เยี่ยชิวนั่งบนหลังของผู้อาวุโสวัวที่ทะยานอยู่กลางเวหา เมื่อก้มลงมองเบื้องล่าง ก็เห็นเพียงทิวเขาสูงตระหง่านสลับซับซ้อน
ในใจพลันตระหนักได้ว่า ที่นี่ไม่ใช่จงโจว
แม้เยี่ยชิวไม่เคยไปจงโจว แต่ที่นั่นมีถึงสามราชวงศ์ใหญ่ ย่อมต้องรุ่งเรืองเป็นแน่
อย่างน้อย ก็ควรมีเมืองใหญ่โตสักสองสามแห่ง
แต่ที่นี่...
มีเพียงขุนเขาสลับซับซ้อน
ไร้ผู้คนอาศัย
“ต้าลี่นี่ที่ไหนกัน?” เยี่ยชิวเอ่ยถาม
ดวงตาของผู้อาวุโสวัวกลอกไปมาด้วยเขาตอบไม่ได้
“นายหลงทางหรือเปล่า?” เยี่ยชิวถามอีก
ผู้อาวุโสวัวพูดอย่างอึกอัก “ท่านอาจารย์ ฉัน ฉันไม่ค่อยรู้จักโลกมนุษย์แห่งนี้...”
“ฉันรู้ว่านายไม่คุ้นเคยกับโลกมนุษย์ แต่ตาเฒ่าบอกตำแหน่งจงโจวให้นายฟังแล้วไม่ใช่เหรอ? ทำไมยังหลงได้อีก?” เยี่ยชิวครุ่นคิด ยิ่งเขาคิดก็ยิ่งรู้สึกผิดปกติ เมื่อหันไปมองก็เห็นสายตาของอมตะชางเหม่ยกำลังจ้องไปทางอื่น
“ตาเฒ่านี่มันเรื่องอะไรกัน?” เยี่ยชิวถาม
อมตะชางเหม่ยทำราวกับไม่ได้ยินและยังคงจ้องไปรอบๆ
“ตาเฒ่า!” เยี่ยชิวตะโกนเสียงดัง
จนกระทั่งตอนนี้เองที่อมตะชางเหม่ยหันกลับมามองเยี่ยชิวแล้วถามด้วยแววตาสงสัย “เจ้าเด็กน้อย นายเรียกฉันเหรอ?”
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น?” เยี่ยชิวถามอีกครั้ง
“เกิดอะไรขึ้น?” อมตะชางเหม่ยแสร้งทำเป็นไม่รู้
“ที่นี่ที่ไหน?” เยี่ยชิวถาม
อมตะชางเหม่ยมองซ้ายมองขวา แล้วส่ายหน้าพลางตอบ “ฉันไม่รู้”
“นายจะไม่รู้ได้ยังไง?” เยี่ยชิวว่า “ตำแหน่งส่วนใหญ่ในแดนดินแห่งนี้ ไม่ใช่ว่านายจำไว้ในหัวหมดแล้วเหรอ?”
“ฉันจะไปจงโจว”
“ทำไมจึงมาโผล่ที่นี่ได้?”
“ใช่แล้ว พวกเราไม่ใช่จะไปจงโจวไม่ใช่เหรอ? ทำไมกลับมาปรากฏที่นี่?” อมตะชางเหม่ยเอ่ยถาม “สหายต้าลี่ นายพาพวกเราหลงทางหรือเปล่า?”
ฉันไม่ได้หลงนะ ไม่ใช่ว่านายบอกให้มาทางนี้เหรอ?
ผู้อาวุโสวัวกล่าวว่า “ฉันไม่ชำนาญเส้นทางในแดนมนุษย์ อีกทั้งตั้งแต่เด็กฉันก็เป็นคนหลงทิศหลงทาง...”
“เหลวไหล!” เยี่ยชิวตวาดเสียงต่ำ “เจ้าวัวต้าลี่บอกฉันมาตามตรง นี่มันเกิดอะไรขึ้น?”
ผู้อาวุโสวัวหันไปมองอมตะชางเหม่ย เมื่อเห็นอีกฝ่ายขยิบตาส่งสัญญาณ จึงจำใจเอ่ย “ท่านอาจารย์ ทุกอย่างเป็นความผิดของฉัน ฉัน...”
เยี่ยชิวเอ่ยเสียงเย็น “เจ้าวัวต้าลี่ ถ้านายไม่พูดความจริง ตอนนี้ก็กลับแดนปีศาจไปได้เลย ฉันไม่ต้องการให้นายคุ้มครองแล้ว”
เมื่อผู้อาวุโสวัวได้ยินดังนั้นก็ตกใจจนรีบเอ่ยว่า “ท่านอาจารย์ ท่านอย่าไล่ฉันไปเลย ที่จริงแล้วเต้าจ่างเป็นคนบอกให้ฉันพามาทางนี้”
ชิชะ! ขายฉันเร็วจัง น่าโมโหจริงๆ
อมตะชางเหม่ยจ้องผู้อาวุโสวัวอย่างไม่พอใจ
“ฮึ่ม...” เยี่ยชิวแค่นเสียงเย็น “ฉันก็รู้ว่าต้องเป็นเจ้าแก่เจ้าเล่ห์นี่แหละที่ยุให้ต้าลี่ทำแบบนี้”
“ปกติต้าลี่ไม่เคยขัดคำสั่งฉันเลย แต่ครั้งนี้เขากลับเชื่อฟังนาย ถ้าฉันเดาไม่ผิด นายคงบอกเขาทำไปทั้งหมดเพื่อฉันใช่ไหม?”
“ตาเฒ่า นายคิดจะทำอะไรกันแน่?”
