วิสารทแพทย์เทวัญ นิยาย บท 1825

เบื้องล่าง

ผู้คนต่างมองเห็นได้ชัดว่าเยี่ยชิวได้ถึงขีดจำกัดแล้ว

เหล่าผู้อาวุโสที่อยู่ในเหตุการณ์ ไม่มีผู้ใดหัวเราะเยาะเยี่ยชิว ตรงกันข้าม ใบหน้าของพวกเขาปรากฏความตกตะลึงและความยำเกรงอย่างล้นเหลือ

เพราะนับตั้งแต่กำเนิดดินแดนต้องห้าม ในรอบล้านปีที่ผ่านมา ยังไม่มีผู้ใดที่อยู่ในขั้นต้งเทียนสามารถขึ้นไปถึงยอดเขาที่แปดได้เลย

เยี่ยชิวสามารถกล่าวได้ว่าเป็นบุคคลที่ไม่เคยมีมาก่อน!

“คุณชายอยู่ในขั้นต้งเทียน แต่กลับขึ้นไปถึงยอดเขาที่แปดได้ หากท่านอยู่ในขั้นทงเสิน ท่านต้องสามารถขึ้นไปถึงยอดเขาที่ยี่สิบได้อย่างแน่นอน”

ผู้อาวุโสลิงกล่าวเปลี่ยนเรื่อง “หากคุณชายขึ้นไปถึงยอดเขาอีกหนึ่งลูกก็จะเท่าเทียมกับพวกเราแล้ว”

ผู้อาวุโสสุนัขกล่าวด้วยน้ำเสียงทุ้มต่ำ “ระดับพลังของคุณชายเยี่ยยังอ่อนแอเกินไป เขาไม่สามารถขึ้นไปถึงยอดเขาที่เก้าได้”

บนยอดเขาที่แปด

เยี่ยชิวกัดฟันแน่น ร่างกายกระโดดขึ้นอย่างกะทันหัน เท้าเหยียบลงบนยอดเขาที่เก้า

ทันใดนั้น หมอกปีศาจหนาทึบก็ห่อหุ้มร่างของเขา เสียงร้องโหยหวนของผีและหมาป่าดังเข้ามาในหู ทำให้ขนลุกซู่

เยี่ยชิวรู้สึกเหมือนอยู่ในถ้ำน้ำแข็ง ร่างกายเกือบจะแข็งไปหมดแล้ว หมอกปีศาจเหล่านั้นกลายเป็นผีร้ายน่ากลัวในสายตาของเขา พวกมันอ้าเขี้ยวเล็บออกมาเพื่อเอาชีวิตเขา

“โครมคราม!”

ภูเขาทั้งลูกสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง พลังอันมหาศาลปรากฏขึ้น

ในขณะที่เยี่ยชิวเกือบจะถูกกระแทกออกไป ทันใดนั้น โลงศพทองคำที่ซ่อนอยู่ในตาขวาของเขาก็เคลื่อนไหว

“ตูม!”

โลงศพทองคำบินออกไป ขยายขนาดอย่างรวดเร็ว ลอยอยู่เหนือศีรษะของเยี่ยชิว ก่อนปล่อยแสงสีทองลงมา

ในพริบตา ภูเขาก็เหมือนถูกหยุดไว้ หยุดการสั่นสะเทือน หมอกปีศาจที่ห่อหุ้มเยี่ยชิวก็สลายไปอย่างรวดเร็ว

เยี่ยชิวไม่รู้สึกถึงพลังหยินอีกต่อไป เขายืนอยู่บนยอดเขาที่เก้า เสื้อผ้าสีขาวพลิ้วไสวไปตามลม ดูสง่างามและบริสุทธิ์

“ขอบคุณ” เยี่ยชิวเงยหน้ามองโลงศพทองคำ แล้วกล่าวขอบคุณเบาๆ

โลงศพทองคำเหมือนได้ยินคำพูดของเขา มันสั่นเล็กน้อยเหมือนจะบอกว่าไม่ต้องเกรงใจ

เมื่อเหล่าผู้อาวุโสเผ่าปีศาจเห็นภาพนี้ ต่างตกตะลึง

ไม่มีใครคาดคิดว่าเยี่ยชิวจะขึ้นไปถึงยอดเขาที่เก้าได้จริงๆ

ผู้อาวุโสสุนัขกล่าวว่า “โลงศพทองคำนั่นมาจากไหนกัน มันดูเหมือนไม่ธรรมดาเลย”

ผู้อาวุโสหมีตอบ “นั่นคือโอกาสสูงสุดแห่งภูเขาอมตะ!”

