เสียงเรียกของอมตะชางเหม่ยดังขึ้นขัดจังหวะการสนทนาระหว่างเยี่ยชิวและเหล่าจิ่ว เยี่ยชิวหันกลับไปเห็นเพียงแค่อมตะชางเหม่ยยืนอยู่ด้านหน้ากำแพง
บนกำแพงว่างเปล่า ไม่เห็นมีอะไรเลย
เยี่ยชิวจึงไม่สนใจอมตะชางเหม่ย หันกลับไปถามเหล่าจิ่วต่อว่า "ข้าเคยเห็นตู๋กูอู๋ตี๋ในโลกมนุษย์ เขาเป็นแค่นักปราชญ์ ทำไมเขาถึงปรากฏตัวในโลกมนุษย์ได้ล่ะ"
เหล่าจิ่วกล่าวว่า: "เรื่องนี้ข้าก็ไม่รู้เหมือนกัน แต่ว่าครั้งหน้าหากเจ้าเห็นตู๋กูอู๋ตี๋อีก เจ้าก็ลองถามเขาดูสิ”
“ข้าเดาว่าเขาต้องเชี่ยวชาญเทคนิคลับพิเศษอะไรสักอย่างหรือเขาอาจมีของวิเศษบางอย่างอยู่แน่ ๆ ”
“เจ้าหนู จริงๆ แล้วยังมีอีกวิธีหนึ่งที่จะพาเจ้ากลับไปที่โลกมนุษย์ได้นะ”
เยี่ยชิวรีบถามทันที : “วิธีไหนหรือ?”
"ช่วยข้าหาชิ้นส่วนร่างของข้า" เหล่าจิ่วกล่าว: "เมื่อร่างของข้ากลับมาครบสมบูรณ์ เมื่อนั้นข้าก็สามารถพาเจ้าไปที่โลกมนุษย์ได้"
เยี่ยชิวพูดไม่ออก
เขามาอยู่ที่โลกฝึกเซียนตั้งนานแล้วยังไม่เคยเห็นชิ้นส่วนร่างต่าง ๆ ของเหล่าจิ่วเลย ใครจะรู้ว่าพวกมันไปอยู่ที่ไหน?
“ข้าเกรงว่าการที่จะหาร่างของเจ้ามันยากยิ่งกว่าการที่ข้าจะไปเป็นกษัตริย์เสียอีก” เยี่ยชิวพูดด้วยน้ำเสียงเคืองนิด ๆ
“อย่าเพิ่งท้อใจไป เมื่อไหร่ที่เข้าใกล้ร่างของข้า ข้าจะสัมผัสรู้ได้เอง” เหล่าจิ่วกล่าวเสริมว่า “งั้นข้าจะบอกวิธีที่เป็นไปได้ให้เจ้าแล้วกัน”
“หากว่าเจ้าได้ครอบครองโชคชะตาของเผ่ามนุษย์ที่เหลืออีกครึ่งหนึ่ง มีเพียงวิธีนี้ เจ้าถึงจะสามารถกลับไปที่โลกมนุษย์ได้ ”
“นั้นเพราะโลกมนุษย์เป็นของเผ่าพันธุ์มนุษย์เช่นกัน”
“และอีกอย่าง แม้ว่าตัวเจ้าจะอยู่ในโลกฝึกเซียนก็ตาม ทุกสิ่งในโลกมนุษย์เจ้าก็สามารถสัมผัสรับรู้ได้เช่นกัน”
“และเจ้ายังสามารถข้ามภพไปมาระหว่างโลกฝึกเซียนและโลกมนุษย์ได้ทุกที่ทุกเวลา”
ดูแล้ว คงต้องไปที่จงโจวสักครั้งแล้วล่ะ!
