เยี่ยชิวหันไปมอง เขาเห็นว่าซูซางจินกำลังยืนอยู่ที่หน้าโต๊ะหนังสือ เธอถือกล่องไม้สี่เหลี่ยมผืนผ้าเอาไว้ในมือ
กล่องไม้นั้นถูกล็อคด้วยกุญแจทองแดงขนาดเล็ก
เยี่ยชิวเดินเข้าไป แล้วเปิดดวงตาสวรรค์ของเขาขึ้นมา จากนั้นเขาก็มองทะลุผ่านเข้าไปในกล่องไม้ และเห็นว่ามันข้างในเป็นม้วนภาพวาดม้วนหนึ่ง
“ม้วนภาพวาด”
เยี่ยชิวพูดออกมา
“นายรู้ได้อย่างไร?” ใบหน้าของซูซางจินแสดงความสงสัยออกมา จากนั้นก็พูดว่า “แปลกจัง ภาพวาอะไรทำไมคุณปู่จะต้องเอากุญแจมาล็อคไว้ด้วย?”
“ถ้าเป็นของมีค่าแล้วล่ะก็ คุณปู่ก็ควรจะเก็บมันเอาไว้ในห้องเก็บสมบัติสิ!”
เยี่ยชิวพูดว่า “คงจะเป็นภาพวาดที่ผู้เฒ่าสวีชอบดูบ่อยๆแน่!”
ซูซางจินหาบริเวณโต๊ะหนังสือวนไปวนมา แล้วพูดว่า “หากุญแจทองแดงไม่เจอ เหมือนว่าเราจะไม่สามารถเปิดมันได้นะ”
เยี่ยชิวถามต่อว่า “เธออยากเห็นงั้นหรอ?”
“อืม” ซูซางจินพยักหน้าและพูดว่า “คุณปู่ไม่เคยล็อคภาพวาดเอาไว้ในกล่องไม้มาก่อนเลย”
“แม้แต่ภาพวาดชื่อดังระดับโลก เขาก็จะเก็บเอาไว้ในห้องเก็บสมบัติ”
“ดังนั้นฉันก็เลยสงสัยมากๆเลยว่า ภาพวาดในกล่องไม้นั้นคือภาพอะไรกันแน่?”
เยี่ยชิวพูดว่า “ฉันจะช่วยเธอเปิดมันเอง!”
พูดจบ เยี่ยชิวก็จับจับที่ล็อคทองแดงด้วยมือเดียว เขาออกแรงเล็กน้อย จากนั้นก็มีเสียง “ติ้งตัง” ตัวล็อคกุญแจถูกเปิดแล้ว
“เยี่ยชิวอปป้า นายเก่งมากเลย” ซูซางจินมองเยี่ยชิวด้วยความชื่นชม ดวงตาของเธอเปล่งประกายราวกับดวงดาวดวงน้อยๆ
“รีบๆเอาออกมาดูสิ!” เยี่ยชิวพูด
“อืม” ซูซางจินเปิดกล่องไม้ เธอนำม้วนภาพวาดออกมา แล้วเปิดมันบนโต๊ะเขียนหนังสือ
และในวินาทีต่อมา ซูซางจินก็อุทานออกมาว่า “สวยมากเลย!”
เยี่ยชิวก้มหน้ามองลง และเขาก็ไม่สามารถละสายตาไปจากมันได้
ในภาพเป็นรูปของหญิงสาวในวังหลวง
ดูเผินๆ เหมือนเป็นสาวน้อยที่เพิ่งรู้จักความรัก แต่พอมองดีๆ ก็เหมือนเป็นหญิงสาวที่อายุผ่านเลยวัย 30 ปีแล้ว
เต็มไปด้วยเสน่ห์อย่างล้นเหลือ!
หญิงสาวในวังหลวงยืนอยู่ท่ามกลางสวนท้อ สวมชุดวังสีชมพู คาดเอวด้วยเข็มขัดสีธรรมดา โอบเอวบาง ตัดกับรูปร่างที่งดงาม
แม้ว่าใบหน้าของเธอจะไม่ได้แต่งแต้มอะไรมากมาย แต่คิ้วของเธอก็งามเหมือนกับกิ่งไม้ในฤดูใบไม้ผลิ ดวงตาก็เหมือนกับน้ำในฤดูใบไม้ร่วง ความงามและความหวานเย้ายวนของเธอเหมือนดอกบัวที่กำลังผลิบาน มีเสน่ห์อย่างล้นเหลือ
สวยจริงๆ!
