“เจ้าคิดว่า สิ่งสำคัญคือการสร้างความภายในก่อนเช่นนั้หรือ ?”อันหลิงหยุนถาม
หยุนโล๋ชวนส่ายหน้า :“ข้าเป็นสตรีก็ต้องดูแลเรื่อภายใน ไม่ใช่ว่ากันว่าบุรุษจัดการกิจนอกบ้าน สตรีจัดการดูแลเรื่องภายในหรอกหรือ ?ในเมื่อการออกไปทำสงครามเป็นกิจของบุรุษ เช่นนั้นข้าก็ต้องจัดการสงครามภายใน ”
“คงจะไม่ใช่เรื่องง่ายอย่างที่คิดหรอก แม้แต่บุรุษยังไม่อาจจะทำสิ่งใดกับนางได้ แล้วเจ้าจะจัดการนางได้อย่างไรเล่า?”
“ข้ายินยอมจะตายไปพร้อมกับนาง เพื่อไม่ให้นางทำร้ายผู้อื่นไปมากกว่านี้ ลูกของข้าก็เป็นลูกของอ๋องตวน เด็กคนนี้จะต้องมีชีวิตต่อไป ถ้าหากข้าตายไปและนางเองก็ตายไปพร้อมกัน เช่นนั้นมันก็นับว่าคุ้มค่าไม่ใช่หรือ ?”
ความเด็ดเดี่ยวของหยุนโล๋ชวนทำให้อันหลิงหยุนรู้สึกประทับใจอย่างมาก แต่ในสายตาของอันหลิงหยุน นางก็ยังเป็นเพียงคนที่โง่เขลาเท่านั้น
อันหลิงหยุนมองไปยังหยุนโล๋ชวนพลางถอนหายใจ :“สตรีที่ล้วนเป็นคนที่โง่เขลา แต่ในเมื่อเจ้าตัดสินใจแล้ว เช่นนั้นก็ทำตามที่เจ้าต้องการ เจ้ากลับไปเถอะ ดูแลครรภ์ให้ดี ช่วงนี้ก็อย่าเพิ่งไปทำสิ่งใดเลย ”
“ได้”
เมื่อหยุนโล๋ชวนตอบตกลง อันหลิงหยุนจึงได้ตามกงชิงวี่จากไป เนื่องจากทั้งสองไม่มีความจำเป็นใดที่จะต้องอยู่ต่อ
พอออกมาอันหลิงหยุนจู่ๆก็รู้สึกเหนื่อยล้า เหงื่อออกเต็มตัวไปหมด
กงชิงวี่ที่เห็นอย่างนั้นจึงอุ้มนางกลับไปยังจวนอ๋องเสียน
เมื่อกลับมาถึงจวนอ๋องเสียนท้องฟ้าก็มืดแล้ว แต่อันหลิงหยุนยังอยากที่จะไปพบแม่ทัพอันเสียหน่อย
“ท่านอ๋อง พวกเราไปพบท่านพ่อเถอะ”
เพิ่งจะกลับมาถึงประตู อันหลิงหยุนลงมา กงชิงวี่ก็ต้องอุ้มนางขึ้นมาอีกครั้งแล้วไปยังจวนแม่ทัพ
เมื่อเดินทางมาถึงอันหลิงหยุนที่ถูกวางลงมา ก็เดินไปยังประตู
เสี่ยวเฉียวและอะมู่ที่ยืนอยู่ตรงหน้าประตูพอดี เมื่อเห็นอันหลิงหยุนก็รีบเข้าไปหานางทันที
“ท่านแม่”
“อาจารย์”
“อืม ท่านปู่เล่า ?”อันหลิงหยุนไม่ได้พูดสิ่งใดมาก แล้วลูบหัวเสี่ยวเฉียวไปมา
ดวงตาของเสี่ยวเฉียวแดงขึ้นมา นางเข้าไปโผกอดอันหลิงหยุนเอาไว้ แล้วร้องไห้โฮออกมาโดยไม่สนใจสิ่งใดทั้งสิ้น
อันหลิงหยุนหายใจเข้าลึกๆ แท้จริงแล้วนางก็เป็นเพียงแค่เด็กน้อยคนหนึ่ง ตัวนางที่มองว่าเสี่ยวเฉียวเป็นผู้ใหญ่คนหนึ่ง ตอนนี่เป็นตัวนางเองที่มองผิดไป
