“ท่านพี่ อย่าได้กังวล! เราจะต้องตามหาเยวี่ยเยวี่ยเจอแน่!”
เกิ่งเสี่ยวหาวเห็นสีหน้าหลิงอวี๋ดูเศร้าหมอง จึงรีบปลอบใจ
“วันนี้ก็ใช่ว่าเราไม่ได้อะไรเลย! การช่วยเด็กที่ถูกลักพาตัวไปหลายคน นี่ก็เป็นบุญอย่างหนึ่งแล้ว!”
“เยวี่ยเยวี่ยเป็นคนดีย่อมไม่มีภัยใดมาถึงตัว เราต้องตามหาเขาเจอแน่!”
ฉินซานก็มองนางอย่างกังวลเช่นกัน
“อาอวี๋ เจ้าก็ตามหามาทั้งวันแล้ว ข้าจะให้คนส่งเจ้ากลับไปพักผ่อนก่อนดีหรือไม่ ข้ากับเสี่ยวหาวจะจัดหาคนมาตามหาเพิ่ม…”
“ไม่! ข้าจะหาเยวี่ยเยวี่ยให้เจอ! ข้าอยากหาเขาให้เจอด้วยตัวข้าเอง!”
หลิงอวี๋ยกมือทั้งสองขึ้นเช็ดหน้า พบว่าน้ำตาเต็มใบหน้าของนางไปหมด
ไม่แปลกใจเลยที่เกิ่งเสี่ยวหาวกับฉินซานจะเป็นห่วงนางถึงเพียงนั้น...
หลิงอวี๋ลูบหน้าแรง ๆ สองสามครั้ง ให้ตนเองฮึดสู้ขึ้นมา
นางจะท้อถอยไม่ได้!
หากนางท้อถอย พวกเกิ่งเสี่ยวหาวก็จะได้รับผลกระทบทางอารมณ์จากนางเช่นกัน!
“ข้าเชื่อว่าคนดีจะได้รับแต่สิ่งที่ดี! พวกเราช่วยเด็ก ๆ เหล่านี้แล้ว เมื่อพระเจ้าเห็นบุญนี้ จะต้องให้เยวี่ยเยวี่ยกลับมาอย่างปลอดภัยแน่นอน!”
หลิงอวี๋มองพวกคนที่ถูกมัดไว้ คิดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเอ่ยอย่างโหดร้าย
“เจ้ากับฉินซานไปสอบปากคำชายสองคนนั้น ข้าจะสอบปากคำหญิงสองคนนี้เอง!”
“ในเมื่อพ่อบ้านฟั่นสมรู้ร่วมคิดกับพวกเขา พวกเขาจะต้องรู้ว่าพ่อบ้านฟั่นพาคนไปซ่อนไว้ที่ใด!”
ทันทีที่ฉินซานกับเกิ่งเสี่ยวหาวได้ยินก็คิดว่ามันสมเหตุสมผล ต่างคนก็ต่างลากคนลักพาตัวแล้วไปหาห้องสอบปากคำ
หลิงอวี๋เห็นผู้หญิงคนหนึ่งมองตนเองอย่างขลาดกลัว ก็ใจเต้น ก้าวไปดึงนางขึ้นมาแล้วพาไปที่ห้องครัว
หลิงอวี๋ทิ้งผู้หญิงคนนั้นลงบนพื้น หามีดทำครัวแล้วเดินกลับไปพร้อมกับมีดเล่มนั้น
นางดึงผ้าปิดปากของผู้หญิงคนนั้นออก และก่อนที่หลิงอวี๋จะพูดอะไร ผู้หญิงคนนั้นก็ร้องไห้
“ฮูหยิน อย่าฆ่าข้าเลย! ข้าจะบอกทุกอย่าง… พวกกลุ่มคนที่มาเมื่อครู่ค้านคัดถามพวกเรา พวกเขาตามหาเด็กสองคนชื่อเยวี่ยเยวี่ยกับเฮยจื่ออะไรนี่! พวกเขาคือคนที่เจ้ากำลังตามหาใช่หรือไม่?”
หลิงอวี๋ขมวดคิ้ว ยังมีใครกำลังตามหาเฮยจื่อกับเยวี่ยเยวี่ยอีก?
