วิสารทแพทย์เทวัญ นิยาย บท 2321

เหยา กวนเจียตอบว่า “ต้าซันอยู่ทางทิศตะวันออกของเมืองเฟยไล่ ห่างจากวังเจ้าเมืองประมาณยี่สิบลี้

หลายปีก่อน ได้มีระฆังลูกหนึ่งไม่ทราบที่มา บินมาโปรยปรายตกที่ต้าซัน ตั้งแต่นั้น เมืองนี้จึงได้ชื่อว่า ‘เมืองเฟยไล่’

ตอนนั้นเจ้าเมืองยังทรงโปรดให้สร้างตำหนักขึ้นกลางไหล่เขาของต้าซัน แล้วจัดให้แขวนระฆังเอาไว้กลางตำหนัก เมื่อใดที่เจ้าเมืองขึ้นครองราชย์ต่อจากพระองค์ก่อน ก็จะเสด็จมายังต้าซันเพื่อประกอบพิธีบวงสรวง

เหยี่ยชิวถามว่า “ระฆังยังอยู่ที่ต้าซันหรือไม่”

“ยังอยู่” เหยา กวนเจียว่า “ต้นปีนี้ ข้าพเจ้ายังได้ตามเจ้าเมืองไปต้าซันขึ้นธูปไหว้พระอยู่เลย”

“งั้นเราไปต้าซันตรงๆ เลยดีกว่า!” เหยี่ยชิวหันไปพูดกับหญิงสาว

เหยา กวนเจียว่า “ท่านผู้ใหญ่ทั้งหลาย มารโลหิตตัวนั้นมันเจ้าเล่ห์นัก ยามจับกุมต้องระวังให้ดี”

“ขอบคุณที่เตือน” เหยี่ยชิวกล่าว แล้วถามต่อว่า “มารโลหิตมีลักษณะอย่างไร”

จูชูครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วตอบว่า “มันตัวสูงใหญ่ทั้งตัวเหมือนหลอมด้วยโลหิต…ฉันไม่ทันได้มองชัดนัก แต่แน่ๆ ว่าเป็นอสูร”

จู่ๆ หญิงสาวก็ถามขึ้นว่า “เหยา กวนเจีย มารโลหิตบุกเข้าวังเจ้าเมืองฆ่าคนไปมากมาย แล้วเจ้าท่านรอดมาได้อย่างไร”

เหยา กวนเจียบนใบหน้าเปื้อนความอับอายว่า “จะให้บอกตามตรง ข้าเข้าไปในวังเจ้าเมืองตอนที่มันบุกมาพอดี ข้ากำลังปลดทุกข์อยู่ในห้องส้วม จึงหลบลงไปซ่อนในบ่อขี้

ตอนนั้นข้ากลัวจนใจแทบขาด สักแต่เห็นคนล้มตายต่อหน้า แต่ไม่กล้าขยับ

ไม่น่าเชื่อว่า พริบตาเดียว วังเจ้าเมืองที่เคยคึกคักก็เหลือแต่ข้าแก่ตัวนี้เพียงคนเดียว”

เมื่อพูดถึงตรงนี้ เหยา กวนเจียถึงกับน้ำตารื้น

“ท่านรอดมาได้นับว่าชาติหน้าคงยังได้เกิดเป็นคน” เหยี่ยชิวนึกขึ้นได้ จึงถามต่อว่า “ขอถามว่าเจ้าเมืองมีพลังฝึกตนถึงขั้นใดแล้ว”

“ทรงอยู่จุดสูงสุดขั้นทองเซิน เดินขาเดียวเข้าใกล้ประตูปราชญ์แล้ว” คำตอบไม่ใช่เหยา กวนเจีย แต่เป็นหญิงสาว

เหยี่ยชิวสบตาหญิงสาวด้วยความประหลาดใจแล้วถามว่า “ท่านรู้ได้อย่างไร”

หญิงสาวว่า “ปีที่แล้วฉันผ่านมาเมืองเฟยไล่ เจ้าเมืองได้อาราธนาฉันไปส่งระหว่างทาง”

เมื่อได้ยินดังนั้น เหยา กวนเจียท่าทางเหมือนนึกขึ้นได้ รีบจ้องหญิงสาวด้วยความตกใจว่า “หรือว่า…!”

คำว่าจะเอ่ยต่อปาก ก็ถูกหญิงสาวเหยียดยามลงมา เหยา กวนเจียรีบปิดปากไม่กล้าพูดต่อ

“จูชู พวกเราไปต้าซันกันเถอะ” หญิงสาวกล่าว

“ได้เลย” จูชูรับคำอย่างว่องไว

หมู่คณะเดินออกจากวังเจ้าเมือง เหยี่ยชิวครุ่นคิดแล้วว่า “นุ่งเอ๋อร์ เจ้าอยู่ที่นี่กับจูชูเถอะ เรื่องจับมารโลหิตให้พวกเราจัดการเอง”

หญิงสาวว่า “เรื่องนี้เกิดในดินแดนต้าโจว ในฐานะชาวต้าโจว ฉันย่อมต้องช่วยรักษาบ้านเมือง”

อมตะชางเหมยก็เตือนว่า “นุ่งเอ๋อร์ เจ้าไม่ได้ฝึกตนเลย ฉันว่าเจ้าอย่าไปเลยจะดีกว่า!”

