บทที่ 448 ไม่มีที่ให้ร้องทุกข์
ฮั๋วไท่เฟยอิจฉาก็อิจฉา เอาแต่บ่นอ๋องตวนไม่หยุดที่ทำให้รู้สึกผิดหวัง นานขนาดนี้แล้วยังไม่มีความเคลื่อนไหวอะไรอีก
อ๋องตวนยังพูดอีกว่า : “ใครบอกว่าลูกไม่เคลื่อนไหวกัน แต่เป็นเพราะชวนเอ๋อไม่สนใจลูกต่างหาก”
“ชวนเอ๋อ......” ฮั๋วไท่เฟยกำลังจะพูดอะไรบางอย่าง เด็กทั้งห้าคนที่นอนอยู่บนเตียงก็กำลังเล่นกันอยู่อย่างสนุกสนาน อยู่ดีๆก็ไม่ขยับ หวางฮองไทเฮาตกใจเป็นอย่างมาก ไม่รู้ว่าเด็กๆเป็นอะไรกัน ต่างก็ไม่ขยับเขยื้อนแล้ว
กงชิงวี่อุ้มคนเข้ามา เด็กๆก็พร้อมใจกันร้องไห้ขึ้นมา ร้องไห้อย่างหนัก ทำให้หวางฮองไทเฮาตกใจจนทำอะไรไม่ถูก ฮั๋วไท่เฟยเองก็ตกใจเช่นกัน!
“นี่มันอะไรกัน?” ฮั๋วไท่เฟยตกใจ นางไม่ได้ทำอะไรเสียหน่อย!
เมื่อกงชิงวี่เข้ามา หวางฮองไทเฮาก็ผงะ : “นี่คือ?”
“......” กงชิงวี่วางอันหลิงหยุนลงบนเตียง เด็กๆร้องไห้กันระงม เหมือนจะรู้ว่าแม่ของตัวเองถูกตบมา
อันหลิงหยุนรีบลุกขึ้นนั่ง ตอนนี้เอง หยุนโล๋ชวนตะโกนออกมาอย่างตกใจ: “หน้าของพระชายาเสียน!”
หวางฮองไทเฮามองดู: “นี่มันอะไรกัน? ถูกมู่มิงตบเอาหรือ?”
อันหลิงหยุนส่ายหน้า เด็กๆก็ร้องไห้ หวางฮองไทเฮาอารมณ์เสีย: “หยุดร้องได้แล้ว ย่าจะต้องให้ความเป็นธรรมแก่แม่ของพวกเจ้าแน่นอน”
เด็กๆก็หยุดร้องในทันที ฮั๋วไทเฟยจ้องมอง: “เด็กๆพวกนี้ฉลาดหรือว่าเป็นอะไรกันแน่?”
หวางฮองไทเฮายิ่งรู้สึกว่าเด็กๆเหล่านี้เป็นเทวดา เล็กขนาดนี้ทำไมจึงฟังรู้เรื่อง
เด็กน้อยร้องไห้กระซิกๆแล้วหันไปดูอันหลิงหยุน ช่างน่าแปลกจริงๆ
กงชิงวี่ตะโกนออกมาด้วยความโกรธ: “เสินหยุนชู ข้ากับเจ้าต้องได้เห็นดีกัน!”
ขณะที่กำลังตะโกน สวีกงกงก็เดินเข้ามาพร้อมกับเสินหยุนชู
หวางฮองไทเฮาหูตาว่องไว พริบตาเดียวก็มองเห็นหลังมือของสวีกงกงแล้ว
หลังมือทั้งแดงทั้งบวม
ไห่กงกงรู้สึกว่าเรื่องนี้ไม่ถูกต้อง ยิ่งเป็นฮองเฮาด้วยแล้ว จะต้องส่งข่างให้ฮ่องเต่ทรงรู้
ไห้กงกงขยิบตา แล้วจึงมีคนค่อยๆออกจากวังเฉาเฟิ่งไป
หวางฮองไทเฮาเห็นเสินหยุนชูคุกเข่าลง : “หม่อมฉันถวายบังคมเสด็จแม่”
หวางฮองไทเฮาแปลกใจ: “นี่มันเรื่องอะไรกัน?”
“ทูลเสด็จแม่ หม่อมฉันเห็นพระชายาเสียนวิ่งออกมาจากวังซ่งเต๋อ สวีกงกงเองก็ดูรีบร้อน จึงได้เข้าไปดู ขณะที่กำลังดูอยู่นั้น อ๋องเสียนก็เสด็จมา แล้วจึงตำหนิหม่อมฉัน คิดว่าหม่อมฉันเป็นคนทำร้ายพระชายาเสียน แต่หม่อมฉันถูกกล่าวหานะเพคะ”
อันหลิงหยุนคิดไม่ถึงเลยว่า จนถึงตอนนี้เสินหยุนชูยังคิดที่จะเล่นลิ้นอีก
หวางฮองไทเฮารู้สึกแปลก: “เป็นเช่นนั้นหรือ?”