“คนกลุ่มนั้นคือใคร?” หลิงอวี๋ซักถาม “หากเจ้ากล้าพูดเท็จ ข้าจะตัดหูของเจ้าออก!”
“ข้าไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นใคร พวกเขาดูท่าทางดุร้ายกันทั้งหมด! จริงสิ มีชายหนุ่มคนหนึ่งรูปงามมาก ลูกน้องของเขาเรียกเขาว่าท่านอ๋อง เขานั่งบนรถเข็นด้วย!”
เซียวหลินเทียน?
ผู้ที่สามารถส่งกำลังคนตามหาเฮยจื่อกับหลิงเยวี่ยได้ ทั้งยังนั่งรถเข็นด้วย ไม่มีทางเป็นผู้อื่นนอกเสียจากเซียวหลินเทียน!
“พวกเขาถามอะไร แล้วพวกเจ้าบอกไปเยี่ยงไรบ้าง บอกข้ามาให้หมด!”
ตอนนี้หลิงอวี๋รู้แล้วว่าเหตุใดคนเหล่านี้ถึงถูกมัด ต้องเป็นคนของเซียวหลินเทียนมัดพวกเขาแน่นอน
“ฮูหยิน พวกเขาถามเฉินเม่าว่าส่งเด็กไปที่ใดแล้ว! แล้วเฉินเม่าก็ถูกชายร่างสูงใหญ่หักนิ้วของเขาไปสองนิ้วด้วย เรื่องก็เป็นเช่นนี้!”
ผู้หญิงคนนั้นเอ่ยอย่างสั่น ๆ "เขาบอกว่าชายผู้นั้นที่พาเด็กสองคนมาที่นี่จ่ายเงินให้เขาฆ่าเด็กสองคนนี้ไปเสีย!"
“แต่เฉินเม่าโลภมาก เขาคิดว่าเด็กทั้งสองคนสามารถขายได้เงินไม่น้อย ขอเพียงขายออกไปที่ไกล ๆ ชายผู้นั้นก็ไม่มีทางจะพบเจอได้!”
“เฉินเม่ากลัวว่า การแอบดำเนินการลับหลังนี้ของเขาจะถูกเปิดเผยแล้วจะไม่ได้เงิน จึงให้เฉินฉางซิ่งสามีของข้าส่งเด็กออกไปภายในชั่วข้ามคืนแล้ว! หลังจากคนกลุ่มนั้นถามเรื่องนี้แล้ว ก็มัดพวกเราไว้แล้วไล่ตามไป!”
“เฉินฉางซิ่งจะส่งเด็กไปที่ใด?” หลิงอวี๋ซักถาม
ผู้หญิงคนนั้นมองมีดทำครัววาววับในมือของหลิงอวี๋ พลางเอยอย่างกังวล
“ทงโจว! ฉางซิ่งกินอาหารกลางวันเสร็จแล้วจึงออกเดินทาง! ฮูหยิน ฉางซิ่งเองก็ถูกเฉินเม่าหลอกเช่นกัน นี่เป็นครั้งแรกที่เราสองสามีภรรยาที่ทำเรื่องเช่นนี้!”
“ฮูหยิน ได้โปรดช่วยพวกเราได้หรือไม่ ที่บ้านข้ายังมีลูกอีกสองคนที่ต้องดูแล...”
ทันทีที่ได้ยินหลิงอวี๋ก็ตะคอกอย่างโกรธเกรี้ยว
“ลูกของเจ้าเป็นสิ่งล้ำค่า แต่ลูกของคนอื่นไม่ใช่หรือไร? พวกเจ้ามีส่วนร่วมในเรื่องไร้ศีลธรรมเช่นการลักพาตัวเด็กและค้ามนุษย์ ยังมีหน้ามาขอความเมตตาจากข้าอีกรึ?”