ใจของเยี่ยชิวสั่นสะเทือน
นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้เห็นภาพวาดที่สวยงามเช่นนี้
ในภาพ หญิงสาวในวังมีท่าทางสง่างามและสมส่วน เธอมีไหล่ที่ชัดและแผ่นหลังที่แคบ คิ้วงดงามดั่งกิ่งต้นหลิว เกล้าผมสวย ทั้งจมูกและคางเองก็ราวกับไม่มีสิ่งใดบนใบหน้าของเธอที่ไม่สมบูรณ์แบบ
โดยเฉพาะดวงตาของเธอที่ดูเหมือนว่ามีชีวิตนั้น ตาของเธอเป็นประกายเหมือนน้ำ การมองตาเธอเพียงครั้งเดียว ทำให้คนมองไม่อาจละสายตาไปได้
เยี่ยชิวจ้องภาพวาดนี้ไปสักพัก ก่อนที่เขาจะค่อยๆรู้วึกว่าหัวของเขาเริ่มหนักและมึนงง
สองนาทีผ่านไป
อยู่ๆเยี่ยชิวก็รู้สึกเหมือนตัวเองอยู่ในสวนที่เต็มไปด้วยต้นท้อ มีหญิงสาวสวมชุดชาววังสีชมพูยืนอยู่ใต้ต้นท้อมองมาที่เขาด้วยสายตาเย้ายวน
จากนั้นหญิงสาวชาววังคนนั้นก็ถอดเสื้อผ้าของเธอออก จนเหลือไม่เหลือสิ่งใดบนร่างกายเลย
ผิวของเธอขาวเนียน บนร่างกายเธอช่างไร้ที่ติ
สวยงามอย่างถึงที่สุด!
หญิงสาวชาววังคนนั้นโบกมือเรียกเยี่ยชิว เธองามสะคราญเหนือใคร
และเยี่ยชิวก็อดไม่ได้ที่จะเดินเข้าไปหาเธอ
ทันใดนั้น พลังชั้นเทพในร่างกายเขาก็สั่นสะท้าน เยี่ยชิวเงยหน้าขึ้นมองก็เห็นสาวงามในวังหายนั้นไปแล้ว เหลือเพียงภาพวาดใบหนึ่งเท่านั้น
จู่ๆซูซางจินก็อุทานออกมาด้วยความตกใจ
“อะไรงั้นหรอ?” เยี่ยชิวรีบถาม
ซูซางจินมองไปที่มุมซ้ายล่างของภาพที่ลงชื่อเอาไว้ และพูดด้วยความตกใจว่า “เยี่ยชิวอปป้า ภาพนี้เป็นภาพที่ถูกวาดโดยหลี่เฉิงเยี่ย”
เยี่ยชิวไม่ค่อยรู้จักคนเกาหลีเท่าไหร่ จึงถามว่า “หลี่เฉิงเยี่ยคือใคร? เขามีชื่อเสียงมากหรือ?”
