วิสารทแพทย์เทวัญ นิยาย บท 2421

บนเวทีประลอง

จูเก๋อเฉาหยางมองเยี่ยชิวด้วยท่าทางกำเริบเสิบสานแล้วถามว่า :“เจ้าคิดจะแข่งยังไง?”

เยี่ยชิวกล่าวว่า:“ง่ายมาก ใครที่ปรุงยาวิญญาณได้ระดับสูงกว่า คนนั้นก็ชนะ”

“ถ้าระดับของยาวิญญาณเท่ากัน ก็ให้ดูที่จำนวนว่าใครปรุงได้มากกว่า”

“แน่นอน นี่คือการประลอง ดังนั้นต้องกำหนดเวลาจำกัด”

“เราจะใช้เวลา หนึ่งชั่วยาม เป็นขอบเขตการแข่ง ดีไหม?”

“ไม่มีปัญหา” จูเก๋อเฉาหยางตอบตกลงทันที

เขามั่นใจในตัวเองเป็นอย่างมาก ปกติเขาไม่จำเป็นต้องใช้เตาหลอมเทพเพลิงหมอกสีชาด ก็สามารถปรุง ยาวิญญาณระดับสวรรค์ได้อย่างง่ายดาย หากใช้เตาหลอมเทพเพลิงหมอกสีชาดนั้น เขายิ่งมั่นใจมากขึ้นไปอีกว่าจะสามารถปรุงยาวิญญาณระดับสวรรค์ชั้นสูง ได้ภายในเวลาเพียงหนึ่งชั่วยาม

ถ้าหากมีเวลาเพิ่มขึ้นอีกสักหน่อย… เขาก็สามารถปรุงยาวิญญาณระดับสวรรค์ชั้นยอดได้เช่นกัน

“ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นก็เริ่มกันเถอะ!” เยี่ยชิวกล่าว

“ไม่ใช่ว่าเราควรเริ่มพร้อมกันเหรอ?” จูเก๋อเฉาหยางถาม

“เจ้าเริ่มก่อนเลย ข้าค่อยเริ่มทีหลัง” เยี่ยชิวยิ้มตอบ

“วันนี้ข้าจะให้เจ้าได้เห็นว่า อะไรคือปรมาจารย์ยาที่แท้จริง” จูเก๋อเจาหยางพูดจบ ก็ประสานมือร่ายมุทราทันที

ในชั่วพริบตา เตาหลอมเทพเพลิงหมอกสีชาดก็ลอยขึ้นจากพื้นอย่างน่าอัศจรรย์

“ฟู่——”

จากนั้น ฝ่ามือของจูเก๋อเจาหยางพลันปรากฏเปลวเพลิงสีน้ำเงินเย็นเยียบ เขาตวัดมืออย่างรวดเร็ว ส่งเปลวไฟนั้นเข้าไปในเตาหลอมทันที

ทันใดนั้น เปลวไฟลุกโชนอย่างรุนแรงก็ปรากฏขึ้นใต้เตาหลอมเทพเพลิงหมอกสีชาด

เยี่ยชิวรู้สึกได้ถึงกระแสคลื่นความร้อนที่แผ่ซ่านออกมา

“เจ้าหนูนี่...อุปกรณ์กลั่นยาครบครันทีเดียว”

“เปลวไฟพิเศษระดับสวรรค์ เตาหลอมล้ำค่าไร้เทียมทาน”

“อายุยังน้อยแท้ ๆ แต่ไม่ธรรมดาเลยจริง ๆ!”

ยิ่งไปกว่านั้น เยี่ยชิวยังสังเกตเห็นว่า จูเก๋อเจาหยางนั้นมีทักษะการควบคุมเปลวไฟที่ประณีตและแม่นยำ

จูเก๋อเจาหยางไม่สนใจเยี่ยชิวอีกต่อไป เขาหยิบสมุนไพรออกมาทีละต้น โยนลงไปในเตาหลอม จากนั้นก็เริ่มจดจ่อกับการกลั่นยาอย่างจริงจัง

“ฟิ้ว!”

เยี่ยชิวสะบัดฝ่ามือลงไปข้างล่างเวที ทันใดนั้น เก้าอี้ตัวหนึ่งก็ลอยขึ้นมาบนเวที จากนั้นเขาก็นั่งลงบนเก้าอี้ เอนกายไขว่ห้างอย่างสบายใจ

ต่อจากนั้น ไม่รู้ว่าเขาไปควักเอาเมล็ดแตงโมจากที่ไหนออกมา เริ่มแกะกินอย่างเพลิดเพลิน พร้อมกับดูจูเก๋อเจาหยางกลั่นยาไปอย่างใจเย็น

ท่าทีของเขานั้นทำเอาผู้ชมด้านล่างเวทีต่างพากันตาค้าง ตะลึงถึงกับพูดไม่ออก

“บ้าเอ๊ย! คุณชายเยี่ยจะเล่นอะไรอีกเนี่ย?!”

“จูเก๋อเจาหยางเริ่มไปแล้ว ทำไมคุณชายเยี่ยยังไม่เริ่มอีกล่ะ?”

“หรือว่าคุณชายเยี่ยตั้งใจจะยอมแพ้?”