เยี่ยชิวกล่าวว่า: "จักรพรรดิเผ่าปีศาจกล่าวไว้ว่า อีกครึ่งหนึ่งของโชคชะตาของเผ่ามนุษย์นั้นอยู่ที่จงโจว หลังจากออกจากสุสานมังกรจะข้าจะไปที่จงโจวทันที"
เหล่าจิ่วถามว่า: "เจ้าหนู ข้างนอกสุสานมังกรยังมีนักปราชญ์อีกหลายคน เจ้าคิดบ้างหรือไม่ว่าจะหลบหนีออกไปได้อย่างไร"
เยี่ยชิวถามกลับ: " ฟังจากที่เจ้าพูด หรือว่าเจ้ามีวิธีช่วยข้าหลบหนีงั้นหรือ?"
“ไม่มี” เหล่าจิ่วกล่าว : “ข้าแค่ถามดูเท่านั้น”
เยี่ยชิว : “.........”
“เอาล่ะ พูดกับเจ้าเยอะขนาดนี้แล้ว ข้าก็เหนื่อยแล้วเหมือนกัน ข้าอยากจะนอนพักแล้ว” หลังจากเหล่าจิ่วพูดจบ โลงเลือดแดงก็สั่นสองครั้ง
ขณะที่เยี่ยชิวกำลังจะถอดจิตวิญญาณของเขา แต่จู่ ๆ เขารู้สึกว่ามิงค์วัฒนะและลูกกิเลนไม่ขยับเขยื้อนเลย
“สลบไปแล้วเหรอ?”
เยี่ยชิวเป็นเจ้านายของพวกมัน เพียงแวบเดียวเขาก็รับรู้ถึงการเปลี่ยนแปลงของพวกมันได้ เพียงแค่คิด ลูกิเลนและมิงค์วัฒนะก็ฟื้นขึ้นมาทันที
“ทำไมอยู่ดีๆพวกเจ้าถึงได้สลบไปล่ะ?” เยี่ยชิวถาม
ลูกกิเลนและมิงค์วัฒนะก็มองไปที่หม้อเฉียนคุน ด้านในหม้อเฉียนคุนมีไข่ลึกลับถูกสกดไว้อยู่
เยี่ยชิวสังเกตเห็นนัยน์ตาของลูกกิเลนและมิงค์วัฒนะมีความหวาดกลัว และจ้องมองไปที่หม้อเฉียนคุน แล้วขนของพวกมันลุกทั่วทั้งตัว
ยิ่งกว่านั้นพวกมันยังตัวสั่นเทาอีกด้วย
เยี่ยชิวก็เข้าใจในทันที
“เมื่อกี้เป็นเพราะมันทำให้พวกเจ้าสลบไปใช่ไหม? ” เยี่ยชิวถาม
ลูกกิเลนและมิงค์วัฒนะพยักหน้าทันที
“แค่ไข่ใบเดียวไม่ถึงกับทำให้พวกเจ้าหวาดกลัวจนสลบไปมั่ง?” เยี่ยชิวไม่อยากจะเชื่อ
ลูกกิเลนและมิงค์วัฒนะสีหน้าเต็มไปด้วยความเสียใจ เหลือบมองหม้อเฉียนคุน แล้วค่อยๆ ถอยออกไป
บ้าชะมัด ใข่ใบนั้นมันน่ากลัวเกินไป
“พวกเจ้าไม่ต้องกลัว ถ้าคราวหน้ามันกล้ารังแกพวกเจ้าอีก ข้าจะตีมัน ” เยี่ยชิวกล่าว
“ยังเป็นรูปแบบค่ายกลปิดผนึกด้วยนะ”
“ข้าเดาว่าหลังกำแพงนี้ต้องมีสิ่งของบางอย่างแน่ ไม่แน่อาจจะเป็นมรดกจักรพรรดิมังกร”
เยี่ยชิวถาม : “เจ้าสามารถเปิดมันได้ไหม?”
“ค่ายกลนี้ไม่ได้ง่าย รูปแบบการวางค่อนข้างซับซ้อนมาก คิดที่จะทำลายมันนั้นยากมาก แต่…” อมตะชางเหม่ยเปลี่ยนเสียงของเขาและพูดด้วยรอยยิ้ม: “ ก็ช่วยไม่ได้ในเมื่อข้าเป็นคนอัจฉริยะเสียด้วย หลังจากที่ข้าสังเกตมันอยู่สักพักหนึ่ง ข้าก็ค้นพบวิธีที่จะทำลายค่ายกลนี้ได้”
“แล้วเจ้าจะมัวเสียเวลาอยู่ทำไม ทำลายค่ายกลนี้ซะ ” หลังจากที่เยี่ยชิวพูดจบ เขาก็หันหลังและเปิดถุงเฉียนคุนแล้วใส่กระดูกมังกรขนาดใหญ่เข้าไปด้านใน
แม้ว่าสมบัติกระดูกราชามังกรจะมีความยาวหลายพันฟุต แต่ถุงเฉียนคุนก็มีขนาดใหญ่ไม่มีที่สิ้นสุด ใส่กระดูกมังกรขนาดใหญ่ไว้ข้างในนั้นก็เปรียบเสมือนเม็ดทรายที่ร่วงหล่นบนทะเลทรายเท่านั้น
“เป็นเด็กดีนะ ถุงเฉียนคุนที่ท่านอาจารย์มอบให้ข้านี้ช่างเป็นสมบัติล้ำค่าที่น่ามหัศจรรย์จริง ๆ”
“คิดไม่ถึงว่าใส่ของเข้าไปได้ตั้งมากมายขนาดนี้ ถุงเฉียนคุนยังไม่เต็มเลย”
เมื่อเยี่ยชิวคิดถึงสิ่งนี้ เขาก็นึกถึงอีกเรื่องหนึ่งขึ้นมาทันที
“มันแปลก ๆ ตอนที่ปรมาจารย์ออกจากโลกมนุษย์ เขาเป็นเพียงแค่ราชาขั้นสูงเท่านั้น เขาจะมีสมบัติล้ำค่าอย่างถุงเฉียนคุนได้อย่างไร?”
“เกรงว่าแม้แต่ผู้อาวุโสที่มีอำนาจสูงสุดก็อาจจะไม่สามารถครอบครองสมบัติล้ำค่าอย่างถุงเฉียนคุนนี้ได้แน่”
“แล้วท่านอาจารย์ไปเอามันมาจากไหน?”
“หรือว่าพลังยุทธ์ของท่านอาจารย์นั้นสูงส่งเกินกว่าที่ข้าคิดไว้?”
วินาทีแรก ในใจของเยี่ยชิวรู้สึกต่อจื่อหยางเทียนจุนนั้นดูเป็นคนลึกลับขึ้นมาทันที
“ข้ามาอยู่ที่โลกฝึกเซียนเป็นเวลานานแล้ว แต่ไม่ได้ข่าวใด ๆ เกี่ยวกับท่านอาจารย์ของข้าเลย และไม่รู้ท่านอาจารย์ไปไหน?”
เยี่ยชิวเหลือบมองสมบัติกระดูกมังกรขนาดใหญ่อีกครั้ง
“ก่อนหน้านี้ข้าลืมถามผู้นำแห่งเผ่าเทพ เขาฆ่าราชามังกร แล้วศรีษะของราชามังกรหายไปไหน?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ
เรื่องนี้มีเติมเงินอ่านไหมครับ แนะนำหน่อย...
ทำไมลงวันละตอนแล้วครับ ช่วยชี้แจงหน่อยครับ...
ทำไมช่วงนี้ลงวันละตอนล่ะครับอีกอย่างช่วงแรกได้อ่านตั้งแต่7โมงเช้าแต่พอลงตอนเดียวต้องอ่านตอน3โมงเย็น...
ไอ้ชิบหาย มีแต่หน้าเปล่าๆมา3วันแล้ว พอๆเลิกอ่านบล็อคแม่งออกเลย หนังสือที่อื่นมีอ่านเยอะแยะ...
หลังๆทำไมลงแต่หน้าเปล่า ไม่มีตัวหนังสือสักตัว...
จะอ่านบท1611-1616ยังใงคับ...
ตอนที่ 267 - 301 มีแค่ 2-3 บรรทัดเองรบกวนแก้ไขให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ...
อยากอ่านจนจบเรื่องทำไงบ้างครับ...
ฮาเร็มไหมครับ...
ทำไมตอนที่267มันมีน้อยจังอะ...