อันหลิงหยุนโน้มตัวลงมาโอบกอดปลอบใจเสี่ยวเฉียวอยู่ครู่หนึ่ง กระทั่งเสี่ยวเฉียวหยุดร้องไห้ อันหลิงหยุนจึงเดินจูงมือเสี่ยวเฉียวไปหาแม่ทัพอัน ด้วยความที่เคยสูญเสีย จึงกลัวว่าจะต้องสูญเสียไปอีกครั้ง ครั้งนี้เสี่ยวเฉียวเกิดความหวาดกลัวจึงจับมืออันหลิงหยุนเอาไว้อย่างแน่นไม่ยอมปล่อย ด้วยเหตุนี้อันหลิงหยุนจึงพาเสี่ยวเฉียวไปเจอแม่ทัพอันด้วยกัน
เมื่อเดินมาถึงหน้าประตูอันหลิงหยุนหันไปถามพ่อบ้าน :“เป็นยังไง?”
พ่อบ้านก้มหน้าลงตอบ:“ท่านแม่ทัพไม่ยอมมา เป็นเวลาสี่วันแล้วขอรับ”
“แล้วหยุนจิ่นล่ะ?”
อันหลิงหยุนรู้สึกประหลาดใจ เพราะนางสั่งการให้หยุนจิ่นอยู่ที่นี่
“หยุนจิ่นเมื่อวันยังอยู่ที่นี่ วันนี้นางเพิ่งจะออกไป”พ่อบ้านพูดออกมา ทำให้อันหลิงหยุนยิ่งรู้สึกแปลกใจ
“ไม่ใช่สิ หยุนจิ่นไม่ใช่คนที่จะละทิ้งหน้าที่ นางไม่ควรจะไปจากจวนแม่ทัพ และยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่อยู่ที่จวนอ๋องเสียนเพื่อรอข้าด้วย ”
อะมู่มองอันหลิงหยุน:“อาจารย์ วันนั้นท่านป้าเห็นว่าท่านแม่ทัพอันไม่ยอมกินยอมดื่ม นางนำอาหารมาส่งไว้แล้วก็จากไป ข้าถามนางว่านางจะไปไหน นางก็บอกกับข้าว่าจะไปในที่ที่ควรจะไปขอรับ ”
อันหลิงหยุนนิ่งอยู่พักหนึ่ง จึงหันหลังกลับไปมองยังประตูบ้านจวนแม่ทัพ พลางพูด :“ท่านอ๋อง ท่านไปก่อน เราต้องไปช่วยหยุนจิ่น ”
“อืม”
กงชิงวี่เป็นคนที่ชาญฉลาด จึงสามารถเข้าใจทันทีว่าเกิดเหตุอะไรขึ้น
กงชิงวี่เดินออกไป อันหลิงหยุนก็ได้ทำการสั่งการกับพ่อบ้าน:“เจ้าพาอะมู่และเสี่ยวเฉียวไปพักผ่อนก่อน เรื่องที่นี่ให้เป็นหน้าที่ของข้าเอง ”
พ่อบ้านพยักหน้ารับ แล้วพาอะมู่และเสี่ยวเฉียวไปพักผ่อน
อันหลิงหยุนผลักประตูเดนเข้าไป ด้านในค่อนข้างมึด ไม่มีการจุดไฟแม้แต่สักดวง
อันหลิงหยุนออกไปข้างนอกอีกครั้งเพื่อเรียกคนมาจุดไฟ ก่อนจะปิดประตูเข้าไปหาแม่ทัพอันด้านใน ภายในห้องของแม่ทัพอันนั้นเงียบสงบ ราวกับว่าไม่มีผู้ใดอยู่ด้านใน อันหลิงหยุนจุดเทียนขึ้นมาเล่มหนึ่ง พร้อมกับกวาดเทียนส่องไปมาจึงได้เห็นว่าแม่ทัพอันกำลังนอนอยู่ด้านใน
“ท่านพ่อ”
อันหลิงหยุน้องเรียกแม่ทัพอัน แม่ทัพอันที่ได้ยินก็ค่อยๆลืมตาขึ้นมา จากนั้นอันหลิงหยุนได้หาที่แห่งหนึ่งเพื่อที่จะตั้งเทียนเอาไว้ แล้วนั่งลงไปข้างๆ
พอนั่งอยู่ครู่หนึ่ง อันหลิงหยุนก็ถามขึ้นมาอีกครั้ง :“ท่านพ่อ ท่านแม่ยังมีชีวิตงั้นหรือ?”