“แบบนี้ไม่ได้นะ! ถ้าคุณชายเยี่ยยอมแพ้ แล้วใครจะมาเป็นราชบุตรเขยขององค์หญิงต้าโจวกันล่ะ?”

“ข้าเป็นเอง”

ไม่ไกลนัก เว่ยอู่ซินแอบพูดในใจ

เขามองไปยังเยี่ยชิวที่อยู่บนเวที แล้วพูดอย่างดูแคลนว่า “ฮึ! แค่เรียกร้องความสนใจ”

อีกด้าน คู่แข่งตำแหน่งราชบุตรเขยคนอื่น ๆ ก็กำลังถกเถียงกันอย่างเมามัน

“ในสายตาข้า การประลองครั้งนี้ไม่จำเป็นต้องจัดขึ้นเลย เห็นได้ชัดว่าเยี่ยฉังเซิงกลั่นยาไม่เป็น”

“ใช่ ถ้าเขากลั่นยาเป็น เขาก็คงไม่มานั่งแกะเมล็ดแตงโมกินแบบนั้นหรอก!”

“กล้าแข่งกลั่นยากับจูเก๋อเจาหยาง ก็เหมือนกับกอดเสือเฒ่าแล้วร้องขอความช่วยเหลือ—หาที่ตายชัด ๆ”

“เยี่ยฉังเซิง! เลิกทำตัวขายขี้หน้าอยู่บนเวทีสักที รีบไสหัวลงมาเดี๋ยวนี้!”

“เยี่ยฉังเซิง! อย่าเสียเวลาไปมากกว่านี้เลย ยอมแพ้ซะเถอะ!”

“……”

เสียงด่าทอถากถางดังขึ้นอย่างต่อเนื่องไม่หยุด

แล้วยังตอนอยู่ตงฮวงก่อนหน้านี้ ไม่ว่าจะเป็นฉีเทียน หรือเฉินเทียนมิ่ง ใครเล่าที่ไม่ใช่อัจฉริยะที่ไม่มีใครเทียบ?

สุดท้ายก็ถูกเยี่ยชิวเหยียบไว้ใต้เท้าเหมือนกัน

“ถ้าเจ้าเด็กเปรตคือจันทราอันเจิดจ้า เจ้าพวกอัจฉริยะที่เหลือก็เป็นแค่ดวงดาวที่ล้อมรอบมันอยู่ตลอดไปก็เท่านั้นแหละ”

อมตะชางเหม่ยแอบถอนหายใจ : “ไม่ว่าใครก็ตามที่กิดมาในยุคเดียวกับเจ้าเด็กเปรตนั่น ก็ล้วนแล้วแต่เป็นความน่าเศร้าที่อันสุดซึ้ง”

……

เวลาค่อย ๆ ผ่านไปทีละวินาที

พริบตาเดียวก็ผ่านไปแล้วครึ่งชั่วยาม

บนเวที เยี่ยชิวยังคงนั่งแกะเมล็ดแตงโมสบายใจอยู่บนเก้าอี้ ในขณะที่เตาหลอมเทพเพลิงหมอกสีชาดของจูเก๋อเจาหยาง เริ่มมีกลิ่นหอมของโอสถลอยออกมาเบา ๆ

เห็นได้ชัดว่า จูเก๋อเจาหยางใกล้จะสำเร็จแล้ว

เสียงถกเถียงโต้เถียงกันอย่างอื้ออึงใต้เวที

“ผ่านไปตั้งครึ่งชั่วยาม ทำไมเยี่ยฉังเซิงถึงยังไม่เริ่มอีก!?”

“เยี่ยฉังเซิง! อย่าเสียเวลาเลย ยอมแพ้เถอะ!”

“ยอมแพ้ไม่ใช่เรื่องน่าอายนะ!”

“เจ้านั่งหน้าด้านอยู่บนเวทีไม่ทำอะไรเลยเช่นนี้ต่างหากที่น่าอาย!”

เยี่ยชิวคายเปลือกเมล็ดแตงโมออกมา ก่อนมองลงไปที่เวทีด้านล่างแล้วกล่าวขึ้นว่า : “เวลายังไม่หมด การแข่งขันก็ยังไม่รู้ผล พวกเจ้าร้อนรนอะไรกันนักหนา?”

“หรือถ้าหากข้ายอมแพ้ พวกขยะอย่างพวกเจ้านะหรอที่จะเป็นราชบุตรเขยต้าโจว? ข้าแนะนำให้พวกเจ้าไปส่องดูหน้าตาตัวเองหน่อยเถอะ ฝีมือก็ไม่มี ยังกล้าทำตัวอวดดีอีก”

“ก็แค่กลั่นยาเองไม่ใช่หรือ? ตอนนี้เริ่มก็ยังไม่สายนี้”

เยี่ยชิวพูดจบ สิ่งที่ตามมาคือเสียง “โครม!” ราวกับฟ้าร้อง

เตาหลอมเทพเพลิงหมอกสีชาดสั่นสะเทือนขึ้นมาอย่างรุนแรง แล้วกลิ่นโอสถที่เข้มข้นก็ลอยโชยออกมาทันที

วินาทีต่อมา

จูเก๋อเจาหยางเก็บเปลวไฟพิเศษขึ้น แล้วควักยาวิญญาณออกมาจากเตาสามเม็ด พร้อมประกาศว่า : “ข้าทำสำเร็จแล้ว!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