ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา นิยาย บท 187

คนในห้องกำลังพูดคุยเรื่อยเปื่อย มีคนนอกประตูเอ่ยเรียก

“ท่านอ๋องเฉิง ท่านฮั๋ว หลานชายหลี่ว์จงเจ๋อกับบิดาหลี่ว์เซียงขอเข้าพบพ่ะย่ะค่ะ!”

หลี่ว์เซียง?

ท่านอ๋องเฉิงผงะครู่หนึ่งพลางมองท่านฮั๋ว

ท่านฮั๋วยังไม่ทันเอ่ย เสียงของหลี่ว์เซียงพลันลอยมาข้างนอก

“ท่านฮั๋ว ข้าน้อยได้ยินว่าท่านอยู่ที่นี่ จึงรุดมาเชิญเองโดยเฉพาะขอรับ”

“ท่านแม่ป่วยหนัก คาดหวังท่านฮั๋วแสดงความเห็นใจมาตรวจท่านแม่ที่จวนสักหน่อยขอรับ!”

“ออกไปตรวจดูหน่อยเถอะ!”

ท่านอ๋องเฉิงส่ายศีรษะ “ฮูหยินใหญ่หลี่ว์ป่วยแบบนี้มานานโขแล้ว ครอบครัวหลี่ว์เซียงเสาะหาหมอสอบถามยาทั่วสารทิศ ช่างน่าสรรเสริญจิตใจกตัญญูกตเวทีนัก!”

ท่านฮั๋วส่ายศีรษะ เอ่ยเสียงขรึม “เข้ามาเถอะ!”

หลี่ว์เซียงกับหลี่ว์จงเจ๋อเดินเข้ามาทีละคน

หลิงอวี๋ไม่มีความประทับใจลึกซึ้งต่อหลี่ว์เซียงเกินไปนัก ทว่านางได้ยินจากปากแม่นมลี่เมื่อท่านปู่ปลดเกษียณปีนั้น ก็ได้แนะนำหลี่ว์เซียงรับตำแหน่งแทนเขาเสียแล้ว

คนที่ท่านปู่แนะนำบุคลิกน่าจะพอใช้ได้กระมัง!

หลี่ว์เซียงอายุสี่สิบกว่าปีรูปร่างไม่สูงไม่เตี้ย โครงหน้าเหลี่ยม ทั่วร่างเปี่ยมอิทธิพลยศถาบรรดาศักดิ์สูงส่ง ทว่าความกลัดกลุ้มแผ่คลุมดวงหน้าอยู่ชั้นหนึ่ง

หลี่ว์จงเจ๋อที่ตามอยู่หลังรูปร่างสูงกว่าหลี่ว์เซียงหนึ่งศีรษะ เค้าหน้างดงามยิ่งยวด ดวงตาลึกล้ำจมูกโด่ง เป็นบุรุษรูปงามดั่งหยก

“ท่านอ๋องเฉิง! ท่านฮั๋ว!”

ทั้งสองเข้ามา คารวะพร้อมเพรียง

หลี่ว์จงเจ๋อกวาดมองหลิงอวี๋ ราวกับเหนือคาดที่มีสตรีสะสวยในห้อง

มาขอตรวจกับท่านฮั๋วเหมือนกันหรือ?

หลี่ว์จงเจ๋อมองแต่ไม่ได้ใส่ใจนัก

“หลี่ว์เจิ้ง อาการป่วยของแม่เจ้าข้าฟังหมิงจงพูดแล้ว มิใช่ว่าข้าไม่ยอมไปช่วยตรวจแม่เจ้านะ แต่โรคนี้ข้าก็จนปัญญารักษาเหมือนกัน!”

ท่านฮั๋วส่ายศีรษะ ยิ้มขมขื่นกล่าว “ข้ารู้มิตรภาพของเจ้ากับหมิงจง หากรักษาได้ เหตุใดเจ้าต้องมาเชิญข้าเองถึงนี่เล่า!”

ใบหน้าหลี่ว์เจิ้งสิ้นหวังฉับพลัน เซียนหมอหัวก็สิ้นวิธี หรือว่าท่านแม่ทำได้แค่รอความตายจริง ๆ แล้ว?

หลิงอวี๋ได้ยินคำพูดพลันเอ่ยถามใคร่รู้ “ท่านฮั๋ว ฮูหยินใหญ่หลี่ว์ป่วยอันใดหรือ?”

