วิสารทแพทย์เทวัญ นิยาย บท 986

เมื่อเยี่ยชิวเปิดกล่องเหล็กออกก็พบกับตำราโบราณที่ผูกด้วยด้ายอยู่ข้างใน

ปกตำรานั้นเหลืองไปหมด

ดูก็รู้เลยว่าเป็นของที่มีเก่าแก่มาก

“ไม่รู้ว่าตำราลับเล่มนี้มีวิชากังฟูพลังวิเศษอะไรกันนะ”

ด้วยความอยากรู้อยากเห็น เยี่ยชิวหยิบตำราโบราณขึ้นมาแล้วเปิดหน้าออก

ไม่กี่วินาทีต่อมา ก็มีตัวอักษรจีนตัวเต็มปรากฏขึ้น

ทันใดนั้น เยี่ยชิวก็ถอนหายใจออกมา

“อู่ตานทะยานบันไดเมฆา!”

เยี่ยชิวคิดไม่ถึงเลยว่าสิ่งที่ชงซวีเต้าเหรินมอบให้เขานั้นจะเป็นทะยานบันไดเมฆา

ทะยานบันไดเมฆาเป็นวิชาวิชาตัวเบาที่จางซานเฟิงเป็นคนคิดขึ้น ภายในวิชาตัวเบาแล้ววิชาตัวเบาของจางซานเฟิงนั้นร้ายกาจที่สุดแล้ว เพราะเน้นไปที่ความเบาของร่างกาย และหลังจากฝึกฝนสำเร็จแล้ว ตัวของผู้ฝึกก็จะเบาเหมือนนกนางแอ่น ปีนภูเขาได้ราวกับว่ากำลังเดินบนพื้นราบ

ก้าวหนึ่งยาวสิบฟุต

“รอให้ข้าเรียนรู้วิชาตัวเบาได้สำเร็จ ข้าก็จะมีไพ่เด็ดซ่อนไว้ปกป้องชีวิตข้าเพิ่ม เป็นเรื่องที่คิดไม่ถึงจริงๆ”

เยี่ยชิวรีบเปิดตำราลับและพลิกอ่านอย่างรวดเร็ว

ตำราลับนี้มีทั้งหมดเก้าหน้า

และในทุกๆหน้าก็มีกระบวนท่าฝึกเขียนไว้

ถัดจากกระบวนท่าที่เขียนไว้ในแต่ละหน้านั้นมีคำอธิบายประกอบข้อความเล็กๆ สองถึงสามบรรทัด

เยี่ยชิวตั้งใจอ่านอย่างละเอียด

ห้านาทีต่อมา

เยี่ยชิวก็เปิดตำราลับนั้น ตอนนี้กระบวนท่าของทะยานบันไดเมฆาทั้งหมดเหมือนถูกก็อปปี้วางไว้ในสมองของเขาเรียบร้อยแล้ว

เขานำตำราลับใส่ไว้ในกล่องเหล็กดังเดิม และเริ่มการฝึกฝน

ผ่านไปไม่นาน

ทันใดนั้น ก็มีแสงสีทองส่องประกายออกมาจากเท้าของเยี่ยชิว และร่างของเขาก็ขึ้นไปในอากาศ จนทำให้หัวของเขาก็กระแทกเพดานห้องลับ

“ปัง!”

มีเสียงดังขึ้น

เยี่ยชิวล้มลงกับพื้น โชคดีที่เขานั้นหนังเหนียว ไม่เช่นนั้น หัวของเขาจะแตกแล้ว

“ห้องลับนี้เล็กเกินไปและมีความสูงก็มีอย่างจำกัด ไม่เหมาะที่จะฝึกทะยานบันไดเมฆา เราต้องหาที่อื่น”

หลังจากนั้นเยี่ยชิวก็นำกล่องเหล็กไปวางไว้ที่รางหิน และหันหลังออกจากห้องลับ

หลังจากที่ออกมา

เขานั้นก็ไม่เห็นแม้แต่เงาของชงซวีเต้าเหริน และเขานั้นก็ไม่ได้สนใจ เยี่ยชิวเดินไปที่ลานบ้านและเริ่มฝึกทะยานบันไดเมฆา

หลังจากนั้นไม่นาน

เยี่ยชิวก็พบว่า ไม่ว่าเขาจะพยายามฝึกฝนมากแค่ไหน เขาก็ไม่สามารถชำนาญทะยานบันไดเมฆาอย่างได้จริงได้

เขาสามารถขยับออกไปได้มากที่สุดเพียงฟุตเดียวเท่านั้น

“เกิดอะไรขึ้นกันแน่ มันมีปัญหาที่ตรงไหนกันนะ”

“เป็นไปได้ไหมว่าชงซวีเต้าเหรินนั้นยังปิดบังอะไรบางอย่างจากข้า?”

“หรือว่าใจความสำคัญของการฝึกนั้นไม่ได้อยู่ในตำราเล่มนี้?”

“ให้ตายเถอะ โดนไอ้เจ้าเล่ห์นั้นหลอกอีกแล้ว!”

เยี่ยชิวโกรธมาก

เขาโมโหมากจนอยากไปหาชงซวีเต้าเหริน และทุบเขาสักที

ไม่นานเยี่ยชิวก็กลับมาสงบ

“ถึงแม้ว่าชงซวีเต้าเหรินจะมีอะไรปิดบังไว้จริงๆ ต่อให้ไปหาแล้วถามหาความจริงเขาก็ไม่ยอมรับอยู่ดี”

“ดีไม่ดียังจะพูดว่าข้าไม่มีโชคที่จะฝึกทะยานบันไดเมฆาอีก”

“ข้าไม่เชื่อว่าข้าจะฝึกฝนไม่สำเร็จ”

พูดจบเยี่ยชิวก็เริ่มฝึกฝนต่อ

......