นางยัดผ้ากลับเข้าไปในปากของผู้หญิงคนนั้นด้วยความโกรธ แล้วเดินออกไป
เกิ่งเสี่ยวหาวกับฉินซานก็สอบปากคำเสร็จแล้วเช่นกัน จากคำสารภาพของผู้ลักพาตัวทั้งสามคน พบว่าไปในทางเดียวกัน เห็นได้ว่าสิ่งที่พวกคนลักพาตัวพูดคือความจริง
หลิงอวี๋ให้ลูกน้องของฉินซานไปรายงานต่อแม่ทัพเฉิน ให้แม่ทัพเฉินจัดการกับพวกคนลักพาตัวเหล่านี้ อีกทั้งให้ค้นหาครอบครัวของเด็กที่ถูกลักพาตัวเหล่านี้ด้วย
“ไป พวกเราตามไปกัน!”
คนกลุ่มนี้ขึ้นม้า แล้วไล่ตามไปในทิศทางของทงโจว
พอออกจากบริเวณเมืองหลวง ฟ้าก็มืดแล้ว
มาถึงทางแยก ฉินซานก็เอ่ยขึ้น "จากที่นี่ไปทงโจวจะมีถนนสี่สาย เรามาแบ่งกองกำลังออกเป็นสี่เส้นทางกันเถิด! อาอวี๋ เจ้ามากับข้า!"
"พวกเรามีกำลังคนจำกัด ไปกันคนละเส้นทางเถิด! ข้าจะไปทางนี้ เปียวจื่อตามข้ามา เสี่ยวหาว เจ้าพาคนไปเส้นทางหนึ่ง ฉินซาน คนของเจ้ามีประสบการณ์มากกว่า เจ้าจัดสรรพวกเขาเองเถิด!"
หลิงอวี๋พูดจบ ก็หันหัวม้าไล่ตามไปหนึ่งในสี่เส้นทางนั้น
“อาอวี๋ กลับมา เส้นทางที่เจ้าเลือกมันเป็นเส้นทางภูเขา ฟ้ามืดแล้ว เดินทางยาก เจ้าเปลี่ยนไปเส้นทางอื่นเถิด!”
ฉินซานยังพูดไม่ทันจบ หลิงอวี๋ก็ไปอย่างรวดเร็วไร้เงาเสียแล้ว
ฉินซานกังวลทันที เขาตะโกนบอกลูกน้องของตน "พวกเจ้าแบ่งกองกำลังกันออกเป็นสองเส้นทางแล้วไล่ตามไป! นางไม่คุ้นเคยกับเส้นทาง ข้าจะไปคอยช่วยนาง!"
ฉินซานขี่ม้าตามหลิงอวี๋ไปอย่างรวดเร็ว
เหลิงอวี๋เห็นว่าฉินซานตามมา ก็ไม่พูดอะไรให้มากความ มือข้างหนึ่งถือคบไฟ ส่วนมืออีกคุมบังเหียนม้า แล้วควบม้าไปบนเส้นทางภูเขานั้น
เส้นทางภูเขานี้ไม่ได้เดินทางยากอย่างที่ฉินซานบอก รถม้าสองคันสามารถเคลื่อนไปพร้อม ๆ กันได้เลยทีเดียว
หลังจากเดินทางมากว่าสิบลี้ ถนนก็ค่อย ๆ แคบลง เป็นหลุมเป็นบ่อ ทั้งยังขึ้นเนินทั้งหมดด้วย
ทั้งสามคนชะลอความเร็วลง หลิงอวี๋กังวลใจมาก จึงเอ่ยถาม
“ฉินซาน พวกเราไล่ตามคนทางหรือไม่? เส้นทางนี้เดินทางยากถึงเพียงนี้ เฉินฉางซิ่งไม่น่าจะเลือกเส้นทางนี้!”
ฉินซานคิดพลางเอ่ย "เฉินฉางซิ่งลักพาตัวเด็กไปขาย ไม่มีทางใช้เส้นทางหลักแน่นอน! แม้ว่าเส้นทางนี้จะยากลำบาก แต่ก็เลี่ยงหูตาคนได้!"
หลิงอวี๋คิดว่ามันก็มีเหตุผล จึงตามต่อไป หลังจากเดินทางไปสักพัก นางก็เห็นแสงคบไฟเคลื่อนตัวไปตามเส้นทางภูเขาในระยะไกลแบบราง ๆ
หลิงอวี๋ค่อนข้างสงสัย ดึกป่านนี้ใครจะมาเดินบนเส้นทางภูเขาเช่นนี้กัน?