ท่านฮั๋วเอ่ย “ศิษย์ข้าคือถังถีเตี่ยนกับถังหมิงจงแห่งสถาบันแพทย์หลวง หลังข้ากลับเขาก็มาหาข้าเล่าอาการโรคของฮูหยินใหญ่หลี่ว์แล้ว”

“ฮูหยินใหญ่เป็นโรคเบาหวานในไต ไม่รู้สึกอยากอาหารจนผอมแห้งติดกระดูก ข้อต่อเข่าบวม เจ็บและแข็ง ข้าเคยดูตำรับยาที่หมิงจงออกให้ฮูหยินใหญ่หลี่ว์แล้ว!”

ท่านฮั๋วส่ายหน้าต่อหลี่ว์เจิ้งกล่าวว่า “แม้ข้าจะไปตรวจฮูหยินใหญ่ก็คงออกตำรับยาเหมือนกัน! ฮูหยินใหญ่กินยาเหล่านั้นแล้วไม่เป็นผล ข้าไปตรวจก็ไม่เป็นผลเช่นกัน!”

“ไม่เช่นนั้น ให้ข้าไปลองตรวจดู?”

หลิงอวี๋อาศัยแค่การเล่าด้วยปากของท่านฮั๋วก็ยืนยันว่าคนไข้ป่วยเป็นอะไรเจาะจงไม่ได้ มีเพียงตรวจคนไข้เท่านั้นถึงวินิจฉัยได้

นางกำลังคิดว่ามิตรภาพท่านฮั๋วกับหลี่ว์เจิ้งไม่เลว พลันพูดเสนอ

หลี่ว์เจิ้งเหลือบมองนาง บนหน้าเผยความไม่พอใจสายหนึ่ง ราวกับไม่ชอบโดนสตรีพูดสอดระหว่างที่บุรุษคุยกัน

“เจ้าเป็นใคร?”

“พวกเจ้ารีบไปสอบถามเสีย ถ้าถามที่อยู่แม่นางหลิงรู้แล้ว ห้ามลืมบอกท่านฮั๋วด้วยล่ะ!”

คอยคนจากไป ท่านฮั๋วกับหลิงอวี๋มองท่านอ๋องเฉิงเฒ่าทารกผู้นี้อย่างหมดคำพูด

แต่ท่านอ๋องเฉิงกลับยิ้มตาหยีกล่าวคำ “นี่ไม่อาจโทษข้าเย้าพวกเขาเล่น ใครบอกให้พวกเขาตาสุนัขมองคนต่ำ!(2)”

“แม่นางหลิงก็ยืนตรงหน้าพวกเขา แต่พวกเขากลับไม่รู้จักหน้าตาที่แท้จริงของนาง”

ท่านอ๋องเฉิงกล่าวชี้แนะหลิงอวี๋ออย่างจริงใจ “ข้าให้ความรู้เจ้าเช่นกัน ธุรกิจที่เร่งรีบไม่ใช่การดี!”

“คนตาสุนัขมองคนต่ำพวกนี้… สมควรให้พวกเขาลิ้มรสการขอคนช่วยเหลือ! ถ้าได้มาง่ายเกินไปพวกเขาจะไม่รู้สึกถึงคุณค่า!”

หลิงอวี๋สบตากับท่านฮั๋ว

ท่านฮั๋วส่ายศีรษะอย่างช่วยไม่ได้ พยักหน้าเอ่ยว่า

“สหายเฉิงพูดถูก อาจารย์ท่านใจดีนักทนดูคนเจ็บปวดไม่ไหว!”

“แต่พวกเขาไม่ซาบซึ้ง รู้สึกอยู่เสมอว่าคนที่ต้องขอร้องและอ้อนวอนนับพันหนคือคนที่มีความสามารถอย่างแท้จริง”

“นี่คือหลักการซื้อถูกขายแพงของโรงหุยชุน พึ่งชื่อเสียงหมอหลวงจางกับสกุลกู่ แม้แต่เครื่องยาสมุนไพรธรรมดาพวกเขาก็เข้าใจว่าเป็นยามหัศจรรย์!”

หลิงอวี๋หัวเราะ หลักการนี้นางจะไม่เข้าใจได้ยังไงกัน

เมื่อครู่คิดถึงมิตรภาพของหลี่ว์เจิ้งกับท่านฮั๋ว ไม่งั้นนางคงไม่ออกปากช่วยง่าย ๆ เหมือนกัน

ปฏิเสธไม่ให้เข้าประตู (拒之门外) ปฏิเสธที่จะทำงานร่วมกับผู้อื่นหรือเจรจาเพื่อแก้ไขปัญหาอย่างหยาบคาย

ตาสุนัขมองคนต่ำ (狗眼看人低) หมายถึง ดูถูกคนอื่น

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา