แข็งแกร่งคนหนึ่ง นั่นก็หมายความว่า เพียงแค่หยุนซีเปิดใช้งานค่ายกล อย่างนั้นพ่อของเธอก็สามารถรู้ได้ทันทีว่าเธอกำลังทำอะไรอยู่ตลอดเวลา
“พ่อตาคงไม่เห็นการไลฟ์สดในครั้งนี้หรอกมั้ง”
“น่าจะเป็นไปไม่ได้! เขาเป็นถึงหัวหน้านิกายคนหนึ่ง ผู้แข็งแกร่งที่ไร้เทียมทาน ไม่มีทางมาดูฉันกับหยุนซีทำสงครามกันอย่างแน่นอน ท้ายที่สุดแล้วหยุนซีเป็นลูกสาวคนเดียวของเขา”
“แต่ว่า ก่อนหน้านี้ฉันรู้สึกเหมือนมีคนกำลังสอดแนมจริงๆ”
“ถ้าหากเป็นหัวหน้านิกายของนิกายดาบชิงอวิ๋นจริงๆ มองเห็นฉันและลูกสาวของเธอพันอยู่ด้วยกัน ไม่มีทางปล่อยฉันไปอย่างแน่นอน”
“แม่งเอ๋ย เดิมทีคิดว่าการได้ครอบครองหยุนซีเป็นเรื่องดี ตอนนี้ดูเหมือนว่า ฉันสร้างปัญหาอันใหญ่หลวงเข้าแล้ว”
เยี่ยชิวคิดถึงตรงนี้ เหงื่อเย็นหยดลงมา
ตอนนี้เขาเต็มไปด้วยศัตรู สามดินแดนศักดิ์สิทธิ์และสำนักหยินหยางและสำนักปู่เทียนไม่มีทางปล่อยเขาไปอย่างแน่นอน สำนักหลีหุนและสำนักจักรพรรดิอสูรก็จะฆ่าเขาเหมือนกัน และกองกำลังเหล่านั้นในทวีปตอนกลาง ถ้าหากมีนิกายดาบชิงอวิ๋นเพิ่มเข้ามาอีกล่ะก็ อย่างนั้นจุดจบของเขามีเพียงอย่างเดียว——
ตายโดยไร้ที่ฝังศพ!
สีหน้าของเยี่ยชิวดูแย่อย่างมาก ทำได้เพียงอธิษฐานในใจ : “ผู้อาวุโสตู๋กู ตกลงท่านอยู่ไหน รีบมาช่วยผมด้วย!”
หยุนซีเห็นว่าเยี่ยชิวไม่พูดเป็นเวลานาน สีหน้าดูแย่อย่างมาก อดไม่ได้ที่จะถาม : “เยี่ยหลาง คุณเป็นอะไร”
“ฉันทำให้คุณโกรธหรือเปล่า”
“ข้อร้องล่ะ คุณอย่าโกรธเลยนะ คนอื่นเขาไม่ได้ตั้งใจ ถ้าหากคุณโกรธจริงๆ อย่างนั้นก็มาลงโทษฉันเลย”
พูดจบ หยุนซีคุกเข่าลงบนพื้น เอื้อมมือไปถอดเสื้อผ้าของเยี่ยชิว เตรียมใช้วิธีของตัวเองทำให้เยี่ยชิวสงบสติอารมณ์
“ซิ่ว!”
