เยี่ยชิวกับพวกเดินไปทางทิศตะวันตกได้สักพัก จู่ ๆ จูซูก็หันกลับไปมองแล้วร้องขึ้นอย่างตกใจ
“อ้าว? เต้าจ่างหายไปไหนแล้ว?”
ทุกคนหันกลับไปพร้อมกัน แต่กลับไม่เห็นอมตะชางเหม่ยอยู่ตรงนั้น
“ไอ้แก่คนนี้ จะวิ่งเร็วกินไปหน่อยแล้วมั้ง?” เสียงของเยี่ยชิวเพิ่งจบลง ก็มีเสียงร้องขอความช่วยเหลือดังลั่น
“ไอ้เด็กเปรต! รีบมาช่วยข้าที!”
ในทันใด ทุกคนต่างมองหน้ากันอย่างงุนงง
เมื่อครู่ยังอยู่ดี ๆ แค่หันหลังแวบเดียว ทำไมถึงได้ร้องซะแล้ว?
“ฟึ่บ!”
เยี่ยชิวพุ่งตัวออกไปทันที ในพริบตาก็เห็นอมตะชางเหม่ย
ที่พื้นหญ้าด้านล่างนั้น ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่มีหลุมลึกประมาณสี่ห้าสิบเมตรปรากฏขึ้นมา และในตอนนี้ อมตะชางเหม่ยก็ติดอยู่ในหลุมนั้น
แต่ที่แย่ยิ่งกว่านั้น คือร่างของอมตะชางเหม่ยถูกห่อหุ้มด้วยแสงสีทองชั้นหนึ่ง ถูกขังเอาไว้ในหลุมไม่สามารถออกมาได้
“เกิดอะไรขึ้นกันแน่?” เยี่ยชิวถามด้วยสีหน้าสงสัย
อมตะชางเหม่ยสบถด่าเสียงดัง “บัดซบ! ไม่รู้ว่าไอ้ชาติชั่วที่ไหนมาขุดหลุมไว้ตรงนี้! แถมยังวางค่ายกลหรืออาคมเวทเอาไว้ด้วย!”
เยี่ยชิวหัวเราะออกมา “ไม่ใช่ว่าท่านเชี่ยวชาญค่ายกลหรืออาคมเวทเหรอ? งั้นก็ถอดค่ายกลแล้วออกมาเองสิ”
อมตะชางเหม่ยตะโกนด่า “ข้าน่ะเชี่ยวชาญค่ายกลก็จริง แต่กับของนิกายพุทธน่ะ ข้าไม่รู้อะไรเลยเว้ย!”
ค่ายกลของนิกายพุทธงั้นเหรอ?
ที่นี่ทำไมถึงมีค่ายกลของนิกายพุทธกัน?
เยี่ยชิวรู้สึกแปลกใจอยู่ไม่น้อย
“เต้าจ่าง ข้ามาช่วยเอง” เจ้่าวัวต้าลี่พูดจบ ก็กำหมัดแน่นแล้วกระแทกลงไปทันที
“ตึง!”
หมัดของเจ้าวัวต้าลี่กระแทกเข้าใส่แสงสีทองนั้น เกิดเสียงดังสนั่นสะเทือนไปทั่วปฐพี แต่ชั้นแสงทองกลับไม่ขยับเขยื้อนแม้แต่น้อย แถมพลังจากหมัดยังสะท้อนกลับมา ทำให้เจ้าวัวต้าลี่ถอยหลังไปหลายก้าว
“อะไรนะ?”
เยี่ยชิวถึงกับตกใจ
เมื่อครู่หมัดของเจ้าวัวต้าลี่นั้นมีพลังมากพอจะฆ่าปราชญ์ได้เลยด้วยซ้ำ แต่ไม่น่าเชื่อเลยว่าแม้แต่ค่ายกลนี้ยังไม่สามารถเจาะทะลุได้
มันเหลือเชื่อเกินไปแล้ว!