เมื่อเรื่องมาถึงขั้นนี้ อมตะชางเหม่ยก็ไม่ปิดบังอีกต่อไป
“เจ้าเด็กน้อย ฉันเคยบอกนายแล้วว่าการไปจงโจวครั้งนี้อันตรายยิ่งนัก”
“ถ้าเราไปโดยประมาท คงมีปัญหาตามมามากมาย ไม่แน่พวกเราทั้งสามอาจต้องใช้ชีวิตหลบๆ ซ่อนๆ ไปตลอด”
“อย่างแรก นางฟ้าไป๋ฮวาอยู่ในนิกายดาบชิงอวิ๋น นายไม่ได้เจอเธอนานขนาดนี้แล้ว งคงคิดถึงเธอมากใช่ไหม?”
“ประการที่สอง หยุนซีคนรักตัวน้อยของนายเป็นคุณหนูใหญ่ของนิกายดาบชิงอวิ๋น ด้วยการที่มีเธอคุ้มครองเรา เราจะไม่ตกอยู่ในอันตรายเมื่อเรามาถึงนิกายดาบชิงอวิ๋น”
“ประการที่สาม นิกายดาบชิงอวิ๋นมีผู้ฝึกตนมากมาย หากเราไปถึงเขตแดนของนิกายดาบชิงอวิ๋น สำนักหยินหยางก็จะไม่กล้าลงมือกับเราอีก”
“ประการที่สี่ นิกายดาบชิงอวิ๋นเป็นสำนักใหญ่ที่สุดของแดนตะวันออก ต้องมีทรัพย์สมบัติและทรัพยากรสำหรับฝึกฝนมากมาย เราสามารถไปฝึกฝนที่นิกายดาบชิงอวิ๋น จากนั้นรอให้พลังฝีมือสูงขึ้นค่อยจัดการกับสำนักหยินหยางได้”
“ด้วยความสัมพันธ์ของนายกับหยุนซี เราต้องได้รับทรัพยากรที่ดีที่สุดในการฝึกฝนแน่นอน”
“ตอนที่จากกันครั้งก่อน หยุนซีบอกว่า หากฉันไปนิกายดาบชิงอวิ๋น เธอจะมอบอาวุธศักดิ์สิทธิ์ให้ฉัน”
เยี่ยชิวพูดว่า “ปากก็บอกว่าเพื่อฉัน แต่ฉันว่านายอยากได้อาวุธศักดิ์สิทธิ์มากกว่า”
อมตะชางเหม่ยหัวเราะแหะๆ แล้วกล่าวว่า “ก็ไม่ใช่แค่อาวุธศักดิ์สิทธิ์เท่านั้น ฉันยังอยากได้สุราดีๆ สาวงาม...”
“พอแล้วๆ” เยี่ยชิวขัดจังหวะอมตะชางเหม่ยด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด แล้วพูดว่า “เปลี่ยนเส้นทางเดี๋ยวนี้ เราจะไปจงโจวกัน”
“เรื่องนี้ใหญ่หลวงมากและไม่อาจรอช้าได้แม้แต่น้อย”
“นอกจากนี้...”
เยี่ยชิวยังพูดไม่ทันจบ จู่ๆ บนขอบฟ้าไกลโพ้นก็ปรากฏกลุ่มเมฆหลากสีสันขึ้น
ในเวลาเดียวกัน ณ หุบเขาเบื้องล่างกลุ่มเมฆนั้น แสงสีทองสายหนึ่งก็พุ่งทะยานขึ้นฟ้าราวกับเสาค้ำสวรรค์ ทะลวงผ่านเวหา
วินาทีต่อมา ปราณเทพอันน่าสะพรึงกลัวก็แผ่ปกคลุมไปทั่วทุกสารทิศ ทำให้จิตใจของทุกผู้คนสั่นสะท้าน
“นั่นอะไรน่ะ?” อมตะชางเหม่ยสังเกตเห็นและอุทานออกมา
ดวงตาของผู้อาวุโสวัวส่องประกายวาบวับ เอ่ยเสียงทุ้มต่ำ “ช่างเป็นปราณมังกรที่แข็งแกร่งยิ่งนัก!”
แม้จะอยู่ห่างไกลกันมาก เพียงแค่เผชิญกับปราณที่แผ่ออกมาก็ทำให้พวกเขารู้สึกอึดอัดไปทั่วร่าง
“ปราณมังกร?” อมตะชางเหม่ยเบิกตากว้างด้วยความตกใจ “หรือว่าในเทือกเขานั้น จะมีมังกรแท้จริงที่โตเต็มวัยอยู่?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ
เรื่องนี้มีเติมเงินอ่านไหมครับ แนะนำหน่อย...
ทำไมลงวันละตอนแล้วครับ ช่วยชี้แจงหน่อยครับ...
ทำไมช่วงนี้ลงวันละตอนล่ะครับอีกอย่างช่วงแรกได้อ่านตั้งแต่7โมงเช้าแต่พอลงตอนเดียวต้องอ่านตอน3โมงเย็น...
ไอ้ชิบหาย มีแต่หน้าเปล่าๆมา3วันแล้ว พอๆเลิกอ่านบล็อคแม่งออกเลย หนังสือที่อื่นมีอ่านเยอะแยะ...
หลังๆทำไมลงแต่หน้าเปล่า ไม่มีตัวหนังสือสักตัว...
จะอ่านบท1611-1616ยังใงคับ...
ตอนที่ 267 - 301 มีแค่ 2-3 บรรทัดเองรบกวนแก้ไขให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ...
อยากอ่านจนจบเรื่องทำไงบ้างครับ...
ฮาเร็มไหมครับ...
ทำไมตอนที่267มันมีน้อยจังอะ...