ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา นิยาย บท 1375

หลิงเยวี่ยได้ยินเซียวหลินเทียนบอกว่าพวกเขามีศัตรูมากก็เป็นห่วงหลิงอวี๋ขึ้นมาทันที

เซียวหลินเทียนสังเกตคำพูดและท่าทีจึงรีบเอ่ย

“เยวี่ยเยวี่ย ท่านแม่ของเจ้าเคยบอกว่าเราเป็นครอบครัวเดียวกัน เมื่อเผชิญหน้ากับความลำบากก็ควรจะร่วมแรงร่วมใจกันฟันฝ่าอุปสรรคไปด้วยกัน!”

“เยวี่ยเยวี่ย หากเจ้ามิยอมตามข้าเข้าไปในวัง เจ้ามิกังวลว่าสักวันหนึ่งเจ้าจะมิได้เจอพวกเราอีกแล้วหรือ?”

หลิงเยวี่ยได้ยินคำพูดนี้ก็สีหน้าเปลี่ยนทันที

ใช่ หากมิตามคนคนนี้เข้าวังไปก็จะมิได้เจอท่านแม่ของตน!

เขาจ้องมองเซียวหลินเทียนอย่างเกลียดชังแล้วจึงเอ่ย “กระหม่อมจะตามท่านเข้าวัง!”

เขากลัวว่าเซียวหลินเทียนจะเข้าใจผิดว่าตนให้อภัยเขาแล้ว หลิงเยวี่ยจึงเอ่ยต่อ “เพื่อท่านแม่ของกระหม่อม มิใช่เพื่อท่าน!”

เซียวหลินเทียนรู้ว่าตนทำให้เขาเสียใจ หากอยากให้เขาเปลี่ยนแปลงทัศนคติที่มีต่อตนในทันทีก็คงจะเป็นไปมิได้

เซียวหลินเทียนจึงทำได้เพียงถอยหลังก้าวหนึ่งพลางเอ่ย “ได้ ข้าจะทำตัวดี ๆ ให้เจ้ายอมรับข้า!”

หลิงเยวี่ยจึงถูกเซียวหลินเทียนรับกลับเข้าวังไปเช่นนี้

ระหว่างทาง เซียวหลินเทียนจึงเอ่ยกำชับ “หลังจากเข้าวังไปแล้วนามเรียกขานของเจ้าก็จะยังคงมีนามว่าเยวี่ยเยวี่ย แต่สกุลของเจ้าต้องเปลี่ยนเป็นเซียว เช่นนั้นเรียกเซียวเยวี่ยไปชั่วคราวก่อนแล้วกัน รอให้เปิดหอบรรพบุรุษก่อนแล้วค่อยตั้งชื่อตามลำดับราชวงศ์!”

หลิงเยวี่ยเอ่ยค้าน “กระหม่อมนามว่าหลิงเยวี่ย กระหม่อมจะใช้สกุลตามท่านแม่ อีกอย่างท่านแม่ก็บอกว่าชื่อเยวี่ยดีมาก เป็นความหมายว่าอยู่เหนือทุกสิ่ง!”

อยู่เหนือท่าน… คำนี้หลิงเยวี่ยมิกล้าพูดต่อหน้าเซียวหลินเทียน แต่ความภาคภูมิใจบนใบหน้าเล็ก ๆ นั้นบ่งบอกถึงความหมายนี้แล้ว

เซียวหลินเทียนมองการแสดงออกของเขาก็เข้าใจความหมายจึงยิ้มแล้วลูบหัวเขาพลางเอ่ยอย่างอ่อนโยน

“เจ้าจะนามว่าเยวี่ยก็ได้ แต่จำเป็นต้องเป็นสกุลเซียว หากมิใช้สกุลเซียวก็จะสร้างความยุ่งยากให้ท่านแม่ของเจ้า!”

เซียวหลินเทียนอยากจะยุติความสงสัยในประเด็นที่ว่าเยวี่ยเยวี่ยมิใช่ลูกชายแท้ ๆ ของตน

หากเยวี่ยเยวี่ยมิใช้สกุลเซียว เช่นนั้นหลิงอวี๋ก็จะตกเป็นขี้ปากคน ทำให้คนอื่น ๆ คิดกันไปว่าตนยังคงสงสัยอยู่ว่าเยวี่ยเยวี่ยเป็นลูกชู้

“ข้าหารือกับน้องชายแล้ว ข้าจะอยู่ข้างกายนายน้อย เช่นนั้นฉีป้าวก็ให้เขาได้อยู่ข้างกายท่านก็แล้วกัน!”

“ท่านส่งเขาเรียนต่อไป ข้าจะออกเงินเอง! ข้ามิได้ฉลาดเท่าน้องชายก็ให้น้องชายสืบทอดธูปเทียนของตระกูลฉีไป!”

หลังจากที่ฉีเต๋อคิดอย่างละเอียดรอบคอบแล้วจึงได้ตัดสินใจ พวกเขาสองคนมิอาจไปจากหลิงเยวี่ยได้ทั้งหมด เมื่อตนไปเป็นขันทีก็จะสามารถใช้เบี้ยหวัดมาส่งเสริมให้ฉีป้าวเรียนต่อได้ เป็นคำอธิบายที่ตนมีต่อตระกูลฉี

แม่นมลี่พอใจมากที่ฉีเต๋อสามารถคิดอย่างรอบคอบได้ นางจึงพยักหน้าพลางเอ่ย “ได้ เช่นนั้นในภายภาคหน้าแม่นมจะดูแลฉีป้าวแทนเจ้าเอง ต้องทำให้เขาโดดเด่นขึ้นมาให้จงได้!”

การเข้าวังครั้งนี้ ฉีป้าวถูกให้อยู่ที่จวนเสนาบดีเจิ้นหย่วนไปชั่วคราวก่อน

ทันทีที่หลิงเยวี่ยเข้าวังไปหลิงอวี๋ก็รับรู้ทันที จึงรีบพาคนไปรับเขา

ทันทีที่หลิงเยวี่ยเห็นหลิงอวี๋ก็พุ่งเข้าไปในอ้อมแขนของนาง แล้วน้ำตาก็ไหลรินลงมา

“ท่านแม่… เยวี่ยเยวี่ยคิดถึงท่านมาก! คิดถึงมาก ๆ เลย...”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา