วิสารทแพทย์เทวัญ นิยาย บท 2220

เมื่อทุกคนเงยหน้าขึ้นไปก็มองเห็นเพียงอมตะชางเหม่ยที่กำลังนั่งขัดสมาธิอยู่กลางท้องฟ้า โดยมีแก่นวิญญาณทั้งเก้าที่เปล่งประกายแสงศักดิ์สิทธิ์เจิดจ้าอยู่เหนือศีรษะ

ทันใดนั้นเอง รอบๆตัวของอมตะชางเหม่ยก็ปรากฏแสงสีทองนับร้อยของยันต์แปดทิศ แสงนั้นค่อยๆหมุนวนไปรอบๆตัวของอมตะชางเหม่ย ซึ่งแสงเหล่านั้นยิ่งทำให้เขาดูเหมือนเทพเก่าแก่ไปกันใหญ่

และหลังจากนั้นเพียงไม่นาน

ก็เห็นเพียงแค่แสงสีทองนับร้อยจากยันต์แปดทิศที่ค่อยๆรวมตัวกันและกลายเป็นยันต์แปดทิศขนาดใหญ่

ในเวลานั้น อมตะชางเหม่ยก็กลายเป็นบุคคลเหนือธรรมชาติสำหรับทุกๆคนไปแล้ว

หลังจากนั้นไม่นาน

ยันต์แปดทิศเหล่านั้นก็แตกสลาย และกลายเป็นอนุภาคสีทองแล้วพุ่งเข้าไปร่างอมตะชางเหม่ย

อมตะชางเหม่ยจึงใช้โอกาสนี้ในการฝึกฝนวิชาร่างทองจื่อฮวง นั่นทำให้ร่างกายของเขาแข็งแกร่งขึ้นมาทันที

ทันใดนั้น ร่างของอมตะชางเหม่ยก็ได้แบบประกายแสงสีม่วงออกมา แสงสีม่วงเหล่านี้ได้แปรเปลี่ยนไปเป็นพลังเต๋าบริสุทธิ์ในพริบตาเดียว และเข้าไปพัวพันร่างกายของอมตะชางเหม่ยทั้งยังเคลื่อนตัวหมุนวนรอบๆตัวของเขาไม่หยุดหย่อน

ผู้คนจึงรับรู้ได้ว่าอมตะชางเหม่ยได้ปลดปล่อยพลังที่เต็มไปด้วยความลึกลับซับซ้อนออกมา

หยุนซานเองก็ตกใจจนร้องอุทานออกมา “นี่คือ....พลังเต๋า เป็นไปได้ไหมว่าชางเหม่ยเตาจ่างจะเป็นผู้มีร่างแห่งเต๋ากัน”

จื่อหยางเทียนจุนยิ้มแล้วกล่าวว่า “ถ้าจะพูดให้ถูกก็คือ เขานั้นมีร่างของแห่งเต๋าโดยกำเนิด”

อะไรนะ

หยุนซาน คางคกทองคำ และเซียนกระบี่ทั้งสี่ที่ได้ยินคำพูดของจื่อหยางเทียนจุนต่างก็ตกใจจนตาถลน

ร่างเต๋าโดยกำเนิดนั้นเป็นหนึ่งในร่างกายพิเศษที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกแห่งการฝึกเซียน

ว่ากันว่าผู้ที่มีร่างแห่งเต๋าต้นกำเนิดมีความสามารถในความเข้าใจวิชาเต๋าได้เหนือกว่าคนทั่วไป และถ้าเป็นคนที่ฝึกฝนวิชาเต๋าด้วยแล้ว ผลลัพธ์จะรวดเร็วกว่าผู้ฝึกวิชาคนอื่นถึงสองเท่า

ยิ่งไปกว่านั้น หลังจากที่ร่างกายแห่งเต๋าได้บรรลุไปจนถึงขั้นสมบูรณ์ พวกเขายังได้รับการคุ้มครองจากกฎแห่งสวรรค์อีกด้วย

“ผู้อาวุโสสูงสุด ถ้าเรื่องนี้เป็นไปตามที่ท่านได้พูดไว้ นั่นก็หมายความว่าชางเหม่ยมีร่างกายแห่งเต๋าโดยกำเนิดตั้งแต่แรก แล้วทำไมก่อนหน้านี้พวกเราถึงไม่รับรู้ถึงตัวตนของเขาเลยล่ะ”หยุนซานถามออกไปด้วยความสงสัย

