เซี่ยโฮ่วตานรั่วเบะปาก ยังคงมีท่าทางที่ดูไม่เห็นด้วยอยู่
“ท่านอ๋องอี้ ทักษะการขี่ม้าของหม่อมฉันดีมาก หากพวกเขามิหลบกันจนทำให้ม้าของหม่อมฉันตกใจ เรื่องเช่นนี้ก็คงไม่เกิดขึ้น!”
“หากท่านจะตำหนิก็ตำหนิที่พวกเขามิควรจะวิ่งวุ่นกันเช่นนี้! จะมาตำหนิหม่อมฉันได้อย่างไร!”
ฉาเค่อฉีชายร่างสูงใหญ่ผู้ติดตามของเซี่ยโฮ่วตานรั่วก็เอ่ยอย่างดูถูกเช่นกัน
“องค์หญิงตานรั่วตรัสถูกพ่ะย่ะค่ะ! ท่านอ๋องอี้ องค์หญิงตานรั่วของเราเป็นแขกของพวกท่าน การที่ท่านตรัสวาจาแข็งกร้าว ทั้งยังลงมือกับองค์หญิงของเรานั้นมิใช่วิธีที่จะปฏิบัติต่อแขกเลยพ่ะย่ะค่ะ!”
“วิธีปฏิบัติต่อแขก?”
เซียวหลินเทียนเอ่ยอย่างเคร่งเครียด “สำหรับแขกที่พวกเราเชิญมา ชาวฉินตะวันตกทุกคนล้วนปฏิบัติอย่างให้เกียรติแขกอยู่แล้ว แต่พฤติกรรมของแขกก่อนหน้านี้นั้นคู่ควรแก่ความเคารพของพวกเรารึ!”
“พวกเจ้ามาจากฉีตะวันออก ปล่อยให้ม้าของเจ้ามาทำร้ายราษฎรฉินตะวันตกของเรา อีกทั้งยังทำตัวหยิ่งยโสอีก แขกเช่นพวกเจ้าสมควรได้รับการปฏิบัติต่อแขกอย่างให้เกียรติของพวกเราหรือ?”
พ่อค้าแม่ค้าที่ถูกรบกวนต่างมายืนล้อมกันอยู่รอบ ๆ มากมาย เมื่อได้ยินคำพูดของเซียวหลินเทียนก็พากันโห่ร้องขึ้นมา
“ท่านอ๋องอี้ตรัสถูกแล้ว คนที่มิสนใจกฎหมายบ้านเมืองเช่นพวกท่านมิคู่ควรที่จะมาเป็นแขกของเรา!”
“เรามิได้เชิญพวกท่านมา พวกท่านมาที่นี่กันเอง!”
“คนฉีตะวันออกอย่างพวกท่านลืมไปแล้วหรือ? ในตอนนั้นฉินตะวันตกของเราทำศึกกับพวกท่านจนพ่ายแพ้ยับเยินไป พวกท่านต่างหากที่ทนมิไหวแล้วมาขอสงบศึก!”
“ผู้ที่พ่ายแพ้ไปยังจะกล้ามาแสดงท่าทีเย่อหยิ่งในดินแดนฉินตะวันตกของเราอีก ใครจะไว้หน้าพวกท่านกัน! ไปเสีย… ฉินตะวันตกของเรามิต้อนรับพวกท่าน...”
“ไป… กลับฉีตะวันออกไป!”
คำด่าทอเหล่านั้นดังขึ้นอยู่เรื่อย ๆ
ฉาเค่อฉีสีหน้าดูแย่ไปเลย เซี่ยโฮ่วตานรั่วเองก็มิได้ดูดีนักเช่นกัน
ใต้เท้าจ้าวยืนยิ้มอยู่ข้าง ๆ มิได้เกลี้ยกล่อมอะไร
ในช่วงเวลานี้เขามีหน้าที่รับผิดชอบในการมารับแขกจากฉีตะวันออกเหล่านี้ เขาก็ต้องรับอารมณ์ของพวกเขาอยู่มิน้อย!