แม่ทัพอันมองอันหลิงหยุนอยู่นาน :“กำลงดีๆอยู่ จะถามเรื่องเหล่านี้ไปทำไมกัน ?”
“ก็ไม่ได้จะทำสิ่งใด กรกลับมาของนางครั้งนี้ นางต้องการที่จะตามหาท่านแม่ ไม่ยอมจากไป แต่ข้ากลับรับรู้ได้ว่าหากนางไม่ยอมไป จะต้องเป็นตัวของข้าเองที่ต้องไป เพราะร่างกายนี้ไม่อาจที่จะมีวิญญาณสองตนสถิตอยู่ด้วยกันได้ ถึงแม้ว่าข้าจะไร้ปัญญาที่จะอธิบายว่าเรื่องนี้เกิดขึ้นได้อย่างไร แต่ที่แน่นอนคือนางคือเจ้าของร่างเดิม แม้จะเป็นวิญญาณที่อ่อนแอ แต่เพียงแค่นางไม่ยอมไป ความรู้สึกนึกคิดของนางก็จะยังคงอยู่ในร่างนี้ ส่วนข้าที่เป็นเพียงผู้ที่มาขออาศัยร่าง ไม่สามารถที่จะอยู่ต่อได้”
คำพูดเหล่านี้อันหลิงหยุนไม่กล้าที่จะบอกกับกงชิงวี่ เพราะเขาเป็นคนใจร้อน ไม่ว่าอะไรก็เขาก็สามารถทำให้เกิดขึ้นได้
แม่ทัพอันนิ่งอยู่พักหนึ่ง :“เป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมาหลายปีมาแล้ว ตัวข้าก็ไม่แน่ใจว่านางไปที่แห่งใดแล้ว ที่แน่นอนคือนางยังไม่ตาย แต่เพราะนางไม่มีทางเลือกอื่น ”
“อืม”
อันหลิงหยุนถอนหายใจออกมา :“สามารถไปตามหาได้หรือไม่ ?ท่านพ่อเจอกับท่านแม่ที่ใด ? เพลงกระบี่ไร้ใจเป็นของนางใช่หรือไม่ ?”
“นางไม่สามารถทำได้ หรือจะนับว่าเป็นการถ่ายทอดด้วยวาจาเท่านั้น ”แม่ทัพอันไม่คิดจะปิดบังสิ่งใด
อันหลิงหยุนจึงได้เพียงแต่พยักหน้า :“ท่านพ่อ ร่างกายเป็นอย่างไรบ้าง?”
“ไม่เป็นอะไร”
แม่ทัพอันลุกขึ้น มองไปยังอันหลิงหยุนสักพักก่อนจะพูดขึ้น :“เจ้ากลับไปเถอะ ข้า……”
“ท่านพ่อ บางทีอีกไม่นานข้าคงจะต้องจากไป ข้ารู้ว่าท่านพ่อมีความเคลือบแคลงใจในตัวท่านอ๋อง เข้าใจว่าการตายของเป็นฝีมือของท่านอ๋อง แต่ท่านพ่อคงเคยคิดที่จะเติมเต็มพวกเรา ข้าไม่ใช่นักบุญ จึงไม่คิดว่าท่านพ่อควรจะอภัยโทษให้กับพวกข้า แต่ในทุกโชคชะตา ย่อมมีเหตุผลของมัน หากถึงเวลาที่ข้าต้องจากไป เช่นนั้นข้าก็จะเป็นฝ่ายไปเอง เพียงแค่หวังว่าท่านพ่อจะไม่คิดบัญชีนี้กับท่านอ๋องอีก ”
“ได้!”แม่ทัพอันตอบตกลง
“ดังนั้นช่วงเวลานี้พวกเราก็ยังคงต้องทำตัวดังเดิมไปก่อน รอให้ข้าเปลี่ยนแปลงประเทศต้าเหลียง แล้วข้าจะคืนร่างให้กับนาง และไปตามหาท่านแม่ และเมื่อถึงเวลาข้าจะจากไปเอง ”
แม่ทัพอันไม่ได้ตอบกลับ อันหลิงหยุนจึงพูดขึ้นมาอีกครั้ง :“ท่านพ่อ ออกไปข้างนอกเถอะ หากท่านไม่กลับไปท่านจะถูกสงสัยเอาได้ แล้วทุกอย่างจะยิ่งยุ่งยากยิ่งขึ้น ”
เมื่อรู้เช่นนั้นแม่ทัพอันจึงได้ยอมตามออกมา อันหลิงหยุนออกมา ทั้งที่ข้อมือก็ยังคงพันผ้าพันแผลอยู่
แม่ทัพอันเห็นอย่างนั้นก็แปลกใจ :“เหตุใดมือของเจ้ายังไม่หายดีอีก?”
อันหลิงหยุนตอบกลับ :“การปรากฏตัวของนางทำให้ระบบในร่างกายของข้าขัดข้อง จึงทำให้ข้าไม่สามารถที่จะสมานแผลได้ด้วยตัวเองอีกแล้ว แต่ข้าจะพยายามอย่างเต็มที่มนการรักษาร่างกายนี้ เมื่อถึงเวลาข้าจะได้จากไปอย่างสบายใจ และหวังว่านางจะดีกับลูกๆของข้า เพราะข้าเชื่อว่านางเป็นคนดี !”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน
เรื่องนี้สนุกมาก ดีมากจริงๆ ขอบคุณผู้แต่ง ขอบคุณผู้แปล ขอบคุณสปอนเซอร์ ขอบคุณ Admin ที่ลงให้อ่านจนจบ ถ้าเป็นไปได้อยากอ่านเรื่องเจ้าห้าต่อ...
หยุนหยุนคือแบบ เห้อออออ...
เต้คือหงเมียหนักมาก ผิดขนาดไหนก็เข้าข้าง...
ฮองเฮาก็ไม่ได้ท้องจริงๆซะหน่อย คนที่ท้องจริงๆก็มีแค่เซียวผินผู้น่างสารเท่านั้น...
ฮองเฮาเลวทรามเพียงใดทุกคนรู้หมด เต้ก็รู้ดีในใจ แต่ก็บังคับให้ทุกคนต้องตายเพื่อเมียรักตัวเอง ช่างเป็นผัวเมียที่เลวทรามสมกันจริงๆ สงสารหยุนหยุน ทำไมต้องชีวิตมาพัวพันกับคนชั่วพวกนี้ด้วยนะ...
ทุกคนรู้มดว่าฮองเฮาพยายามฆ่าหลิงหยุนาตลอด แต่ทุกคนก็ต้องการให้หลิงหยุนช่วยฮองเฮาและบ้านฮองเฮา ฮ่องเต้ก็นิสัยแย่นะ รักเมียหลงเมียจนปิดหูปิดตาทุกทาง ใจขณะดียวกันก็บังคับห้หิงหยุนสละชีวิตเพื่อตัวเองกับเมียัตวเอง บ้าบอ...
อักลิงหยุนคือใช้เงินมือเติบมากอยู่นะ ขึ้นเงินเดือนให้คนั้งจนตั้งเยอะในคราวเดียว อีกทั้งสร้างหนี้สินพันรอบตัวอีก อย่างไรก็ตามรักษาใครก็ไม่เคยได้เงิน คนในราชวงศ์ขี้เหนียวมาก...
กระยาหารังคืออะไรคะ...