“อะไรนะ มันคือโอกาสสูงสุดแห่งภูเขาอมตะ?” ผู้อาวุโสสุนัขตกตะลึง

ผู้อาวุโสคนอื่นๆ ก็ตกตะลึงเช่นกัน

แม้ว่าพวกเขาจะรู้ตั้งแต่แรกว่าในภูเขาอมตะมีโอกาสสูงสุด แต่ก็ไม่มีใครเคยเห็นว่าโอกาสสูงสุดนั้นเป็นอย่างไร

ผู้อาวุโสสุนัขได้สติกลับคืนมา เขามองเยี่ยชิวที่อยู่บนยอดเขาพลางกล่าว “ครั้งกระโน้น นอกจากท่านผู้นำและผู้อาวุโสหมีแล้ว พวกเราทำได้เพียงพิชิตยอดเขาที่เก้าเท่านั้น”

“คุณชายเยี่ยสามารถขึ้นถึงยอดเขาที่เก้าได้ด้วยพลังปราณขั้นต้งเทียน หากไม่ได้เห็นกับตา ฉันไม่มีทางเชื่อเด็ดขาด”

“คุณชายเยี่ย ท่านช่างเป็นบุคคลเหนือโลกอย่างแท้จริง!”

ผู้อาวุโสกระต่ายอุทานด้วยความตกตะลึง “ใช่แล้ว คุณชายเยี่ยเก่งกาจเกินไป!”

ผู้อาวุโสเเพะกล่าวเสริม “คุณชายเยี่ยได้รับโอกาสสูงสุดแห่งภูเขาอมตะ แน่นอนว่าท่านมีโชคชะตาอันยิ่งใหญ่ จะต้องก้าวไปได้ไกลกว่าพวกเรา”

สิ้นเสียง เยี่ยชิวก็เริ่มเคลื่อนไหว

คราวนี้ มีโลงศพทองคำคุ้มกาย เขาจึงดูผ่อนคลายกว่าตอนปีนเขาก่อนหน้านี้มาก

มือไขว้หลัง สีหน้ามั่นใจและสงบนิ่ง มุ่งตรงขึ้นไปอย่างไร้ความกังวล

ยอดเขาที่สิบ

ยอดเขาที่สิบเอ็ด

ยอดเขาที่สิบสอง

......

ในพริบตา เยี่ยชิวก็ปีนขึ้นไปถึงยอดเขาที่ยี่สิบ

เหล่าผู้อาวุโสตกตะลึงอีกครั้ง

เพราะผู้อาวุโสหมีเคยปีนขึ้นไปถึงยอดเขาที่ยี่สิบเช่นกัน แต่ตอนนั้นผู้อาวุโสหมีมีพลังฝีมือขั้นนักบุญแล้ว

“ถึงแม้จะมีโอกาสสูงสุดจากภูเขาอมตะคอยคุ้มกาย แต่คุณชายเยี่ยสามารถขึ้นไปถึงยอดเขาที่ยี่สิบได้ด้วยพลังปราณขั้นต้งเทียน ก็เพียงพอที่จะนับว่าเป็นประวัติศาสตร์แล้ว!” ผู้อาวุโสกระต่ายกล่าว

ผู้อาวุโสวัวแสยะยิ้ม “แค่นี้เอง ยอดเขาที่ยี่สิบสำหรับคุณชายเป็นเพียงจุดเริ่มต้นเท่านั้น”

