วิสารทแพทย์เทวัญ นิยาย บท 946

อมตะชางเหม่ยควักกระดองเต่าออกมาจากแขนเสื้อและถือเอาไว้ในมือ

เยี่ยชิวสังเกตเห็นว่าบนกระดองเต่านั้นมีจุดสีดำสลับขาว และสลักด้วยยันต์ 8 ทิศเอาไว้

ตาเฒ่านี้คิดจะทำอะไร?

ทำนายงั้นหรอ?

ยังไม่ทันที่เยี่ยชิวจะคิดจบ เขาก็เห็นอมตะชางเหม่ยเขย่ากระดองเต่าด้วยมือทั้งสองข้าง และมีเสียงดัง“ติงต่าง”ดังออกมา

สิบวินาทีต่อมา

อมตะชางเหม่ยก็ได้เปิดกระดองเต่าออก และเหรียญทองแดงสามเหรียญก็ตกลงบนพื้นเป็นรูป“เฉิง”

“เป็นยังไงบ้าง” เยี่ยชิวถามขึ้น

อมตะชางเหม่ยเก็บเหรียญทองแดงและกระดองเต่า พร้อมพูดอย่างมีความสุขว่า:“มันเป็นลางดี”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ใบหน้าของเยี่ยชิวก็เขียวขึ้นมา

เพราะว่าเขารู้จักอมตะชางเหม่ยเป็นอย่างดี ตาเฒ่านี้ดูดวงหรือทำนายอะไรไม่เคยแม่น ปกติแล้วต้องฟังและเชื่อฝั่งตรงกันข้ามที่อมตะชางเหม่ยทำนายเสมอ

ถ้าอมตะชางเหม่ยพูดว่าเป็นลางดี ก็เชื่อได้เลยว่าเกินครึ่งนั้นเป็นลางร้าย

“ไปกันเถอะ!”อมตะชางเหม่ยพูดและก้าวเดินไปข้างหน้า

เยี่ยชิวเดินตามหลังอมตะชางเหม่ย โดยกำหมัดด้วยมือขวาอย่างเงียบๆ เพื่อป้องกันอันตรายได้ตลอดเวลา

และก็เป็นเช่นนั้นจริงๆ

พวกเขาเดินไปได้เพียงหนึ่งกิโลเมตรก็พบเจอกับหมาป่า

หมาป่านั้นมีขนาดใหญ่มาก ตัวของมันยาวกว่าสองเมตรเหมือนเสือดาว

“ตาเฒ่า นี้หรอลางดีที่ว่า”เยี่ยชิวพูดขึ้นอย่างถากถาง

อมตะชางเหม่ยยิ้มและพูดขึ้นว่า: “ก็แค่หมาป่า ไม่เห็นมีอะไรต้องกังวล”

เยี่ยชิวพูดต่อว่า:“แต่เท่าที่ข้ารู้ หมาป่าเป็นสัตว์สังคม โดยปกติแล้วมันไม่ได้เดินตามลำพัง ไม่แน่อาจมีฝูงหมาป่าอยู่ที่นี่ก็เป็นได้”

อาวู้——

ทันใดนั้น หมาป่าก็ส่งเสียงหอนออกมา ตามด้วยเสียงหอนของหมาป่าในภูเขาและรอบป่า

“อาวู้——”

“อาวู้——”

เมื่ออมตะชางเหม่ยหันหน้าไปดูก็พบว่า อยู่ห่างไปไม่ไกลมีสายตาที่เปล่งแสงสีเขียวออกมาเป็นจนวนมาก

และสิ่งที่เปล่งแสงสีเขียวนั้นออกมาก็คือ สายตาของพวกหมาป่า

“ให้ตายเถอะ หมาป่ากำลังมา! เยี่ยชิวแกนี้มันปากหมาจริงๆ!”

อมตะชางเหม่ยพูดขึ้นพร้อมวิ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว

เยี่ยชิวกำลังจะวิ่งตามไป แต่ในขณะนั้นเอง หมาป่าที่อยู่หน้าเขาก็กระโดดข้ามาและขวางทาง

“ออกไป!” เยี่ยชิวตะโกนอย่างหนักแน่น

หมาป่าไม่เพียงไม่ไม่หลีกทางให้แก่เยี่ยชิวท่านั้น มันยังแยกเขี้ยวให้แก่เยี่ยชิวด้วย ในดวงตาสีเขียวของมันเต็มด้วยแสงอันดุร้าย

“ล้นหาที่ตาย!”

เยี่ยชิวชกออกไป พลังอันมหาศาลนั้นก็ทำให้หมาป่ากระเด็นออกไป

“ปัง!”

หมาป่ากระเด็นไปชนกับต้นไม้แก่และมีเสียงดัง “บูม”ทันใดนั้นเองต้นไม้แก่ก็หักลงมาทันที

สำหรับหมาป่าตัวนั้น มันยังไม่ทันได้ส่งเสียงร้องออกมาเลยแม้แต่น้อย มันก็ตายทันที

ส่วนทางด้านเยี่ยชิวนั้นก็ไม่แม้ที่จะหันกลับไปมองเลย เขาก็วิ่งตามอมตะชางเหม่ยไปทันที

หลังจากนั้นไม่นาน ก็มีเสียงหอนของหมาป่าดังขึ้นมาอีก แต่ครั้งนี้เสียงนั้นทรงพลังมากกว่าเดิมมากนัก

เยี่ยชิววิ่งไปขำไป เขาพูดถากถางอย่างติดตลกขึ้นว่า:“ลางดีงั้นหรอ? ฮ่าฮ่า สมกับที่เป็นหมอดูที่เก่งที่สุดในยุทธภพ ทำนายได้แม่นจริงๆ”