นางถามกงชิงวี่
กงชิงวี่แววตาเย็นชา : “พูดเช่นนี้หมายความว่าข้าดูผิดหรือ ไม่ใช่ว่าฮองเฮาตบหยุนหยุน ไม่ใช่ว่าฮองเฮาตบแล้วอยากตบอีก มือของสวีกงกงก็ไม่ใช่ท่านเป็นคนเหยียบอย่างนั้นหรือ?”
“อ่ฮงเสียน ข้าจะทำเช่นนั้นได้อย่างไร สวีกงกงก็อยู่ที่นี่ ความจริงเป็นเช่นไรก็ลองถามเขาดูสิ”
สวีกงกงคุกเข่าอยู่ที่พื้น หน้าซีดอยู่นานแล้ว
เขาไม่รู้ว่าควรจะทำเช่นไรดี และก็ไม่ได้คิดจะถ่วงเวลา จึงหันไปหาบรรดาเจ้านายแล้วโขกศีรษะสามครั้ง โขกจนหัวแตก
อันหลิงหยุนตะโกน: “สวีกงกง สวีกงกง......”
ฮ่องเต้ชิงหยู่เข้ามาก็เห็นภาพนี้เข้าพอดี สวีกงกงค่อยๆหันมองอันหลิงหยุน แล้วสูดหายใจเข้าหนึ่งครั้ง; “หม่อมฉันละอายใจต่อฝ่าบาท ละอายใจต่อไทเฮา ยิ่งละอายใจต่อเจ้านายทุกๆพระองค์ หม่อมฉันคงทำได้เพียงแค่รับโทษตาย!”
“ทำไมท่านต้องทำเช่นนี้ด้วย ไม่ว่าเรื่องอะไรก็สามารถผ่านพ้นไปได้ ไม่มีเรื่องอะไรหนักหนาเกินไปหรอก ไม่มีใครตบข้าทั้งนั้น เป็นข้าเองที่ไม่ระวังจึงชนเข้ากับกำแพง”
สวีกงกงร้องไห้ออกมา : “หม่อมฉัน......”
อันหลิงหยุนรีบพูด : “กงกง ท่านอย่าเพิ่งรีบไป ข้ายังมีเรื่องจะต้องพูดกับท่าน วันนั้นตอนที่แม่นมซีจากไป ยังทิ้งคำพูดไว้......”
สวีกงกงสูดหายใจเข้า แล้วมองอันหลิงหยุน : “จริงหรือ......”
“จริงสิ!” อันหลิงหยุนสแกนอัตโนมัติ โดยสแกนร่างกายของสวีกงกงก่อน สมองถูกกระทบกระเทือนเล็กน้อยความดันในกะโหลกศีรษะสูง ดูที่ระบบเลือดยังไม่ล้มเหลว
“เสด็จแม่ หยุนหยุนถูกตบ นางเป็นใครก็ไม่สำคัญแล้ว ที่สำคัญคือ ใจของลูกปวดร้าวนัก!” พูดจบกงชิงวี่ก็หันหลังเดินจากไป ทำให้หวางฮองไทเฮาโมโหเป็นอย่างมาก
ครั้งนี้ใบหน้าของอันหลิงหยุนไม่ได้ฟื้นฟูอย่างรวดเร็วเหมือนทุกครั้ง กงชิงวี่กลับมา ใบหน้าของอันหลิงหยุนก็ยังไม่หายดี แต่กลับดูร้ายแรงขึ้น
อันหลิงหยุนรีบจัดการเรื่องของสวีกงกง อันหลิงหยุนปลอบใจสวีกงกง
สวีกงกงรู้สึกชีวิตช่างไร้ความหมาย ไม่อยากพูดอะไรอีก
ฮ่องเต้ชิงหยู่มาถึงวังเฉาเฟิ่งอย่างรวดเร็ว เมื่อเห็นอันหลิงหยุนก็ตกใจ สักพักใหญ่จึงถามว่า: “ไปทำอะไรมา?”
“ไม่ระวังจึงชนเข้ากับกำแพงเพคะ” อันหลิงหยุนจะพูดอะไรได้อีก
สวีกงกงอยากจะลุกขึ้นมา แต่ถูกอันหลิงหยุนจับเอาไว้: “ท่านอย่าลุกขึ้นเลย”
“แล้วนี่เจ้าเป็นอะไร?” ใบหน้าของฮ่องเต้ชิงหยู่เต็มไปด้วยความสงสัย
“หม่อมฉัน......”
