วิสารทแพทย์เทวัญ นิยาย บท 2222

อมตะชางเหม่ยเห็นเยี่ยชิวนั่งขัดสมาธิก็อึ้งไปชั่วขณะ

นี่เจ้าจะหมายความว่าอะไร?

คิดจะทะลวงระดับตรงนี้เลยหรือ?

ข้ากำลังโชว์อยู่แท้ๆ ยังโชว์ไม่จบเลย!

แต่ดูเหมือนว่าเยี่ยชิวได้เข้าสู่สภาวะตรัสรู้แล้ว

เขานั่งขัดสมาธิกลางอากาศ รอบตัวมีแสงสีทองล้อมราวกับเทพเจ้า ผู้ไม่มีสิ่งใดมากล้ำกรายได้

เยี่ยชิวร่ายวิชามังกรศักดิ์สิทธิ์เก้าชั้นเชิง เดินลมปราณได้อย่างลื่นไหล จนกระทั่งเกิดการสั่นสะเทือนกับกฎแห่งสวรรค์อีกครั้ง

พลังแห่งโชคลาภเหมือนสายรุ้งหลากสีหล่นลงมาจากท้องฟ้า โอบล้อมเยี่ยชิวทั้งร่าง

ชั่วพริบตาเดียว เยี่ยชิวก็กลายเป็นจุดสนใจของทุกคน

อมตะชางเหม่ยรู้สึกว่าตัวเองอยู่ตรงนี้เริ่มจะไร้ความหมาย คิดในใจว่า "ไอ้เด็กเปรต รอให้เจ้าทะลวงระดับสำเร็จก่อนเถอะ จากนั้นค่อยมาสู้กัน ข้าจะให้เจ้ารู้ว่า ข้านี่แหละบางครั้งก็เหนือกว่าเจ้าได้เหมือนกัน"

คิดได้ดังนั้น อมตะชางเหม่ยจึงเก็บแก่นวิญญาณทั้งเก้าของตนและลอยลงสู่พื้นดิน

ขณะที่บนอากาศนั้น...

ในจิตของเยี่ยชิวมีความคิดนับไม่ถ้วนปรากฏขึ้นมา สิ่งที่เขาเคยไม่เข้าใจ ตอนนี้กลับราวกับไหลลื่นไร้สะดุด ความคิดของเขาเริ่มประสานเข้ากับเต๋าแห่งสวรรค์

ณ ขณะนั้นเอง เยี่ยชิวรู้สึกว่าทุกสิ่งรอบตัวเหมือนหายไปหมด เสียงทุกอย่างเงียบสนิท เขาเหมือนล่องลอยอยู่ในจักรวาลกว้างใหญ่ไร้ขอบเขต รอบตัวเต็มไปด้วยดวงดาวระยิบระยับ

เขาไม่ได้สังเกตเลยว่า พลังแห่งโชคลาภกำลังชำระล้างร่างกายของเขา

ไม่นานหลังจากนั้น

"ฮึ่ม!"

แก่นวิญญาณทั้งเก้าปรากฏขึ้นเหนือศีรษะของเยี่ยชิว

เมื่อผู้คนเห็นแก่นวิญญาณทั้งเก้าบรรยากาศในที่นั้นก็ปะทุขึ้นทันที

"พระเจ้า! คุณชายเยี่ยฝึกฝนจนมีแก่นวิญญาณถึงเก้าดวง!"

"พรสวรรค์ของคุณชายเยี่ยช่างหาได้ยากยิ่งนักในหมื่นคน!"

"......"

แต่ความประหลาดใจยังไม่สิ้นสุด เมื่อศีรษะของเยี่ยชิวปรากฏแก่นวิญญาณ

แก่นวิญญาณดวงที่สิบ!

"อะไรนะ! คุณชายเยี่ยบรรลุถึงขอบเขตสูงสุดของแก่นวิญญาณแล้ว!"

"นี่มัน... เป็นไปได้ยังไง?"