ทันใดนั้น เสียงด่าของอมตะชางเหม่ยก็ดังขึ้นมา “เจ้าวัวต้าลี่! ไอ้เวรเอ๊ย! หยุดต่อยได้แล้ว!”
“ข้าจะตายอยู่แล้ว!”
ในตอนนั้น อมตะชางเหม่ยมีเลือดไหลออกมาจากเจ็ดทวาร อวัยวะตันทั้งห้าและอวัยวะกลวงทั้งหกแทบจะพังทลายหมดแล้ว
แม้ว่าหมัดของเจ้าวัวต้าลี่จะไม่สามารถเจาะค่ายกลได้ แต่แรงกระแทกที่ซัดใส่ค่ายกลนั้น กลับสะท้อนความรุนแรงทั้งหมดกลับมาใส่ตัวอมตะชางเหม่ยอย่างจัง
“ท่านอาจารย์ ค่ายกลนี่มันแข็งแกร่งเกินไป”
ความจริง ต่อให้เจ้าวัวต้าลี่ไม่พูด ทุกคนที่อยู่ตรงนั้นก็มองออกหมดแล้ว
“ข้าขอลองเอง” เยี่ยชิวพูดจบ ก็ดีดปลายนิ้วส่งพลังแห่งดาบออกไปทันที
ฟิ้ว!
พลังแห่งดาบพุ่งออกไปด้วยเสียงหวีดหวิว ตัดเข้าใส่แสงทองคำทันที “เคร้ง!” เสียงดังสนั่น แต่แสงทองกลับไม่แม้แต่จะสั่นไหว
“โอ้ย ”
ภายในแสงสีทอง อมตะชางเหม่ยกระอักเลือดออกมาคำหนึ่ง รีบตะโกนว่า
“ไอ้เด็กเปรต! หยุดลองได้แล้ว! ถ้ายังฝืนแบบนี้ต่อไป ค่ายกลยังไม่ทันพัง ข้าก็ได้ตายก่อนแน่!”
“งั้นจะให้ทำยังไงล่ะ? จะปล่อยให้ท่านติดอยู่ข้างในงั้นเหรอ?” เยี่ยชิวกล่าวขึ้น
“พวกเจ้าช่างมันเถอะ ข้าจะลองศึกษาดูเอง” อมตะชางเหม่ยว่า “แม้ข้าจะไม่เคยแตะต้องค่ายกลของนิกายพุทธมาก่อน แต่ข้าเชื่อว่า หมื่นธรรมล้วนมีรากเดียว ขอแค่มีเวลา ข้าต้องหาทางแก้มันออกมาได้แน่นอน”
เยี่ยชิวอดบ่นไม่ได้ว่า “ข้าจะเดินไปทางตะวันตก ท่านดันดื้อเดินไปทางตะวันออก นี่ไงล่ะ ผลลัพธ์สุดท้ายก็ติดกับอยู่แบบนี้”
“ไอ้เวร! ยังมีหน้ามาพูดประชดอีกเหรอ? ถ้าไม่ใช่เพราะเจ้า ข้าจะมาอยู่ในที่ห่วยแตกนี่ได้ยังไงกัน? แล้วจะมาติดอยู่ตรงนี้อีกเหรอ?” อมตะชางเหม่ยโกรธจัด “ใครก็อย่ามายุ่งกับข้า! ข้าจะออกไปเองให้ได้!”
บนพื้น
เสียงหัวเราะประหลาดพลันดังขึ้นมา
“ใครน่ะ!” จูซูตะโกนถามเสียงแข็ง
ทว่า กลับไม่มีเงาคนให้เห็นแม้แต่น้อย แต่เสียงหัวเราะประหลาดยังคงดังต่อเนื่อง
“ก๊ากกกกก…”
เสียงหัวเราะนั้นดังสลับสูงต่ำ บางคราก็แหลมเสียดแก้วหู บางคราก็ต่ำลึกน่าสะพรึงกลัว ราวกับอสูรร้ายที่กำลังล้อเล่นและหยอกเย้ากับเหยื่อของมัน ทำให้รู้สึกขนลุกเกรียวไปทั้งตัว
“เจ้าคือใครกันแน่! ออกมาเดี๋ยวนี้!” จูซูตะโกนอีกครั้ง
ขณะนั้นเอง เยี่ยชิวเอ่ยขึ้นว่า
“ปีศาจเลือด ข้ารู้ว่าเป็นเจ้า เลิกแสร้งทำเป็นผีหลอกได้แล้ว ออกมาเถอะ!”
