ในขณะที่ฉีเทียนกำลังจะต่อสู้กับเฉินเทียนมิ่ง จู่ๆ เสียงฟ้าร้องก็ดังขึ้น พวกเขาเงยหน้าขึ้นในทันใด
“บูม!”
ร่างของคนผู้หนึ่งร่วงลงมาจากท้องฟ้าราวกับกระสุนปืนใหญ่ บดขยี้พื้นดินด้วยเท้าข้างหนึ่งของเขา
“แกร๊ก แกร๊ก แกร๊ก......”
เกิดรอยแยกบนพื้นดินในทันใด รอยร้าวเป็นทางยาวหลายเส้นปรากฏขึ้นบนพื้นดิน แผ่ขยายออกไปราวกับร่องน้ำตามภูเขา
ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคนผู้นี้คือยอดฝีมือ!
เยี่ยชิวเงยหน้าขึ้นมอง เขาเห็นร่างของคนผู้นี้ปกคลุมไปด้วยแสงสีทอง ราวกับเป็นร่างที่สร้างขึ้นมาจากทองคำอันแวววาว แม้แต่เส้นผมก็เป็นสีทอง เหมือนกับแสงแห่งทวยเทพ
“เฉินเทียนมิ่ง ชีวิตของเจ้า ข้ารอรับไว้แล้วกัน”
ร่างสีทองมองมาที่เฉินเทียนมิ่ง น้ำเสียงของเต็มไปด้วยความครอบงำ แววตาเปี่ยมล้นไปด้วยเจตนาฆ่าอันแรงกล้า
“ไอ้เด็กเปรต ข้าสัมผัสได้ถึงลมหายใจหมัดทำลายสวรรค์และโลกจากเขา คนผู้นี้น่าจะมาจากพื้นที่เทพไท่ชู” อมตะชางเหม่ยส่งกระแสจิตไปยังเยี่ยชิว
เยี่ยชิวตอบกลับไปว่า “หากข้าเดาไม่ผิด คนผู้นี้อาจจะเป็นบุตรเทพแห่งพื้นที่เทพไท่ชู ไม่อย่างนั้นคงไม่กล้าท้าทายเฉินเทียนมิ่ง”
เป็นอย่างที่คิด
หลังจากเฉินเทียนมิ่งได้ยินคำพูดของคนผู้นี้ เขาตอบกลับไปด้วยน้ำเสียงแห่งความดูถูก “ข้าก็คิดว่าใคร ที่แท้ก็บุตรเทพอันดับที่สองแห่งพื้นที่เทพไท่ชูนี่เอง”
“หวังชง ข้าไม่ใช่คนอวดดี แต่ต่อให้เจ้าฝึกฝนอีกพันปี เจ้าก็ไม่ใช่คู่ต่อสู้ของข้า”
“เจ้ากลับไปเรียกพี่ชายของเจ้ามาดีกว่า ข้าจะได้จัดการกับพวกเจ้าสองคนพี่น้องพร้อมกันไปเลย”
หวังชงมาจากตระกูลหวังแห่งพื้นที่เทพไท่ชู
สถานะของตระกูลหวังในพื้นที่เทพไท่ชูนั้น คล้ายกับสถานะของตระกูลเฉินในนิกายดาบชิงอวิ๋น แถมตระกูลหวังยังถูกเรียกว่าตระกูลแห่งบุตรเทพ
นับตั้งแต่สถาปนาพื้นที่เทพไท่ชูขึ้นมา ผู้นำของตระกูลหวังทุกคนล้วนเป็นบุตรเทพ
พอมาถึงยุคของหวังชง ตระกูลหวังมีบุตรเทพปรากฏถึงสองคน
หวังชงคือบุตรเทพคนที่สองแห่งพื้นที่เทพไท่ชู และถือเป็นอัจฉริยะรุ่นใหญ่ของพื้นที่เทพไท่ชูที่ไม่มีใครเทียบเทียม แต่ถึงอย่างไรก็ตาม พี่ชายของเขาหวังชงแข็งแกร่งกว่า ทุกคนนี้เขาคือบุตรเทพอันดับหนึ่งแห่งพื้นที่เทพไท่ชู อยู่ในอาณาจักรครึ่งนักบุญ
สุสานมังกรเปิดออกในครั้งนี้ คนที่น่าจะมาก่อนควรจะเป็นหวังชง แต่เนื่องด้วยหวังชงอยู่ระหว่างการฝึกฝน ตั้งนั้นจึงส่งหวังชงมาแทน
คุณปู่ของหวังชงเป็นนักบุญใหญ่ผู้แข็งแกร่ง พ่อของเขาเป็นนักปราชญ์ พี่ชายของเขาเป็นครึ่งนักบุญ ด้วยเหตุนี้ ปราชญ์แห่งพื้นที่เทพไท่ชูจึงทำการเขียนจดหมายไปหาตระกูลหวัง
“ตระกูลผู้มีสองบุตรเทพ และหลานชายซึ่งเป็นนักปราชญ์!”
