เยี่ยชิวตกตะลึง
ข้าทำไม่ได้?
สุนัขจิ้งจอกขาวตัวน้อยบอกว่าข้าทำไม่ได้?
หึหึ หากเจ้าเป็นหญิงงามที่สุดในโลก ข้าจะทำให้เจ้ารู้ว่าข้าทำได้หรือไม่ได้!
เยี่ยชิวกล่าว : “หากเจ้าทำได้ เจ้ามาทำ”
สุนัขจิ้งจอกขาวตัวน้อยกระโดดออกจากอ้อมแขนของเยี่ยชิวด้วยเสียงฮึดฮัด มาที่ด้านหน้าหลุมแล้วตะปบค่ายกลด้วยอุ้งเท้าของมัน
เยี่ยชิวเห็นพฤติกรรมของมันและเยาะเย้ย: "ถ้าเจ้าสามารถทำลายค่ายกลด้วยวิธีนี้ได้ ข้าก็จะ..."
พรึ่บ !
ค่ายกลสั่นไหว
วินาทีต่อมา ทุกอย่างก็พังทลายลงมา
เสียงของเยี่ยชิวก็หยุดกะทันหัน เขามองสุนัขจิ้งจองขาวตัวด้วยด้วยความประหลาดใจ
“เยี่ยฉังเซิง ข้าเก่งมากเลยใช่ไหมล่ะ?” สุนัขจิ้งจอกขาวตัวน้อยหันกลับมาและพูดด้วยสีหน้าภาคภูมิใจ
เยี่ยชิวพยักหน้า : “เจ้าเก่งมาก”
สุนัขจิ้งจอกขาวตัวน้อยยิ้มแล้วพูดว่า: " เมื่อกี้ท่านบอกว่า หากข้าสามารถทำลายค่ายกลนั้นได้ ท่านเตรียมจะทำอะไรนะ?"
“ท่านจะตีข้าใช้หรือไม่?”
“มาสิ มาตีข้าเลย”
สุนัขจิ้งจอกขาวตัวน้อยวิ่งไปตรงหน้าเยี่ยชิวแล้วยื่นก้นออกมา
คนอื่นๆ ต่างตกตะลึงเมื่อเห็นเหตุการณ์นี้ จิ้งจอกเก้าหางทำไมถึงได้มีความชอบเช่นนี้?
จากนั้น ทุกคนก็มองดูเยี่ยชิวด้วยสายตาที่แปลกประหลาด
“เยี่ยฉังเซิง ท่านมัวชักช้าอะไรอยู่ ขอร้องท่านรีบตีข้าเร็ว ๆ เถอะ ” สุนัขจิ้งจอกขาวตัวน้อยเร่งเร้า
เยี่ยชิวไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากกัดฟันแล้วตบที่ก้นสุนัขจิงจอกขาวตัวน้อยเบา ๆ
สุนัขจิ้งจอกขาวตัวน้อยรู้สึกไม่พอใจเล็กน้อย "เยี่ยฉังเซิง ท่านทำอะไรอยู่? ทำไมมือของท่านไม่มีเรี่ยวแรงเลย? ตีให้แรง ๆ หน่อยสิ"
ป้าด !
เยี่ยชิวตบไปอย่างแรงหนึ่งที
“โอ้~ รู้สึกดีจัง!” เสียงของสุนัขจิ้งจอกขาวตัวน้อยเต็มไปด้วยเสน่ห์น่าหลงไหล เหมือนกับเสียงร้องของผู้หญิงที่มีความสุขสุดๆ ให้ตายเถอะ...
ล้มสลาย——
จิตวิญญาณ !