"เราต้องใช้เวลาหลายร้อยปีเพื่อสร้างแก่นวิญญาณเพียงดวงเดียว แต่คุณชายเยี่ย กลับสร้างได้ถึงสิบดวง! เขาเป็นอัจฉริยะเหนือธรรมดาจริงๆ!"

"เมื่อก่อนที่รู้ว่าหยุนซีที่เป็นนักปราชญ์หญิงหลงใหลในตัวเขา ข้ายังไม่ยอมรับ แต่ตอนนี้ข้ายอมรับแล้ว เมื่อเปรียบกับคุณชายเยี่ย ข้าก็เป็นเพียงแค่เศษฝุ่น!"

"......"

หน้าประตูตำหนักที่ประชุม

หยุนซานถึงกับตะลึง "เจ้าหนูคนนี้ บรรลุถึงขอบเขตสูงสุดของแก่นวิญญาณได้จริงๆ ช่างเก่งกาจนัก!"

แม้แต่เขาเองก็ต้องยอมรับว่าพรสวรรค์ของเยี่ยชิวนั้นน่าทึ่ง

จื่อหยางเทียนจุนยิ้ม "เมื่อบรรลุถึงขอบเขตสูงสุดของแก่นวิญญาณ การทะลวงสู่ระดับทงเสินก็ขึ้นอยู่กับแค่ความตั้งใจเพียงครั้งเดียว"

"แต่อยากรู้ว่าเขาจะลองหรือไม่?"

จื่อหยางเทียนจุนมองไปที่เยี่ยชิวด้วยความคาดหวัง

หยุนซานเอ่ยถาม "ท่านผู้อาวุโสสูงสุดลองอะไรหรือ?"

จื่อหยางเทียนจุนกล่าวว่า: "ข้าเคยให้คำแนะนำกับเยี่ยชิวไป แต่เขาจะทำตามหรือไม่นั้น ข้าเองก็ไม่แน่ใจ แม้ว่าเขาจะลองทำ แต่จะสำเร็จหรือไม่นั้นก็ไม่มีใครรู้"

หยุนซานยิ่งอยากรู้ขึ้นไปอีก จึงถามว่า:"คำแนะนำอะไรหรือ?"

จื่อหยางเทียนจุนตอบ:"รวมแก่นวิญญาณทั้งสิบให้เป็นหนึ่งเดียว"

"อะไรนะ!?" หยุนซานถึงกับตะลึง

เขาแทบจินตนาการไม่ออกเลยว่า การรวมแก่นวิญญาณทั้งสิบให้เป็นหนึ่งเดียวจะต้องใช้ความกล้าหาญและจิตใจที่มั่นคงเพียงใด

เพราะหากล้มเหลว แก่นวิญญาณทั้งสิบจะเสียหายจนสิ้น แม้ผู้ฝึกตนจะไม่เสียชีวิต แต่ก็จะได้รับบาดเจ็บที่ยากจะเยียวยา

แต่มีเพียงหยุนซาน คนเดียวที่ในแววตาแฝงไว้ด้วยความกังวลลึกๆ เพราะเขารู้ดีว่า เส้นทางที่เยี่ยชิวเลือกเดินนั้นไม่เพียงแต่จะยากลำบาก แต่ยังเต็มไปด้วยอันตรายอย่างยิ่ง หากพลาดเพียงเล็กน้อย อาจตกลงไปในหุบเหวลึกจนร่างแหลกละเอียด

หยุนซานอดไม่ได้ที่จะเหลือบมองไปยังหยุนซีที่อยู่ไม่ไกล

ในตอนนี้ หยุนซีจ้องมองเยี่ยชิวด้วยความตื่นเต้น มือไม้โบกสะบัดอย่างดีใจ พร้อมพูดคุยหยอกล้อกับไป๋ฮวาเซียนจื้ออย่างสนุกสนาน

"เด็กโง่เอ๊ย เจ้ายังหัวเราะได้อีกหรือ เจ้าไม่รู้หรือว่าเส้นทางที่เขาเดินอยู่นั้นไม่เคยมีผู้ใดเคยเดิน เจ้าเดินตามเขาไป ในอนาคตไม่รู้จะต้องมีวันที่ทุกข์ใจอีกเท่าไร"

หยุนซานถอนหายใจเบา ๆ

แต่ในขณะนั้นเอง เหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น

เกิดเสียงฟ้าร้องคำรามดังสนั่บนท้องฟ้าน และตามมาด้วยแสงสีรุ้งนับพันที่สาดส่องลงมา พลังศักดิ์สิทธิ์เรืองรองปกคลุมไปทั่วทั้ง นิกายดาบชิงอวิ๋น

แม้แต่จื่อหยางเทียนจุนและหยุนซานก็สังเกตเห็นว่าบนยอดเขาหลายแห่งของนิกาย มีดอกบัวสีทองผุดขึ้นมาจากพื้นดิน บ่อน้ำโบราณที่แห้งเหือดมานานก็เริ่มมีน้ำศักดิ์สิทธิ์เอ่อล้นออกมา ต้นไม้ที่ตายไปนับพันปีกลับแตกหน่อใหม่ ราวกับได้รับชีวิตใหม่

ไม่เพียงเท่านั้น เหนือตำหนักใหญ่ว่าการ ยังปรากฏพลังศักดิ์สิทธิ์รูปมังกรฟ้า เสือขาว วิหคเพลิงจูเชวี่ยและเต่าดำเสวียนอู่ที่คำรามก้องฟ้า ยืนเฝ้าทั้งสี่ทิศอย่างน่าเกรงขาม

ในขณะเดียวกัน ทุกคนที่อยู่ในเหตุการณ์ต่างรู้สึกเหมือนมีพลังวิญญาณไหลเวียนเข้าสู่ร่างกาย ความรู้สึกอบอุ่นและสุขสบายแผ่ซ่านไปทั่ว ราวกับได้รับการบำรุงจากพลังศักดิ์สิทธิ์ อีกทั้งปัญหาที่เคยเป็นอุปสรรคในการฝึกฝนก่อนหน้านี้ กลับถูกคลี่คลายลงอย่างง่ายดาย คล้ายกับเข้าสู่สภาวะตรัสรู้

หยุนซานกล่าวขึ้นด้วยน้ำเสียงซับซ้อนว่า "เจ้าหนูนี่นะ ไม่เพียงแต่สร้างเส้นทางใหม่ที่ไม่มีใครเคยเดินมาก่อน ยังทำให้เกิดเรื่องใหญ่ขนาดนี้ นิกายดาบชิงอวิ๋นได้รับประโยชน์อย่างมหาศาลจากเขา งานนี้เราติดหนี้บุญคุณเขาไปเต็ม ๆ"

จื่อหยางเทียนจุน ยิ้มและตอบกลับว่า "ข้าเคยบอกแล้วไม่ใช่หรือ? ใครก็ตามที่มีความสัมพันธ์เชื่อมโยงกับเยี่ยชิว จะต้องได้รับผลดีเกินคาดเสมอ"

หยุนซานสีหน้ากลับเต็มไปด้วยความกังวล เขากล่าวว่า "แต่เส้นทางที่เยี่ยชิวเลือกเดินมันยากเกินไป... เขาจะไม่..."

เมื่อพูดถึงตรงนี้ หยุนซานก็หยุดพูดกลางคัน

"เจ้ากำลังจะพูดว่า คนฉลาดเกินไปมักจะพังทลายง่ายใช่ไหม?" จื่อหยางเทียนจุน ถามพร้อมรอยยิ้มบางๆ

หยุนซานพยักหน้ารับอย่างเงียบ ๆ

"วางใจเถิด เยี่ยชิวมิใช่คนดวงบาง เขาจะไม่ตายก่อนวัยอันควรหรอก"

ทันใดนั้น จื่อหยางเทียนจุนก็พลันนึกถึงปรมาจารย์ชิงอวิ๋น พร้อมกับคิดในใจว่า

"ปรมาจารย์... ท่านคาดการณ์ไว้แล้วหรือไม่ว่า เยี่ยชิวจะเดินเส้นทางที่แตกต่างจากคนรุ่นก่อน?"

"แล้วที่ท่านวางแผนไว้มันคืออะไรกันแน่?"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