จดหมายนี้แพร่หลายในตงฮวง ทำให้ทุกคนได้รับรู้
หวังชงจ้องมองไปที่เฉินเทียนมิ่งด้วยแววตาแห่งความขุ่นเคือง หลังจากนั้นเขาก็หันมาทำความเคารพฉีเทียนพร้อมพูดว่า “พี่ฉี ข้ารู้ว่าท่านอยากสังหารเฉินเทียนมิ่งด้วยมือของท่านเอง แต่เฉินเทียนมิ่งกับพื้นที่เทพไท่ชูของพวกเราเป็นศัตรูที่ไม่อาจอยู่ร่วมโลกกันได้ ด้วยความเคารพ ท่านได้โปรดอย่าเข้ามาแย่งเหยื่อของข้าเลย”
พูดจบหวังชงยืดตัวตรง โค้งคำนับให้แก่ฉีเทียนด้วยความเคารพ
“พี่หวัง นี่ท่าน?” ฉีเทียนแสดงใบหน้าสงสัย
เขาไม่ได้สนิทกับหวังชง ก่อนที่จะเดินทางมายังสุสานมังกร เขาไม่เคยเจอหวังชงผู้นี้มาก่อน
หลายปีที่ผ่านมา ฉีเทียนมุ่งมั่นอยู่กับการฝึกฝน แทบจะไม่ได้ลงมาจากเขาเลย เขาจะไปสนใจเรื่องราวหรือผู้คนภายนอกได้อย่างไร หากไม่ใช่เพราะท่านผู้อาวุโสสามแนะนำให้ฉีเทียนรู้จักขุมพลังอันยิ่งใหญ่แห่งสุสานมังกร ฉีเทียนก็คงไม่รู้จักหวังชง
ฉีเทียนไม่เข้าใจ เหตุใดหวังชงจึงต้องทำความเคารพเขาเช่นนี้ด้วย?
“พี่ฉี ครั้งนี้ต้องขอบคุณความช่วยเหลือจากสำนักหยินหยางของพวกท่านมาก ไม่อย่างนั้น เอ่อ......”