ทันใดนั้นทุกคนก็มองไปที่เยี่ยชิวด้วยสายตาที่แปลกประหลาดยิ่งกว่าเดิม
“ศิษย์พี่ พี่ใหญ่เขาดูไม่ปกติเท่าไหร่ ” โม่เทียนจีกระซิบ
อมตะชางเหม่ยหัวเราะเบา ๆ และพูดว่า "คาดไม่ถึงว่าเจ้าเด็กคนนี้มีความชอบเช่นนี้ ข้ายอมแพ้จริง ๆ "
หยุนซียืนอยู่ข้าง ๆ จ้องมองไปที่สุนัขจิ้งจอกขาวตัวน้อยแล้วพูดด้วยสีหน้าไม่แยแส: "หึ สุนัขจิ้งจอกยังพลังชี่ยังไม่เก่งกล้าพอ ก็ยังอยากได้รับความรักจากมนุษย์"
สุนัขจิ้งจอกขาวตัวน้อยรีบแย้งทันที: "เยี่ยฉังเซิง เธอว่าข้า "
“ข้าว่าเจ้าแล้วยังไง?” หยุนซีพูดด้วยน้ำเสียงไม่ดี: “ข้าขอเตือนเจ้า เจ้าเป็นปีศาจสุนัขจิ้งจอกตนหนึ่งเท่านั้น อย่าคิดที่จะยั่วยวนฉังเซิงของข้า มิเช่นนั้น ข้าจะไม่ไว้ชีวิตเจ้า "
สุนัขจิ้งจอกขาวตัวน้อยหัวเราะเยาะ: "โถ่....ชางเซิงของข้า ฮ่าฮ่าฮ่า ข้าอยากหัวเราะให้ตายจริงๆ"
“เยี่ยฉังเซิงเป็นคนของเจ้าตั้งแต่เมื่อไหร่?”
“พวกเจ้าไหว้ฟ้าดินเป็นสามีภรรยากันแล้วงั้นรึ?”
“ ทำไมเจ้าไม่บอกว่าผู้ชายทุกคนในโลกฝึกเซียนล้วนเป็นของเจ้าล่ะ?”
อมตะชางเหม่ยได้ยินคำพูดเหล่านี้ ก็มองดูสุนัขจิ้งจอกขาวตัวน้อยอย่างลึกซึ้งและพูดพึมพำกับตัวเองว่า: " ไม่ยักรู้เลยว่าฝีปากของเจ้าสุนัขจิ้งจอกตัวนี้คมคายไม่แพ้ข้าเลย นับถือ ๆ "
เมื่อพูดถึงทักษะฝีปากแล้ว หยุนซีไม่ใช่คู่ปรับของสุนัขจิ้งจอกขาวตัวน้อยจริงๆ รึ... ผิดแล้ว ในระหว่างการต่อสู้กับเยี่ยชิว ทักษะฝีปากของหยุนซียังคงดีมาก
แต่เมื่อต้องโต้เถียงกัน หยุนซีก็ด้อยกว่าสุนัขจิ้งจอกขาวตัวน้อยมาก เธอโกรธมากจนร่างกายอันบอบบางของเธอสั่นเทา
“องค์ชายอู่ ท่านมามาอยู่ที่นี่ได้อย่างไร” โม่เทียนจีถาม
และแน่นอนอู่เชียนฟานไม่กล้าบอกความจริงแก่พวกเขาอยู่แล้ว ขืนเขาบอกความจริงที่ว่าเขาตกลงมาในหลุมนี้โดยไม่ได้ตั้งใจ มันช่างเป็นเรื่องที่น่าอายที่สุด
ลองคิดดูสิว่าองค์ชายรองแห่งราชวงศ์ต้าโจวผู้สง่างาม ซึ่งเป็นอัจฉริยะของตงเทียนขั้นสูงสุด ดันตกลงมาในหลุมและไม่สามารถออกไปได้ หากเขาพูดตามความเป็นจริง คนคงได้หัวเราะเยาะเขาจนฟันร่วงหมดปากหรอกหรือ?