ซูซางจินตอบว่า “หลี่เฉิงเยี่ยเป็นจิตรกรที่ยิ่งใหญ่ที่สุดในประวัติศาสตร์ของเราในเกาหลี และยังเป็นที่รู้จักในนาม ‘จิตรกรปีศาจ’”
“หลี่เฉิงเยี่ยถือเป็นตำนวนคนหนึ่ง มีเรื่องราวเกี่ยวกับเขามากมายแพร่หลายในเกาหลี ผู้คนล้วนรู้จักเขาเป็นอย่างดี”
“หลี่เฉิงเยี่ยคือเด็กโง่คนหนึ่ง จนกระทั่งอายุ 18 ปีเขาก็ยังไม่รู้วิธีเขียนชื่อของตัวเอง”
“และพอถึงวันเกิดปีที่ 18 ของเขา เกาหลีก็เกิดแผ่นดินไหวขนาดใหญ่ หลี่เฉิงเยี่ยที่กำลังหนีตายก็พลัดตกลงไปในบ่อน้ำที่แห้งเหือด”
"จากนั้นก็มีคนเอาเขาออกจากบ่อน้ำนั้น และตั้งแต่นั้นมา หลี่เฉิงเยี่ยไม่เพียงแต่จะฉลาดขึ้นเท่านั้น แต่ยังกลายเป็นจิตรกรอัจฉริยะอีกด้วย"
"เขาเรียนรู้ด้วยตัวเอง หยิบพู่กันขึ้นมาแล้ววาดอะไรก็ได้เหมือนผลงานชิ้นเอก"
"ไม่ว่าเขาจะวาดอะไร ก็ทำให้รู้สึกเหมือนอยู่ในสถานการณ์นั้น ดังนั้น ผลงานของเขาจึงถูกเรียกว่า ‘ลายเส้นของพระเจ้า’ และหลี่เฉิงเยี่ยก็มีชื่อเสียงไปทั่วหล้าอย่างรวดเร็ว"
"ต่อมา หลี่เฉิงเยี่ยได้รับเชิญให้เข้าวังเพื่อวาดภาพให้กับจักรพรรดิ ว่ากันว่าจักรพรรดิชอบภาพวาดของเขามาก"
ไม่นานหลังจากนั้น จักรพรรดิก็สิ้นพระชนม์อย่างกะทันหัน"
"เมื่อราชวงศ์กำลังสืบสวนสาเหตุการสิ้นพระชนม์ของจักรพรรดิ พวกเขาพบภาพวาดของหลี่เฉิงเยี่ยจำนวนมากในห้องหนังสือหลวง ในจำนวนนั้นมีภาพวาดแปลก ๆ อยู่หลายภาพ เมื่อมองแวบเดียวก็ทำให้ผู้คนหลงใหลและไม่สามารถดึงออกมาได้ ดังนั้น ทุกคนจึงสงสัยว่าความตายของจักรพรรดิเกี่ยวข้องกับหลี่เฉิงเยี่ย"
"ราชวงศ์จับตัวหลี่เฉิงเยี่ยเอาไว้ และในระหว่างการสอบสวน หลี่เฉิงเยี่ยยอมรับด้วยตนเองว่าเขาใช้ภาพวาดทำให้จักรพรรดิสิ้นพระชนม์ หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ถูกประหารชีวิต เสียชีวิตเมื่ออายุได้เพียง 23 ปี"
"ตั้งแต่นั้นมา หลี่เฉิงเยี่ยก็ถูกเรียกว่าปีศาจผู้ทำลายประเทศ"
"ส่วนภาพวาดของเขา ราชวงศ์ก็ยึดและทำลายทิ้งทั้งหมด"
"แปลกจัง ทำไมในห้องของปู่ถึงมีภาพวาดของหลี่เฉิงเยี่ยล่ะ?"
เมื่อซูซางจินพูดจบ ก็มีเสียงดังดังมาจากนอกประตู
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ
เรื่องนี้มีเติมเงินอ่านไหมครับ แนะนำหน่อย...
ทำไมลงวันละตอนแล้วครับ ช่วยชี้แจงหน่อยครับ...
ทำไมช่วงนี้ลงวันละตอนล่ะครับอีกอย่างช่วงแรกได้อ่านตั้งแต่7โมงเช้าแต่พอลงตอนเดียวต้องอ่านตอน3โมงเย็น...
ไอ้ชิบหาย มีแต่หน้าเปล่าๆมา3วันแล้ว พอๆเลิกอ่านบล็อคแม่งออกเลย หนังสือที่อื่นมีอ่านเยอะแยะ...
หลังๆทำไมลงแต่หน้าเปล่า ไม่มีตัวหนังสือสักตัว...
จะอ่านบท1611-1616ยังใงคับ...
ตอนที่ 267 - 301 มีแค่ 2-3 บรรทัดเองรบกวนแก้ไขให้ด้วยครับ ขอบคุณครับ...
อยากอ่านจนจบเรื่องทำไงบ้างครับ...
ฮาเร็มไหมครับ...
ทำไมตอนที่267มันมีน้อยจังอะ...