เยี่ยชิวดีดพลังดาบออกมา ฟันไปทางพุ่มหญ้า ต่อจากนั้นก็มองเห็นเงาสีขาวร่างหนึ่งกระโดดออกมาจากพุ่มหญ้า เตรียมหลบหนี
เยี่ยชิวตามไปอย่างรวดเร็ว จับเงาสีขาวนั้นไว้ในมือ จนกระทั่งถึงเวลานี้ เขาค่อยมองชัดเจน ปรากฎว่าเงาสีขาวนั้นแท้จริงแล้วคือสุนัขจิ้งจอกตัวหนึ่ง
สุนัขจิ้งจอกตัวนี้มีขนาดเท่าแมว ร่างกายขาวเหมือนหิมะ ดวงตาสีดำสองดวงเหมือนพระจันทร์เสี้ยว รูปร่างเตี้ยเล็ก ทำให้ผู้คนหลงใหล ไม่ว่าใครก็ตามที่มองเห็น ล้วนแล้วมีความหุนหันพลันแล่นอยากจะจับมันไว้ในอ้อมแขนและลูบไล้มัน
เพียงแต่ หางที่เต็มไปด้วยขนของมันค่อนข้างยาว ประมาณครึ่งเมตร มันดูไม่สอดคล้องกับรูปร่างที่เล็กกระทัดรัดของมันเลยสักนิด
สุนัขจิ้งจอกขาวตัวน้อยถูกเยี่ยชิวจับไว้ในมือ ร่างกายที่เล็กกระทัดรัดพยายามดิ้นรนอย่างสุดชีวิต นอกจากนี้ยังกัดฟันใส่เยี่ยชิว แสดงความดุร้าย
“สุนัขจิ้งจอกน่ารักจังเลย!” หยุนซีพูดด้วยความเซอร์ไพรส์
“น่ารักจริงๆ เพียงแต่อารมณ์ค่อนข้างดุร้าย” เยี่ยชิวพูดจบ ก้มตัวลงเตรียมวางจิ้งจอกขาวตัวน้อยลงบนพื้น จู่ๆ ดวงตาของเขาตกลงไปที่ก้นของจิ้งจอกขาวตัวน้อย ที่นั่นมีเลือดสีแดงสดอยู่ก้อนหนึ่ง
“แกบาดเจ็บเหรอ”
เยี่ยชิวอึ้งไปเลย รีบตรวจสอบ แต่ว่าตรวจสอบเป็นเวลานานก็มองไม่เห็นบาดแผล หลังจากนั้นใช้นิ้วมือจิ้มดู
เพียงแต่เขาจิ้มลงไปหนึ่งครั้ง จิ้งจอกขาวตัวน้อยก็ส่งเสียงกรีดร้องออกมา
“เกิดอะไรขึ้น” เยี่ยชิวสงสัยเล็กน้อย เปิดดวงตาสวรรค์ทันที พบว่าไม่มีบาดแผลตรงที่จิ้งจอกขาวตัวน้อยมีเลือดออก
“น่าแปลก ถ้าไม่มีบาดแผลจะมีเลือดออกได้ยังไง” เยี่ยชิวเต็มไปด้วยความสงสัย
หยุนซีก็มองเห็นเลือดเช่นกัน ถาม : “ฉังเซิง จิ้งจอกขาวตัวน้อยดูเหมือนจะได้รับบาดเจ็บ คุณช่วยรักษามันหน่อยไดไหม”
“ผมก็อยากรักษามันเหมือนกัน แต่ว่ากลับไม่มีบาดแผลเลย” เยี่ยชิวพูดจบ ทันใดนั้น ความคิดหนึ่งก็แวบขึ้นมาในหัว ราวกับว่าคิดอะไรบางอย่างออก รีบพลิกจิ้งจอกขาวตัวน้อยมาดู หัวเราะอย่างโง่เขลา : “มันไม่ได้รับบาดเจ็บ”
“ไม่ได้รับบาดเจ็บเหรอ” หยุนซีอึ้งไปเลย : “แล้วมันมีเลือดออกได้ยังไง”
เยี่ยชิวพูด : “เพราะว่ามันเป็นตัวเมีย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ
เรื่องนี้มีเติมเงินอ่านไหมครับ แนะนำหน่อย...
ทำไมลงวันละตอนแล้วครับ ช่วยชี้แจงหน่อยครับ...
ทำไมช่วงนี้ลงวันละตอนล่ะครับอีกอย่างช่วงแรกได้อ่านตั้งแต่7โมงเช้าแต่พอลงตอนเดียวต้องอ่านตอน3โมงเย็น...
ไอ้ชิบหาย มีแต่หน้าเปล่าๆมา3วันแล้ว พอๆเลิกอ่านบล็อคแม่งออกเลย หนังสือที่อื่นมีอ่านเยอะแยะ...
หลังๆทำไมลงแต่หน้าเปล่า ไม่มีตัวหนังสือสักตัว...
จะอ่านบท1611-1616ยังใงคับ...
ตอนที่ 267 - 301 มีแค่ 2-3 บรรทัดเองรบกวนแก้ไขให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ...
อยากอ่านจนจบเรื่องทำไงบ้างครับ...
ฮาเร็มไหมครับ...
ทำไมตอนที่267มันมีน้อยจังอะ...