จื่อหยางเทียนจุนตอบกลับไปว่า “อันที่จริง ข้าเองก็สับสนเช่นกัน แม้ว่าชางเหม่ยจะมีร่างแห่งเต๋าโดยกำเนิด แต่ก่อนหน้านี้เขาก็ไม่เคยแสดงออกมาให้เห็นเลย และถ้าเป็นแบบนั้นจริง งั้นก็หมายความว่าพลังยุทธของเขาในตอนนี้ยังไม่ใช่ระดับพลังที่แท้จริง”

“ข้าเองก็เพิ่งจะรู้ตอนที่สอนวิชาร่างทองจื่อฮวงให้กับเขาตัวเขานั้นมีร่างกายที่พิเศษ”

หยุนซานคาดเดาไปว่า “เป็นไปได้ไหมว่าชางเหม่ยจะจงใจปิดบังเรื่องร่างกายพิเศษของตัวเอง”

จื่อหยางเทียนจุนส่ายหน้า “ไม่ใช่หรอก”

“ก่อนหน้านี้พลังของชางเหม่ยอ่อนแอมาก ไม่มีทางปิดบังร่างกายพิเศษของตัวเองได้หรอก”

“แล้วอีกอย่าง เจ้าคิดว่าด้วยนิสัยของชางเหม่ยแล้ว เขาจะปิดบังเรื่องร่างกายพิเศษของเขางั้นหรือ”

เมื่อได้ยินดังนั้น หยุนซานก็หัวเราะออกมาไม่หยุด

ใช่แล้ว ถ้าดูจากนิสัยของอมตะชางเหม่ยแล้วล่ะก็ หากเขารู้ว่าตัวเองมีร่างกายแห่งเต๋า เขาคงจะยกหางตัวเองจนมันลอยขึ้นฟ้าไปแล้วล่ะ

จื่อหยางเทียนจุนกล่าวต่อว่า “ข้ารู้สึกว่าเหมือนมีคนจงใจปิดผนึกร่างแห่งเต๋าของชางเหม่ยเอาไว้ แต่นี่ก็เป็นเพียงการคาดเดาของข้าเท่านั้น ยังไม่มีหลักฐานอะไรแน่นอน”

“แต่ไม่ว่าอย่างไร ตอนนี้เขาก็ได้กระตุ้นร่างกายพิเศษของเขาจนสมบูรณ์แล้ว มันจะทำให้การฝึกฝนของเขาพัฒนาเร็วขึ้นเรื่อยๆ”

“หยุนซาน เจ้าจำได้ไหมว่านิกายดาบชิงอวิ๋นของพวกเราได้เก็บวิชาเต๋าอะไรเอาไว้ในคลังสมบัติและหอคัมภีร์บ้าง รีบนำวิชาเหล่านั้นมาให้ชางเหม่ยเร็วเข้า”

“ช่วยเขา ก็เหมือนเป็นการช่วยตัวเราเองนั่นแหละ”

“เข้าใจใช่ไหม”

สายตาของหยุนซานเป็นประกาย “ขอบคุณนะครับท่านผู้อาวุโสสูงสุดที่เตือนสติผม ข้าเข้าใจแล้ว”

เข้าใจแล้วว่านี่เป็นการสานสัมพันธ์กับอมตะชางเหม่ย

ตอนนี้พลังยุทธ์ของอมตะชางเหม่ยยังอ่อนแออยู่ การช่วยเหลือเขาในยามนี้ก็เปรียบเหมือนการส่งถ่านไปช่วยยามหิมะตก รอให้อมตะชางเหม่ยแข็งแกร่งกว่านี้ หากเมื่อไหร่ที่ทางนิกายดาบชิงอวิ๋นต้องการความช่วยเหลือจากเขา อมตะชางเหม่ยไม่ปฏิเสธแน่นอน

ใครจะรู้ การกระทำในตอนนี้อาจจะนำพาผลตอบแทนอันยิ่งใหญ่มาให้ในอนาคตก็ได้

ปรากฏว่าความคิดของจื่อเทียนจุนนั้นถูกต้อง

ในอนาคต นิกายดาบชิงอวิ๋นได้ถูกดูแลจากอมตะชางเหม่ย แน่นอนว่าเรื่องทั้งหมดนี้เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นในอนาคตอีกหลายปีข้างหน้า ถ้ายังงั้นก็อย่าเพิ่งพูดถึงเรื่องราวนั้นในตอนนี้เลยก็แล้วกัน

จิ่วเจี้ยนเซียนที่ฟื้นสติขึ้นมาได้ก็เผลอพูดไปว่า “ร่างกายแห่งเต๋าเป็นหนึ่งในร่างกายพิเศษที่แข็งแกร่งที่สุดในโลกฝึกเซียน ตั้งแต่อดีตกาลมา คนที่มีร่างกายแบบนี้มักจะเป็นคนที่แข็งแกร่งที่สุดของยุคนั้น”