จิ้งจอกขาวตัวน้อยยิ้มหวาน “ผู้อาวุโสหมี ดูเหมือนว่าท่านจะถูกเขาแซงแล้ว”

หนึ่งร้อยยอด

เยี่ยชิวใช้เวลาเพียงไม่กี่นาทีก็ปีนขึ้นมาถึงยอดเขาที่ร้อย เหล่าผู้อาวุโสเผ่าปีศาจที่อยู่เบื้องล่าง ยกเว้นผู้อาวุโสวัวต่างเบิกตากว้าง จ้องมองเยี่ยชิวด้วยความตกตะลึง

ส่วนผู้อาวุโสวัวที่ไม่ได้เบิกตานั้น ก็เพราะดวงตาของท่านใหญ่โตอยู่แล้ว

หลังจากที่เยี่ยชิวขึ้นมาถึงยอดเขาที่ร้อย ความเร็วของเขาก็ยิ่งเพิ่มขึ้น

ฉึบ ฉึบ ฉึบ!

เพียงชั่วครู่

เยี่ยชิวก็ปีนขึ้นมาถึงยอดเขาที่สองร้อย

เขายังคงปีนป่ายต่อไป โลงศพทองคำลอยอยู่เหนือศีรษะ ราวกับกำลังเดินเล่นอยู่ในสวน เพียงพริบตาเดียว เขาก็ปีนขึ้นไปอีกหลายร้อยยอดเขา

“เท่าไหร่แล้ว?” จิ้งจอกขาวตัวน้อยเอ่ยถาม

“เจ็ดร้อยพอดี!” ผู้อาวุโสหมีตอบ “คุณชายเยี่ยปีนขึ้นมาถึงยอดเขาที่เจ็ดร้อยแล้ว ผลงานเช่นนี้ นอกจากจักรพรรดิวั่นกู่ชิงเทียนแล้ว ก็ไม่มีผู้ใดเทียบได้อีก”

ผู้อาวุโสเสือกล่าวว่า “ไม่รู้ว่าคุณชายจะไปได้ไกลอีกแค่ไหน?”

บนยอดเขาที่เจ็ดร้อย เยี่ยชิวหยุดอยู่นานถึงห้านาที

เพราะเขาสัมผัสได้ว่าโลงศพทองคำกำลังสั่นไหว และรอบๆ ก็มีหมอกปีศาจหนาทึบปรากฏขึ้น

“ดูท่า โลงศพนี้คงทนได้อีกไม่นาน”

เยี่ยชิวไม่ลังเล รีบปีนขึ้นเขาอย่างรวดเร็ว

เมื่อเขาปีนขึ้นไปถึงยอดเขาที่เจ็ดร้อยยี่สิบ หมอกปีศาจก็ปกคลุมไปทั่ว โลงศพทองคำสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง แสงที่ห้อยลงมาต่อสู้กับหมอกปีศาจอย่างดุเดือด แต่หมอกปีศาจก็เข้าใกล้เยี่ยชิวมากขึ้นเรื่อยๆ

ในขณะเดียวกัน ภูเขาก็เริ่มสั่นสะเทือน

แม้ว่าผิวร่างกายของเขาจะมีม่านแสงจากโลงศพทองคำป้องกัน เยี่ยชิวก็ยังรู้สึกถึงความเย็นยะเยือก รูขุมขนเริ่มมีเลือดไหลซึมออกมา ราวกับว่าร่างกายกำลังจะระเบิดเป็นเสี่ยงๆ

เขาแทบจะทรงตัวไม่อยู่

เยี่ยชิวรู้ดีว่า หากยังคงปีนเขาต่อไป แม้จะมีโลงศพทองคำคุ้มกาย แต่สถานการณ์ของเขาก็ยังคงอันตรายอย่างยิ่ง

“จะทำยังไงดี?”

ในขณะที่เยี่ยชิวลังเล เสียงเพลงดาบก็ดังกึกก้องไปทั่วสวรรค์และโลก ก่อนที่ดาบเซวียนหยวนศักดิ์สิทธิ์จะปรากฏออกมา!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