หรือว่าตนจะตาฝาดมองผิดไป?
ทันใดนั้นฉินซานก็หยุดม้าแล้วเอ่ย "พวกเจ้าดูสิ ข้างหน้านั่นมีแสงไฟใช่หรือไม่?"
หลิงอวี๋ก็หยุดม้าตาม พอมองดูดี ๆ ก็เห็นแสงคบไฟกะพริบวิบวับ นางไม่ได้มองผิด มีแสงไฟจริง ๆ!
ในเวลานี้ด้านล่างก็มีแสงคบไฟอีกอันหนึ่งส่องประกายอยู่
หลิงอวี๋หัวใจเต้นแรง กระโดดลงจากหลังม้าและจุดคบไฟส่องตามเส้นทาง
แล้วก็ได้เห็นรอยกีบม้ายุ่ง ๆ เรียงรายกันเป็นแถวยาวออกไปด้านหน้า และมีรอยล้ออยู่ตรงกลาง
ฉินซานก็ลงจากม้าแล้วก็เห็นรอยล้อเหล่านี้เช่นกัน
เขาเอ่ยขึ้นอย่างตื่นเต้น "อาอวี๋ เจ้าดูร่องรอยนี้สิ มีรถม้าสองคันผ่านเส้นทางนี้ไปเมื่อไม่นานนี้!"
หลิงอวี๋นึกขึ้นได้ว่าเซียวหลินเทียนก็ตามหาที่อยู่ของเด็กทั้งสองเช่นกัน
นอกจากรถม้าของเฉินฉางซิ่งแล้ว รถม้าของเซียวหลินเทียนก็น่าจะไปในทิศทางนี้ด้วย!
ในใจเอาแต่ภาวนา หวังเพียงว่าตนจะมาถึงทันเวลา ขอให้พวกหลิงเยวี่ยไม่ถูกเฉินฉางค้นพบ
ขณะที่วิ่งอยู่นั้น หลิงอวี๋ก็ได้ยินเสียงกรีดร้องของเด็กมาราง ๆ ตามมาด้วยเสียงดุร้าย
“ไอ้คนพิการ ข้างล่างนี้คือหน้าผา แต่ในมือข้ามีเด็กอยู่สองคน! แม้ว่าเจ้าจะเคลื่อนที่เร็วเพียงใด เจ้าก็สามารถช่วยได้เพียงคนเดียวเท่านั้น!”
“หากพวกเจ้ามีสติปัญญาก็ปล่อยข้าไป ไม่เช่นนั้นข้าจะทิ้งชีวิตตัวข้าเอง แล้วจะลากเด็กสักคนไปเป็นเหยื่อกับข้าด้วย!”
"หน้าผา?"
หัวใจของหลิงอวี๋บีบแน่น นางวิ่งไปข้างหน้าโดยไม่สนใจสิ่งอื่นใดแล้ว
นางเกลียดที่ไม่สามารถกางปีกออกไปเพื่อที่จะได้บินไปหาหลิงเยวี่ยในทันทีได้
ไม่รู้ว่าเซียวหลินเทียนพูดสิ่งใด จากนั้นเฉินฉางซิ่งก็เอ่ยอย่างหยิ่งผยอง
“ไอ้คนพิการ เจ้าเลือกใคร? จริงสิ ข้าได้ยินมาว่าเด็กสองคนนี้ คนหนึ่งเป็นลูกชายของคนที่ช่วยชีวิตเจ้า คนหนึ่งเป็นลูกชู้ เจ้าคงต้องอยากให้ลูกชู้ผู้นี้ตายใช่หรือไม่!”
“ข้าเกลียดผู้หญิงที่นอกใจสามีที่สุด แล้วก็เกลียดลูกชู้ด้วย!”
เฉินฉางซิงยิ้มชั่วร้าย พลางเอ่ยเสียงดัง "คนไหนเป็นลูกชู้เล่า? หากเจ้าลงมือไม่ได้ ข้าจะช่วยเจ้าเอง!"
หัวใจของหลิงอวี๋จุกอยู่ที่ลำคอของนาง
เซียวหลินเทียนคงจะไม่สละหลิงเยวี่ยเพื่อช่วยเฮยจื่อใช่หรือไม่?