สีหน้าของชูเจี้ยนเซียนไปด้วยความอิจฉา “ชางเหม่ยเต้าจ่างเพิ่งจะทะลวงขอบเขตพลังไปจนถึงสุดยอดขั้นทงเสิน การชำระบริสุทธิ์เองก็น่าจะใกล้ถึงแล้ว”

“แปลก บนกระดูกของข้าจะมียันต์อักขระได้ยังไง นี่จะทำให้มีปัญหาอะไรหรือเปล่าเนี่ย”

อมตะชางเหม่ยลองสัมผัสร่างกายของเขาอีกครั้งและพบว่าร่างกายของเขาเบาสบายดุจดั่งปุยนุ่น แต่ก็เต็มไปด้วยพลังมาก แม้กระทั่งจิตรับรู้ยังรับรู้ได้เร็วมากขึ้น

ไม่มีอะไรที่ดูผิดปกติเลย

จนถึงตอนนี้ สภาพจิตใจของอมตะชางเหม่ยก็เริ่มผ่อนคลายลง

“ฮ่าๆๆ ไม่คิดเลยว่าการทะลวงขอบเขตพลังครั้งนี้จะทำให้ฉันได้รับผลลัพธ์ที่ยิ่งใหญ่ขนาดนี้ ไม่เพียงแต่สามารถทะลวงขอบเขตพลังไปจนถึงขั้นสุดยอดทงเสินได้ แต่ยังฝึกฝนจนสามารถกำเนิดแก่นวิญญาณได้ถึงเก้าดวง”

สีหน้าของอมตะชางเหม่ยเต็มไปด้วยความตื่นเต้น และอารมณ์ที่พลุ่งพล่าน

พูดตามตรง การทะลวงขอบเขตพลังครั้งนี้เกินความคาดหมายของเขาไปมาก

เขาเคยคิดว่า เขาคงทำได้เพียงทะลวงไปถึงขั้นหยวนอิงระดับกลางเท่านั้น และฝึกฝนแก่นวิชาได้แค่สองหรือสามดวง แต่สิ่งที่เขาไม่คาดคิดก็คือ การเผชิญหน้ากับสวรรค์ลงโทษเพียงแค่ครั้งเดียวกลับทำให้เขาทะลวงขอบเขตพลังไปได้จนถึงจุดสุดยอดขั้นทงเสินซึ่งห่างจากระดับปราชญ์เพียงแค่ครึ่งก้าวเท่านั้น

และสิ่งที่สำคัญที่สุดก็คือ เขาสามารถฝึกฝนแก่นวิญญาณได้ถึงเก้าดวง

กล่าวอีกนัยนึงก็คือ เขาสามารถสู้กับคนที่อยู่ในระดับเดียวกันกับเขาได้ถึงเก้าคน

ไม่เพียงแค่นั้น การมีแก่นวิญญาณเก้าดวงก็เหมือนกับเขามีเก้าชีวิต ตราบใดที่ไม่ทำอะไรโง่ๆ ชีวิตของเขาก็จะปลอดภัยแน่นอน

“ในที่สุด ข้าก็ได้สัมผัสความรู้สึกของคนที่แข็งแกร่งที่สุดในบรรดาคนที่อยู่ระดับเดียวกันเสียที”

“จากนี้ไป ไม่มีใครในระดับทงเสินที่สามารถต่อกรกับข้าได้อีกต่อไป”

“โอ้โห ตัวข้านี่มันช่างยอดเยี่ยมเสียเหลือเกิน เก่งขนาดนี้ได้ยังไงกันนะ”

ยิ่งอมตะชางเหม่ยคิดมากเท่าไหร่ก็ยิ่งตื่นเต้น แล้วยิ่งเห็นบรรดาลูกศิษย์ของนิกายดาบชิงอวิ๋นที่ต่างก็มองเขาด้วยสายตาที่เต็มไปด้วยความเคารพและศรัทธา นั่นยิ่งทำให้ความทนงของเขาพุ่งสูงขึ้นไปอีก

“ในเมื่อโชว์เหนือไปแล้วก็ต้องไปให้สุด”

พออมตะชางเหม่ยคิดได้ดังนั้น เขาก็ลุกขึ้นยืนพร้อมกับแถบพลังแห่งเต๋ากระจายไปทั่วร่าง ทำให้เขาดูเหมือนกับเทพเจ้าองค์หนึ่ง จากนั้นเขาก็ได้ประกาศออกไปว่า

“คว้าเดือนคว้าดาวมาประดับฟ้า สุดใต้หล้ามิมีใครเทียบ”

“ก้าวข้ามหยินหยางควบคุมสรรพสิ่ง ในการฝึกตนข้าคือผู้ยิ่งใหญ่!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