หวังชงคิดถึงตรงนี้ ใบหน้าของเขาดูเศร้าโศก ถอนหายใจออกมายาวๆ พร้อมพูดว่า “ไม่ว่าอย่างไรสำนักหยินหยางของพวกท่านก็ได้สร้างบุญคุณอันยิ่งใหญ่แก่พวกเรา ข้าจะจดจำไว้ในใจ”
“รอให้เรื่องนี้สิ้นสุดลง ข้าจะกลับไปรายงานปราชญ์”
“วางใจเถอะ รอหลังจากกลับแล้ว เพื่อความสำเร็จของเจ้า ข้าจะรายงานสถานการณ์ทั้งหมดให้กับท่านอาจารย์เอง”
เยี่ยชิวแสร้งทำเป็นเกรงอกเกรงใจ “ศิษย์พี่ ท่านอย่าทำเช่นนั้นเลย”
“ข้าลงมือช่วยเหลือคนของพื้นที่เทพไท่ชู นอกจากพวกเขาเป็นพันธมิตรของพวกเราแล้ว ยังมีอีกหนึ่งเหตุผล นั้นก็คือคำสอนของท่านอาจารย์”
“ท่านอาจารย์บอกกับข้าเป็นประจำว่า เกิดเป็นมนุษย์ต้องแยกแยะผิดชอบชั่วดีให้ชัดเจน มีความยุติธรรมในใจ”
“เนื่องจากข้าคำนึงถึงคำสอนของท่านอาจารย์มาโดยตลอด ข้าจึงตัดสินใจลงมือช่วยเหลือพวกเขา หากไม่ใช่เพราะคำสอนของท่านอาจารย์ เกรงว่าข้าคงไม่มีความกล้าในความช่วยเหลือแก่พวกเขา”
“หากเป็นความสำเร็จหรือความดีความชอบจริง เช่นนั้นเรื่องราวทั้งหมดคงเป็นความสำเร็จของท่านอาจารย์”
ฉีเทียนแอบคิดในใจ “แยกแยะผิดชอบชั่วดี? มีคุณธรรมอยู่ในใจ? เหตุใดท่านอาจารย์ถึงไม่เคยพูดเรื่องพวกนี้กับข้าเลย?”
แต่เขาก็ไม่ได้คิดอะไรมาก
เนื่องจากฉีเทียนรู้สึกว่าเยี่ยชิวไม่มีทางพูดโกหกเขา และหลังจากที่ฉีเทียนได้ยินคำพูดเหล่านี้ของเยี่ยชิว หัวใจของฉีเทียนก็รู้สึกชื่นชมในตัวของเยี่ยชิวมากยิ่งขึ้น
“ไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดท่านอาจารย์ถึงยอมรับลูกศิษย์จากโลกมนุษย์ แม้ว่าหลงผู้ซ่าจะไม่พลังยุทธ์ไม่สูงมากนัก แต่เขาเป็นคนดี”
“เขาจดจำคำสั่งสอนของท่านอาจารย์อยู่เสมอ คิดแล้วนี่คงเป็นพรของท่านอาจารย์ เห็นได้ชัดว่านี่คือบุคคลที่รู้จักตอบแทนความเมตตาของผู้อื่น”
“ในตอนพบกันครั้งแรก เขาใช้ร่างกายในการปิดกลั้นปราณกระบี่ของข้า ไม่สนใจความเป็นความตายของตัวเอง ให้ความสำคัญกับความยุติธรรมยิ่งนัก ข้าช่างรู้สึกละอายใจเหลือเกิน”
“ท่านอาจารย์มีลูกศิษย์อย่างเจ้า คงเป็นพรของท่านอาจารย์ที่สั่งสมมาเป็นระยะเวลาหลายพันปี”
“การที่ข้ามีน้องชายเช่นนี้ เหมือนกับความสุขที่สวรรค์มอบให้”
“การที่ได้มีศิษย์น้องเช่นนี้ ชีวิตนี้ข้าก็ไม่รู้สึกเสียใจอีกแล้ว!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ
เรื่องนี้มีเติมเงินอ่านไหมครับ แนะนำหน่อย...
ทำไมลงวันละตอนแล้วครับ ช่วยชี้แจงหน่อยครับ...
ทำไมช่วงนี้ลงวันละตอนล่ะครับอีกอย่างช่วงแรกได้อ่านตั้งแต่7โมงเช้าแต่พอลงตอนเดียวต้องอ่านตอน3โมงเย็น...
ไอ้ชิบหาย มีแต่หน้าเปล่าๆมา3วันแล้ว พอๆเลิกอ่านบล็อคแม่งออกเลย หนังสือที่อื่นมีอ่านเยอะแยะ...
หลังๆทำไมลงแต่หน้าเปล่า ไม่มีตัวหนังสือสักตัว...
จะอ่านบท1611-1616ยังใงคับ...
ตอนที่ 267 - 301 มีแค่ 2-3 บรรทัดเองรบกวนแก้ไขให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ...
อยากอ่านจนจบเรื่องทำไงบ้างครับ...
ฮาเร็มไหมครับ...
ทำไมตอนที่267มันมีน้อยจังอะ...