นางเห็นแสงไฟอยู่ข้างหน้า จึงวิ่งไปหามันอย่างบ้าคลั่ง
หลิงอวี๋ยังวิ่งไปไม่ถึง ก็ได้ยินเสียงกรีดร้องโหยหวนดังขึ้น "ช่วยด้วย!"
“เยวี่ยเยวี่ย… แม่มาแล้ว เจ้าไม่ต้องกลัวนะ!”
หลิงอวี๋ไม่สามารถแยกได้แน่ชัดว่าเป็นเสียงใครที่ร้องอยู่ แต่นางกลัวว่าเฉินฉางซิ่งจะทำร้ายหลิงเยวี่ย จึงตะโกนเสียงดังออกไป
“เฉินฉางซิ่ง สิ่งที่เจ้าต้องการคือเงิน เจ้าต้องการเท่าใดข้าจะให้เจ้า เจ้าอย่าทำร้ายลูกชายของข้า!”
“เซียวหลินเทียน หากเจ้ากล้าทิ้งลูกชายของข้า ข้ากับเจ้าจะต้องพินาศไปด้วยกัน!!!”
หลิงอวี๋รีบวิ่งออกไปด้วยความรวดเร็ว แต่ก็ไม่เห็นตำแหน่งของเด็กทั้งสองชัดเจน
จากนั้นก็เห็นเซียวหลินเทียนบินขึ้นไป พร้อมกับแส้ยาวในมือของเขา
เฮยจื่อกรีดร้อง และทันทีที่เซียวหลินเทียนถอนแส้ เฮยจื่อก็เข้ามาในอ้อมแขนของเขาก่อน...
“เซียวหลินเทียน!”
หัวใจของหลิงอวี๋ชาไปเลย ในช่วงหน้าสิ่วหน้าขวาน เซียวหลินเทียนก็ยังคงเลือกเฮยจื่อ!
แล้วทอดทิ้งลูกชายแท้ ๆ ของเขา!!
"ท่านแม่!"
หลิงเยวี่ยเห็นร่างของหลิงอวี๋กำลังวิ่งมา ดวงตากลมโตของเขาก็ปรากฏความหวังขึ้นมา
เมื่อได้ยินเสียงนั้น หลิงอวี๋ก็ไม่สนใจความเกลียดที่มีต่อเซียวหลินเทียนแล้ว นางรีบหันไปหาร่างของหลิงเยวี่ยทันที
แต่กลับเห็นหลิงเยวี่ยถูกเฉินฉางซิ่งผลักอย่างแรง ร่างเล็ก ๆ นั้นตกลงไปที่หน้าผาราวกับว่าวที่เชือกขาด
"ไม่นะ......"
หลิงอวี๋ตกใจจนหัวใจแทบหยุดเต้น นางตะโกนออกมาโดยไม่รู้ตัวและรีบวิ่งไปที่ขอบหน้าผา คิดอยากจะคว้ามือของหลิงเยวี่ยเอาไว้
แต่นางคว้าอะไรไม่ได้เลย เห็นเพียงกรวดหินจำนวนนับไม่ถ้วนร่วงไปพร้อมกับร่างเล็ก ๆ ของหลิงเยวี่ย...
ดวงตาของหลิงอวี๋เบิกกว้าง หัวใจแตกสลาย
“เยวี่ยเยวี่ย...!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา
รอ...
นางเอกโดนแผนร้ายไล่ล่าเจ็บตัวจะตายอ่า200+ตอน สุดท้ายจบครึ่งตอน คนร้ายบอกเข้าใจผิด นิยายฟวยไรอ่ะปัญญาอ่อนทั้งเรื่อง...
waitinggg for youuuuuuu...
ความลับยังไม่ได้เปิดเผยเลยค่ะ...
จบแบบนี้ไม่ได้นะคะ...
กลับมาได้เเล้ว...
ขอบคุณนะที่ลงเพิ่ม กำลังสนุกมาก...
คนเขียนกลับมาก๊อนนนน🥹 ทางนี่ใจจะขาดแล้วฮะ...
รอสนุกมาก...
รอ........