อมตะชางเหม่ยพูดขึ้น:“ไอ่เด็กนี้ จะว่าโทษข้าได้ยังไงกัน?ถ้าเจ้าไม่ปากหมาล่ะก็ พวกหมาป่าก็ไม่โผล่มาหรอก”

เยี่ยชิวส่วนกลับ:“ตัวเองทำนายไม่แม่นเองยังจะมาโทษข้าอีก ช่างไร้ยางอายจริงๆ”

อมตะชางเหม่ยพูดอย่างข้างๆคูๆขึ้นว่า:“ยันต์นี้แสดงให้เห็นว่าเป็นลางดี มันแปลว่าเราจะได้พบเจอความชั่วร้ายก่อน แล้วร้ายนั้นจะกลายเป็นดี”

“ถึงแม้ว่าเมื่อสักครู่จะมีฝูงหมาป่าโผล่มา แต่พวกเราก็ไม่ได้รับอันตราย”

“แกยังจะหาว่าไม่ใช่ลางดีอีกหรอ?”

ไร้ยางอาย!

“ไป”อมตะชางเหม่ยตอบและออกเดินทางต่ออย่างรวดเร็ว

ส่วนเยี่ยชิวนั้นก็รีบเดินตามอมตะชางเหม่ยไป

ไม่นาน พวกเขาทั้งสองก็มาถึงด้านหน้าภูเขาตูซาน

อมตะชางเหม่ยเหลือบมองภูเขาตูซาน แล้วพูดด้วยท่าทางเคร่งขรึม:“เจ้าเด็กบ้า ข้าว่าเราควรปรึกษากันสักเรื่องแล้วล่ะ”

เมื่อเห็นสีหน้าของอมตะชางเหม่ยตอนนี้ เยี่ยชิวก็รู้เลยว่าอมตะชางเหม่ยเริ่มมีเจตนาไม่ดี

เยี่ยชิวระมัดระวังมากขึ้น และถามกลับว่า:“เจ้าจะปรึกษาอะไรกับข้า?”

อมตะชางเหม่ยพูดขึ้น:“เพื่อที่จะฟื้นฟูภูเขาหลงหู่ให้กลับมาความรุ่งโรจน์เหมือนในอดีต ข้าต้องไปที่เมืองทองคําเพื่อค้นหาสมบัติ เจ้าช่วยข้าหน่อยได้หรือไม่? ”

เยี่ยชิวถามขึ้น:“แล้วยังไงต่อ?”

อมตะชางเหม่ยพูดขึ้น:“หลังจากนั้นช่วยข้าขนย้ายเมืองทองคำ”

“เจ้าต้องการเมืองทองคำไปเพื่ออะไร?”เยี่ยชิวถามด้วยความสงสัย

“เจ้าคิดว่าเมืองที่สร้างด้วยทองคำจะขายได้ในราคาเท่าไหร่ล่ะ?”

“เมื่อได้เงินก้อนนั้นมา ข้าก็จะสามารถฟื้นฟูภูเขาหลงหู่ได้”

“แบบนี้ไม่ดีหรอ?”

เยี่ยชิวเหลือบมองอมตะชางเหม่ยอย่างเย็นชาและสาปแช่ง:“คิดไม่ถึงเลย เจ้าที่มีหน้าตาน่าเกลียดจะมีความคิดดีๆเช่นนี้”

อมตะชางเหม่ยนอกจากจะไม่โกรธที่เยี่ยชิวพูดแล้วเขายังตอบกลับด้วยรอยยิ้มพร้อมพูดว่า:“แน่นอน เจ้ากับข้ารู้จักกันมานาน เจ้าก็รู้ว่าข้าทำอะไรข้าให้ความสำคัญกับความรักและความยุติธรรมมาโดยตลอด และข้าก็ไม่ยอมให้เพื่อนของข้าเสียเปรียบ”

“ตราบใดที่เจ้าช่วยข้าทำเรื่องของข้าได้สำเร็จ รับลองว่าเจ้าจะไม่ได้ณทำงานอย่างเปล่าประโยชน์”

“เพื่อที่จะตอบแทนเจ้า ข้าสาบานว่าข้าจะช่วยคุณรักษาซูลั่วยิงไม่ว่าฉันจะหายาอายุวัฒนะพันปีได้หรือไม่ก็ตาม

เยี่ยชิวไม่เชื่อคำพูดของอมตะชางเหม่ย เพราะไม่มีใครรู้ว่าอาการของลั่วยิงจะดีไปกว่าเขาแล้ว มีเพียงยาอายุวัฒนะพันปีหรือร่างกายของเก้าตะวันเท่านั้นที่สามารถช่วยชีวิตของซูลั่วยิงได้

เยี่ยชิวไม่อยากที่จะพูดถึงเรื่องนี้ และพูดเตือนขึ้นว่า:“ตาเฒ่า อย่าคิดให้มันสวยมากนัก ราอาจเผชิญกับอันตรายบางอย่างอยู่ก็เป็นได้”

“เจ้าเด็กบ้า เจ้าไม่ต้องกังวลไป ยันต์บอกว่าเป็นลางดี เชื่อข้าสิ เราจะไม่พบอันตรายใดๆ อีก ขึ้นไปบนภูเขากันเถอะ!””

อมตะชางเหม่ยพูดอย่างมั่นใจ พูดจบ เขาก็หันหลังกลับและปีนขึ้นไปบนภูเขา

โดยไม่คาดคิด ทันทีที่เขาเดินเข้าไป เขาก็ล้มลงกับพื้นและมีน้ำลายฟูมปาก

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