อู่เชียนฟานกล่าวว่า : "ข้าไม่ได้ตกลงมา ข้ากระโดดลงมาด้วยตัวของข้าเอง"
“ข้าเจอสัตว์ดุร้ายสองตัวในระหว่างเดินทาง ขณะที่กำลังต่อสู้กัน ข้าได้รับบาดเจ็บเล็กน้อย หลังจากนั้นข้าก็ได้พบกับนักบวชอีกหลายรูป พวกเขาคิดจะฆ่าข้า และในหมู่พวกเขาก็มีตงเทียนขั้นสูงสุดหลายคนอยู่ในนั้นด้วย”
“ข้าฆ่าพวกเขา และตัวข้าเองก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ข้าก็เลยอยากหาสถานที่สงบๆ ไว้รักษาอาการบาดเจ็บ ข้าก็เลยมาที่นี่”
“แต่สิ่งที่ข้าไม่ได้คาดคิดคือที่นี่กลับซ่อนค่ายกลลึกลับอยู่ในหลุมนี้ด้วย มันเข้ามาง่ายแต่ออกไปนั้นยาก ข้าพยายามอย่างเต็มที่ที่จะทำลายค่ายกลนี้”
“โชคดีที่พวกท่านมาที่นี่”
อมตะชางเหม่ยจ้องมองไปที่อู่เชียนฟานอยู่ครู่หนึ่งแล้วถามว่า: "องค์ชายอู่ เหตุใดเส้นผมบนหัวขององค์ชายหายไปหนึ่งกระจุก มันสีดำ ๆ เหมือนถูกฟ้าผ่าเลย"
ให้ตายเถอะ ประเด็นที่ไม่ได้พูดถึงกลับไปพูดถึงมันทำไม
อู่เชียนฟานก็โมโหขึ้นมาเมื่อพูดถึงเรื่องนี้ เขาแค่สบถด่าว่าไอ้เฒ่าชราเฮงซวยเพียงคำเดียว ก็ถูกสายฟ้าฟาดที่หัว โชคดีที่สายฟ้าไม่ได้ทรงพลังมาก ไม่เช่นนั้นเขาคงตายไปนานแล้ว
อู่เชียนฟานถอนหายใจและพูดว่า: "ท่านนักพรตไม่รู้อะไร ในบรรดานักบวชที่ข้าพบ มีคนหนึ่งที่รู้วิชาสายฟ้า ข้าเลยถูกลอบทำร้าย โชคดีที่ข้าตอบโต้ได้ทันเวลา ไม่เช่นนั้นพวกท่านก็คงไม่ได้เจอข้าอีกแล้ว ”
อมตะชางเหม่ยพยักหน้า: "ข้าเข้าใจแล้ว ดูเหมือนว่าองค์ชายอู่จะโชคดีมาก”
อู่เชียนฟานกระตุกมุมปากของเขา โชคดีบ้าบอ โชคร้ายซะมากกว่า
“ข้าช่วยเจ้ารักษาบาดแผลก่อนดีกว่า” เยี่ยชิวหยิบเข็มทองออกมารักษาอู่เชียนฟาน จากนั้นเขาก็หยิบยาอายุวัฒนะออกมาสองสามเม็ดแล้วส่งให้อู่เชียนฟานแล้วพูดว่า "เจ้ารักษาบาดแผลของเจ้าก่อนเถอะ!"
"ขอบคุณ" อู่เชียนฟานไม่ได้แสดงท่าทีใดๆ เขารับยาอายุวัฒนะมาและเริ่มรักษาบาดแผลของเขา
ไม่นานหลังจากนั้นอู่เชียนฟานก็หายจากอาการบาดเจ็บและได้รับพลังกลับคืนมา จากนั้นเขาก็ทำท่าแปลก ๆ เขาขุดดินอย่างรวดเร็วด้วยมือทั้งสองข้าง
ในไม่ช้า แผ่นหินสีเข้มก็ปรากฏขึ้นต่อหน้าทุกคน โดยมีคำจารึกไว้สี่คำ
“สมบัติล้ำค่า!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ
เรื่องนี้มีเติมเงินอ่านไหมครับ แนะนำหน่อย...
ทำไมลงวันละตอนแล้วครับ ช่วยชี้แจงหน่อยครับ...
ทำไมช่วงนี้ลงวันละตอนล่ะครับอีกอย่างช่วงแรกได้อ่านตั้งแต่7โมงเช้าแต่พอลงตอนเดียวต้องอ่านตอน3โมงเย็น...
ไอ้ชิบหาย มีแต่หน้าเปล่าๆมา3วันแล้ว พอๆเลิกอ่านบล็อคแม่งออกเลย หนังสือที่อื่นมีอ่านเยอะแยะ...
หลังๆทำไมลงแต่หน้าเปล่า ไม่มีตัวหนังสือสักตัว...
จะอ่านบท1611-1616ยังใงคับ...
ตอนที่ 267 - 301 มีแค่ 2-3 บรรทัดเองรบกวนแก้ไขให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ...
อยากอ่านจนจบเรื่องทำไงบ้างครับ...
ฮาเร็มไหมครับ...
ทำไมตอนที่267มันมีน้อยจังอะ...