หน้าที่ของตนนั้นจะให้ไปด่าทอพวกเขามันก็ดูจะมิดี ดังนั้นเมื่อท่านอ๋องอี้กับพ่อค้าแม่ค้าเหล่านี้ช่วยออกปากแทนเขา เขาก็รู้สึกโล่งใจ
หลังจากที่เห็นว่ามีการด่าทอกันไปพอประมาณแล้ว ใต้เท้าจ้าวก็เอ่ยด้วยท่าทีที่มิได้ดูสูงส่งแต่ก็มิต่ำต้อย “องค์หญิงตานรั่วพ่ะย่ะค่ะ การขี่ม้าของพวกท่านก่อให้เกิดความวุ่นวายในเมืองเป็นการละเมิดกฎหมายของฉินตะวันตกจริง ตามกฏแล้วจะต้องถูกตัดหัวเป็นเยี่ยงอย่างพ่ะย่ะค่ะ!”
ใต้เท้าจ้าวมองเงินนั้น มันเป็นเงินหนึ่งหมื่นตำลึง ซึ่งมากเกินกว่าที่จะชดเชยพ่อค้าแม่ค้าเหล่านี้ เขาจึงยื่นมือทั้งสองข้างมอบให้เซียวหลินเทียน
เซียวหลินเทียนไม่มอง แล้วเรียกพ่อค้าแม่ค้าที่ด่าได้ดุที่สุดออกมา พลางยื่นเงินให้เขา
“เจ้าเอาไปแบ่งปันให้ทุกคน ผู้บาดเจ็บก็แบ่งให้มากหน่อย!”
“ขอบพระทัยท่านอ๋องอี้พ่ะย่ะค่ะ/เพคะ!”
เมื่อพ่อค้าแม่ค้าเห็นจำนวนเงิน ก็คุกเข่าคำนับอย่างซาบซึ้งให้เซียวหลินเทียนสามครั้ง
หากวันนี้มิได้พบท่านอ๋องอี้ ก็คงจะเสียเปรียบในความเสียหายนี้อย่างแน่นอน!
เซียวหลินเทียนทิ้งองครักษ์สองสามคนไว้เพื่อช่วยพ่อค้าแม่ค้าจับเก็บสินค้าที่กระจัดกระจาย จากนั้นก็หันกลับไปที่รถม้า
“ท่านอ๋องอี้ หม่อมฉันจะเลี้ยงอาหารค่ำท่าน ถือเสียว่าเป็นการขอโทษท่าน!”
เมื่อเซี่ยโฮ่วตานรั่วเห็นสิ่งนี้ นางก็พุ่งไปขวางทางของเซียวหลินเทียน พลางเอ่ยอย่างใจกว้าง
“ท่านเก่งวรยุทธมากกว่าหม่อมฉัน หม่อมฉันชอบบุรุษที่แข็งแกร่งกว่าหม่อมฉัน! หม่อมฉันจะเลือกท่านเป็นราชบุตรเขย!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอหญิงทะลุห้วงเวลา
รอ...
นางเอกโดนแผนร้ายไล่ล่าเจ็บตัวจะตายอ่า200+ตอน สุดท้ายจบครึ่งตอน คนร้ายบอกเข้าใจผิด นิยายฟวยไรอ่ะปัญญาอ่อนทั้งเรื่อง...
waitinggg for youuuuuuu...
ความลับยังไม่ได้เปิดเผยเลยค่ะ...
จบแบบนี้ไม่ได้นะคะ...
กลับมาได้เเล้ว...
ขอบคุณนะที่ลงเพิ่ม กำลังสนุกมาก...
คนเขียนกลับมาก๊อนนนน🥹 ทางนี่ใจจะขาดแล้วฮะ...
รอสนุกมาก...
รอ........