ในน้ำเสียงเต็มไปด้วยความหมายแฝงว่า ถ้าไม่มีการฝึกตน ก็อย่าไปสร้างเรื่องเดือดร้อน

จูชูก็พูด “คุณหนู ถ้าเช่นนั้นคุณหนูอยู่ที่นี่จะดีกว่าไหม”

“ข้าต้องไปกับพวกเจ้า ข้าต้องดูให้ได้ว่ามารโลหิตคืออะไรกันแน่?” หญิงสาวกล่าวต่อ “วางใจเถอะ ข้าจะไม่เป็นตัวถ่วงพวกเจ้าหรอก”

“แต่ว่า…” อมตะชางเหมยยังคงอยากจะเตือน แต่ถูกเยี่ยชิวขัดจังหวะ

“งั้นก็ไปด้วยกันเถอะ” เยี่ยชิวกล่าว

“ก็ได้ ไอ้เด็กเปรต เจ้ารับผิดชอบดูแลคุณหนูนุ่งเอ๋อร์ด้วย” อมตะชางเหมยพูดจบก็แตะปลายเท้าเบา ๆ แล้วร่างก็หายวับไปในพริบตา

“เร็วอะไรขนาดนี้!” จูชูถึงกับตกตะลึง

เขาเองก็เป็นผู้มีฝีมือสูงในระดับสุดยอดขั้นทงเสิน แต่เขากลับพบว่า ความเร็วของอมตะชางเหมยนั้นเร็วกว่าเขามากนัก

“พวกเจ้าตามข้ามา” จูชูคว้าไหล่ขององครักษ์สองคนไว้คนละข้าง แล้วทะยานลิ่วออกไป

“คุณหนูนุ่งเอ๋อร์ ข้าจะพาท่านไป” เยี่ยชิวพูดจบก็คว้ามือหญิงสาวไว้

ทันใดนั้น เขาก็รู้สึกถึงความลื่นละมุนของมือที่นุ่มราวไร้กระดูก

ใบหน้าของหญิงสาวแดงระเรื่อ กำลังจะเอ่ยปากปฏิเสธ แต่เยี่ยชิวก็กุมมือของนางเหินขึ้นฟ้าทันที

อมตะชางเหมยและเจ้าวัวต้าลี่ก็ตามติดไป เมื่อจูชูรู้ตัวอีกที พวกเขาทั้งสามก็หายไปแล้ว

จูชูรีบพาองครักษ์ทั้งสองไล่ตาม

“ไป!”

ตำหนักบวงสรวงตั้งอยู่บนลานกว้างอันโอ่อ่า สงบน่าเกรงขาม

โครงสร้างหลักของตำหนักทำจากหินขนาดมหึมา ดูแข็งแรงมั่นคง ให้ความรู้สึกมั่นคงและนิรันดร์

ซุ้มประตูหน้าตำหนักใหญ่โต บนขื่อประตูสลักลวดลายซับซ้อน บอกเล่าเรื่องราวของโทเท็มลึกลับและตำนานเทพเจ้า

บานประตูทำจากไม้หนาทึบ ฝังตะปูทองแดง ให้ความรู้สึกหนักแน่นและน่าเกรงขาม

หลังคาตำหนักมุงด้วยกระเบื้องสีเขียว แอ่นโค้งเล็กน้อยไปข้างหน้า ยิ่งขับให้ตำหนักดูอลังการยิ่งขึ้น

“เข้าไปดูกันเถอะ!”

เยี่ยชิวและคณะเดินเข้าไปในตำหนักบวงสรวง

ภายในตำหนักกว้างใหญ่ แสงสว่างส่องเข้ามาทางช่องแสงบนหลังคา ทำให้บรรยากาศภายในดูสว่างและศักดิ์สิทธิ์

ผนังด้านในสลักลวดลายและตำนานเทพเจ้าต่าง ๆ เติมเต็มความลึกลับและศักดิ์สิทธิ์ให้กับสถานที่

กลางตำหนัก มีรูปเคารพขนาดใหญ่ ตั้งตระหง่านอย่างสง่าผ่าเผย ใบหน้าของรูปเคารพเคร่งขรึมและลึกลับ ชวนให้รู้สึกเคารพเกรงกลัว

ด้านหน้ารูปเคารพ มีโต๊ะบูชาตั้งอยู่ บนโต๊ะมีของเซ่นไหว้หลากชนิด เช่น กระถางธูป เชิงเทียน และอื่นๆ

เยี่ยชิวเงยหน้าขึ้นมอง เห็นเพียงโซ่เหล็กเส้นหนึ่งแขวนว่างเปล่าอยู่ตรงกลางหลังคา ส่วนระฆังนั้น หายไปแล้ว!

“แล้วระฆังล่ะ?”

คำพูดของเยี่ยชิวทำให้สายตาทุกคู่หันไปมองเพดานตำหนักพร้อมกัน ทันใดนั้น ทุกคนก็ถึงกับตะลึง

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