สิบนาทีก่อนหน้านั้น

“ถึงแม้ว่าผู้นำเยี่ยจะฝึกฝนชี่แท้โดยกำเนิดได้แล้วนั้น แต่เขาไม่ได้ฝึกชุนหยางวูจีกง ดังนั้นเขาไม่สามารถฝนวิชาตัวเบาอู่ตานได้สำเร็จ”

ซั่งหลิงเจินเหรินพูด:“แต่ว่าผู้นำเยี่ยเป็นคนมีพรสวรรค์เป็นอย่างมาก ข้ากลัวว่า.....”

“เจ้าไม่ต้องกังวล” ชงซวีเต้าเหรินยิ้ม:“ข้านั้นได้ศึกษาวิชาชุนหยางวูจีกงและทะยานบันไดเมฆามาอย่างดี แต่ข้ากลับเรียนรู้ได้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น แล้วเจ้าคิดว่าผู้นำเยี่ยจะทำได้หรอ?”

ซั่งหลิงเจินเหรินเกิดอากรสับสนและพูดขึ้นว่า:“ท่านอาจารย์ในเมื่อท่านรู้ตั้งแต่แรกว่าผู้นำเยี่ยจะฝึกบันไดเมฆาไม่สำเร็จ งั้นทำไมท่านถึงยังให้เขาอ่านตำราลับอีกล่ะ?เป็นเช่นนี้มันก็ไร้ความหมายน่ะสิ”

“มันจะไร้ความหมายได้ยังไง?”ชงซวีเต้าเหรินเผยให้เห็นรอยยิ้มที่เหมือนสุนัขจิ้งจอกบนใบหน้าของเขา:“ผู้นำเยี่ยรับปากกับข้าว่าจะตามหาตาราที่หายไปมาให้”

เมื่อได้ยินเช่นนี้ ซั่งหลิงเจินเหรินและซั่งเจินเจินเหรินก็รู้สึกยินดีเป็นอย่างยิ่ง

ในขณะเดียวกันก็ยังรู้สึกนับถือวิถีการของชงซวีเต้าเหรินอีกด้วย

“ถึงแม้ว่าผู้นำเยี่ยจะได้อ่านตำราลับแต่ก็ไม่สามารถฝึกฝนให้สำเร็จได้ แล้วยังรับปากที่จะช่วยตามหาตำราลับที่หายไปอีก ช่างเป็นตกลงทีมีแต่ได้กับได้จริงๆ”

ซั่งเจินเจินเหรินพูดว่าถึงตรงนี้ ก็ยกมือไหว้ชงซวีเต้าเหรินแบบจีนแล้วพูดว่า“ท่านอาจารย์ช่างชาญฉลาดเสียจริง ข้าน้อยนับถือ”

ซั่งหลิงเจินเหรินพูดต่อว่า:“ผู้นำเยี่ยยังเด็กเกินไปจริงๆ ถึงแม้จะเก่งกาจแต่ก็สู้ท่านอาจารย์ไม่ได้”

“ท่านอาจารย์ไม่ต้องทำอะไรมาก ก็หลอกผู้นำเยี่ยได้แล้ว”

“เป็นดังที่โบราณว่าไว้ว่าขิงต้องแก่ถึงจะเผ็ด”

“ท่านอาจารย์ ความชื่นชมของลูกศิษย์ที่มีต่อท่านนั้นเปรียบเสมือนแม่น้ำที่ไหลไม่รู้จบ และเหมือนกับแม่น้ำเหลืองที่ไหลล้นซึ่งควบคุมไม่ได้…”

ใบหน้าของชงซวีเต้าเหรินเต็มไปด้วยความเขินอาย

ปกติเขาก็ฟังลูกศิษย์ทั้งสองคนของเขาพูดจาประจบประแจงอยู่แล้ว แต่ตอนนี้ในใจของเขาเต็มไปด้วยสามคำ

“สวยงามมาก”

“ท่านอาจารย์ ถ้าเกิดมาผู้นำเยี่ยรู้ตัวว่าตนเองฝึนฝนทะยานบันไดเมฆาไม่ แล้วมาต่อว่าท่าน ท่านจะทำยังไง?”ซั่งหลิงเจินเหรินถามขึ้น

ชงซวีเต้าเหรินหัวเราะเบา ๆ และพูดว่า:“หากเป็นเช่นนั้น ข้าก็จะบอกกับผู้นำเยี่ยว่า เขากับทะยานบันไดเมฆานั้นไม่มีโชคต่อกัน........”

“ใครบอกว่าข้ากับทะยานบันไดเมฆานั้นไม่มีโชคต่อกัน?”

อยู่ดีๆเสียงของเยี่ยชิวก็ดังขึ้น

ชงซวีเต้าเหรินและลูกศิษย์ทั้งสองคนของเขาหันกลับมาอย่างรวดเร็วและก็เห็นว่าเยี่ยชิวยืนอยู่ที่ประตู มองดูพวกเขาด้วยรอยยิ้มเล็กๆ จากนั้นเขาก็อยู่ตรงหน้าพวกเขาในทันที

ก้าวหนึ่งยาวสิบฟุต!

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: วิสารทแพทย์เทวัญ