ในวินาทีนั้นเอง พื้นดินทางทิศตะวันตกห่างออกไปสามร้อยเมตรพลันแตกออกดัง กรอบ ๆ ก่อนที่เงาร่างขนาดมหึมาจะค่อย ๆ โผล่พ้นจากใต้ดินขึ้นมา
เมื่อเห็นหน้าของมันอย่างชัดเจน จูซูและองครักษ์สองคนถึงกับหน้าซีดเผือดด้วยความตกใจ
เยี่ยชิวเหลือบมองหญิงสาวข้างกาย ก็เห็นว่านางยังสงบนิ่ง สีหน้าไม่เปลี่ยนแปลงแม้แต่น้อย
จากนั้นเขาจึงหันไปมองสิ่งมีชีวิตตรงหน้า
ปรากฏเป็นร่างของอสูรร้ายสูงสามเมตร ร่างกายใหญ่โต ปกคลุมไปด้วยขนสีแดงเพลิงหนาแน่น หยาบกร้าน ราวกับเปลวเพลิงที่กำลังลุกโชน ส่วนใบหน้า…
อัปลักษณ์สิ้นดี
ผมยาวของมันยุ่งเหยิงราวกับรังนก แถมยังสกปรกโสโครกประหนึ่งไม่ได้สระมาเป็นร้อยปี
ใต้หน้าผากกว้างใหญ่ เป็นดวงตาลึกโบ๋สองข้าง ส่องแสงเจ้าเล่ห์และโหดเหี้ยมออกมา
ปากของมันใหญ่มาก และเมื่อมันอ้าปาก ก็เผยให้เห็นฟันดำปี๋ที่เรียงรายอยู่ภายใน ชวนให้ขนลุกสยอง
“เจ้านี่แหละคือปีศาจเลือด?” เยี่ยชิวถามขึ้น
“ถูกต้อง ข้านี่แหละ” ปีศาจเลือดเปล่งเสียงคำราม ก่อนหัวเราะเสียงประหลาด “ก๊ากกกก… ยังมีคนกล้ามาเหยียบถิ่นข้าอีกหรือนี่ ดูท่าวันนี้ข้าจะได้กินอย่างอิ่มหนำอีกครั้งแล้วสิ!”
พูดจบ มันก็เดินตรงเข้ามาหาเยี่ยชิวกับพวกทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ
เรื่องนี้มีเติมเงินอ่านไหมครับ แนะนำหน่อย...
ทำไมลงวันละตอนแล้วครับ ช่วยชี้แจงหน่อยครับ...
ทำไมช่วงนี้ลงวันละตอนล่ะครับอีกอย่างช่วงแรกได้อ่านตั้งแต่7โมงเช้าแต่พอลงตอนเดียวต้องอ่านตอน3โมงเย็น...
ไอ้ชิบหาย มีแต่หน้าเปล่าๆมา3วันแล้ว พอๆเลิกอ่านบล็อคแม่งออกเลย หนังสือที่อื่นมีอ่านเยอะแยะ...
หลังๆทำไมลงแต่หน้าเปล่า ไม่มีตัวหนังสือสักตัว...
จะอ่านบท1611-1616ยังใงคับ...
ตอนที่ 267 - 301 มีแค่ 2-3 บรรทัดเองรบกวนแก้ไขให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ...
อยากอ่านจนจบเรื่องทำไงบ้างครับ...
ฮาเร็มไหมครับ...
ทำไมตอนที่267มันมีน้อยจังอะ...