“หม่อมฉันชนกำแพง สวีกงกงพยุงหม่อมฉัน หม่อมฉันไม่ทันระวัง จึงเหยียบสวีกงกงเข้าเพคะ เมื่อครู่ไม่ระวังจึงล้มลงอีก จึงชนเข้ากับกำแพงอีกแล้วเพคะ”
ฮ่องเต้ชิงหยู่รู้ดีว่าเรื่องไม่เป็นเช่นนี้แน่ แต่ตอนนี้อันหลิงหยุนยังปากแข็งอยู่ เขาจึงไม่อยากถามอะไรอีก
กงชิงวี่กลับมาจากด้านนอกแล้วตะโกนด้วยความโกรธ: “หลีกไป หลีกไปให้หมด”
เข้ามาข้างใน กงชิงวี่ก็ผลักนางกำนัลล้มลงไปคนหนึ่ง มีความโกรธแต่ระบายไม่ได้ ดังนั้นเขาเห็นใครจึงโมโหไปหมด
ฮ่องเต้ชิงหยู่หันกลับไปดู ทำหน้าแปลกใจ แล้วมองดูกงชิงวี่ที่เดินตะโกนเข้ามาด้วยความโกรธ: “ไป ออกไปให้หมด!”
ฮ่องเต้ชิงหยู่หันหลังยืนเอามือไขว้หลัง: “ข้าเองก็ต้องออกไปด้วยหรือไม่? ที่นี่คือวังเฉาเฟิ่ง เจ้ายังจะกล้าโวยวายอีกหรือ?”
“......” กงชิงวี่แหงนมอง เมื่อเห็นฮ่องเต้ชิงหยู่จริงๆแล้วก็ควรทำความเคารพ แต่วันนี้เขาไม่ทำ
เขาจ้องมองฮ่องเต้ชิงหยู่ด้วยสายตาที่เย็นชา เหมือนว่าระหว่างทั้งสองคนมีความแค้นต่อกันมากมาย ฮ่องเต้ชิงหยู่มองกงชิงวี่แล้วเหม่อลอยไปสักครู่ แต่ก็ไม่น่าแปลกใจ!
“เจ้าจ้องข้าทำไม? หรือว่าอยากจะจัดการกับข้าด้วย?” ฮ่องเต้ชิงหยู่รู้สึกเบื่อหน่าย เขาเป็นถึงฮ่องเต้ แต่ตอนนี้อ๋องเสียนกลับคิดจะรังแกเขาแล้ว!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน
เรื่องนี้สนุกมาก ดีมากจริงๆ ขอบคุณผู้แต่ง ขอบคุณผู้แปล ขอบคุณสปอนเซอร์ ขอบคุณ Admin ที่ลงให้อ่านจนจบ ถ้าเป็นไปได้อยากอ่านเรื่องเจ้าห้าต่อ...
หยุนหยุนคือแบบ เห้อออออ...
เต้คือหงเมียหนักมาก ผิดขนาดไหนก็เข้าข้าง...
ฮองเฮาก็ไม่ได้ท้องจริงๆซะหน่อย คนที่ท้องจริงๆก็มีแค่เซียวผินผู้น่างสารเท่านั้น...
ฮองเฮาเลวทรามเพียงใดทุกคนรู้หมด เต้ก็รู้ดีในใจ แต่ก็บังคับให้ทุกคนต้องตายเพื่อเมียรักตัวเอง ช่างเป็นผัวเมียที่เลวทรามสมกันจริงๆ สงสารหยุนหยุน ทำไมต้องชีวิตมาพัวพันกับคนชั่วพวกนี้ด้วยนะ...
ทุกคนรู้มดว่าฮองเฮาพยายามฆ่าหลิงหยุนาตลอด แต่ทุกคนก็ต้องการให้หลิงหยุนช่วยฮองเฮาและบ้านฮองเฮา ฮ่องเต้ก็นิสัยแย่นะ รักเมียหลงเมียจนปิดหูปิดตาทุกทาง ใจขณะดียวกันก็บังคับห้หิงหยุนสละชีวิตเพื่อตัวเองกับเมียัตวเอง บ้าบอ...
อักลิงหยุนคือใช้เงินมือเติบมากอยู่นะ ขึ้นเงินเดือนให้คนั้งจนตั้งเยอะในคราวเดียว อีกทั้งสร้างหนี้สินพันรอบตัวอีก อย่างไรก็ตามรักษาใครก็ไม่เคยได้เงิน คนในราชวงศ์ขี้เหนียวมาก...
กระยาหารังคืออะไรคะ...