ยอดหมอยาของอ๋องเสียน นิยาย บท 715

บทที่ 715 ซูมู่หรงผู้กลับชาติมาเกิดได้

เมื่อเสี่ยวเฉียวได้เห็นอันหลิงหยุนก็อยากไปหานาง กงชิงวี่จึงวางเสี่ยวเฉียวลง อันหลิงหยุนลูบ สัมผัสใบหน้าน้อย ๆ ของเสี่ยวเฉียว แล้วเอ่ยถามว่า: "เสี่ยวเฉียวเป็นอะไรไป? ทำไมเจ้าถึงร้องไห้ล่ะ?"

เสี่ยวเฉียวสูดน้ำมูกถี่ๆ ตอบว่า : "แม่ ข้าไม่ได้ร้องไห้จริงๆหรอกเจ้าค่ะ ข้าแค่แกล้งร้องเฉยๆ"

อันหลิงหยุนรู้ว่าต้องมีเรื่องอะไรบางอย่างเกิดขึ้นแล้ว จึงพยักหน้ารับรู้: "อื้ม เสี่ยวเฉียวของเราไม่ใช่คนทำอะไรบุ่มบ่าม ดึกขนาดนี้แล้วยังมาที่นี่ ต้องมีเหตุผลอะไรแน่ๆ เจ้าบอกแม่มาเถอะ"

เสี่ยวเฉียวเล่าเรื่องที่จู่ ๆ เฟิงอู๋ฉิงก็จะไปจากที่นี่ให้อันหลิงหยุนกับกงชิงวี่ฟัง อันหลิงหยุนรู้สึก

ประหลาดใจ: "อยู่ดีๆทำไมเขาถึงจะจากไปเสียแล้วล่ะ?"

“ แม่ อาจารย์บอกว่า เขามีญาติกับองค์ชายสามแห่งเมืองหนานอี้ แต่เสี่ยวเฉียวไม่รู้ว่าทำไมเขาถึงต้องไป”

ใบหน้าของกงชิงวี่มืดทะมึนจมดิ่ง: "เจ้าเฟิงอู๋ฉิงตัวดีนั่น บังอาจมาแอบฟังเรื่องของข้าหรือนี่"

อันหลิงหยุนหันมองกงชิงวี่ เอ่ยถามอย่างโกรธๆว่า : "ท่านเป็นอะไรไปอีกล่ะ?"

"ไม่มีอะไร" กงชิงวี่นั่งลง อุ้มเสี่ยวเฉียวไป หยิบเอาผ้าเช็ดหน้ามาเช็ดหน้าเช็ดตาให้เสี่ยวเฉียว:

"เสี่ยวเฉียว วันนี้เจ้ามีแผนจะทำอะไรบ้าง หรือจะอยู่ค้างที่นี่เลย?"

เสี่ยวเฉียวส่ายหน้า: "ข้าบอกอาจารย์ไว้แล้วว่าจะไปหาอามู่ ไม่อยากทำให้เขาสงสัย อีกเดี๋ยวข้ากับอามู่จะไปที่นั่นอีก ที่ตั้งใจมานี่ก็เพื่อจะมาบอกพ่อกับแม่โดยเฉพาะ"

อันหลิงหยุนจ้องมองเสี่ยวเฉียว : "เสี่ยวเฉียว อาจารย์จะไปจากที่นี่ไม่ได้ เจ้ารู้ใช่หรือไม่?"

เสี่ยวเฉียวครุ่นคิดอยู่นาน: "แม่ ที่จริงแล้วอาจารย์เป็นคนที่ขี้ใจอ่อนคนหนึ่ง แต่สิ่งที่เขาห่วงใยที่สุดคือเจ้าห้า วันนี้ข้าคุยกับเขาว่า พอเจ้าห้าไม่อยู่แล้วน่าเบื่อยิ่งนัก แต่ที่จริงแล้วข้าเห็นว่าเขาดูหงุดหงิดไม่สดชื่นเลย วันนี้ทั้งวันเจ้าห้าไม่อยู่ เขาอยู่คนเดียวเบื่อๆ ก็เอาแต่เดินไปเดินมา ข้าเลยบอกไปว่า ไม่แน่ว่าตอนนี้ เจ้าห้าอาจจะกลับมาแล้วก็ได้

หลังจากได้ยินแล้วอาจารย์ก็หายตัวไปเลย ต่อมาข้าได้ยินเขากับอู๋ซานกลับมาถึง อู๋ซานบอกว่าเขาแอบฟังแม่กับพ่อคุยกัน เขาเลยไม่พอใจ ยังบอกด้วยว่ามันไม่ใช่เรื่องแอบฟังพ่อแม่คุยกัน แต่ตอนที่เขากลับมา เขามีสีหน้าเคร่งขรึมมากๆ จากนั้นจึงพูดว่าเขาจะไปแล้ว "

“ เสี่ยวเฉียว เจ้ากลับไปก่อน พรุ่งนี้แม่จะบอกว่าเจ้าห้าไม่สบาย อาจทำให้เขาไม่จากไป แต่ถ้าเขาจะไปจริงๆ ก็อย่าไปฝืนใจ เพราะถึงอย่างไรเขาก็มีความสัมพันธ์กับเมืองหนานอี้ เขารู้เรื่องที่พ่อของเจ้าจะจัดการกับเมืองหนานอี้ แต่ไม่มาจัดการกับพ่อของเจ้า แค่นี้ก็ถือว่าดีมากแล้ว มาถึงตอนนี้ ถ้าเราอยากอยู่ให้ห่างจากปัญหา เป็นธรรมดาที่ต้องไม่หยุดไม่รั้งให้มากจนเกินไป "

“แม่ เสี่ยวเฉียวเข้าใจแล้ว เช่นนั้นเสี่ยวเฉียวกลับก่อนนะเจ้าคะ”

เสี่ยวเฉียวลุกขึ้น อันหลิงหยุนยังรู้สึกไม่วางใจ จึงลงไปส่งเสี่ยวเฉียว เสี่ยวเฉียวเดินไปถึงหน้าประตูก็พูดขึ้นว่า: "แม่ ท่านกลับไปก่อนเถอะเจ้าค่ะ ข้ากลับคนเดียวดีกว่า ไม่อย่างนั้นอาจจะมีคนมาเห็นเข้า"

อันหลิงหยุนลูบหัวเสี่ยวเฉียวอย่างเอ็นดู: "เสี่ยวเฉียว คนคุ้มครองข้างกายเจ้าล่ะ อยู่ที่ไหน?"

"แม่ ไม่มีคนคุ้มครองหรอกเจ้าค่ะ แม่นมจิ่นจัดคนมาให้แล้ว แต่ข้าไม่สะดวกที่จะพาพวกเขาไปไหนมาไหนด้วย ตอนนี้ข้าก็พอจะปกป้องตัวเองได้บ้างแล้ว ดังนั้นข้าเลยไม่ต้องการคนตามคุ้มครองแล้วเจ้าค่ะ"

"เจ้าปกป้องตัวเองได้แล้ว ?" อันหลิงหยุนรู้สึกประหลาดใจ

"แม่ ข้าใช้พิษเป็น ทั้งยังแก้พิษเป็นอีกด้วย ทั้งหมดข้าล้วนเรียนรู้มาจากแม่ ข้าจำทุกสิ่งที่แม่คอยบอกคอยสอนได้ อีกทั้งอยู่ข้างกายอาจารย์ทั้งที ย่อมไม่มีใครทำร้ายข้าได้"

“แม่เข้าใจแล้วล่ะ เสี่ยวเฉียวกลับไปก่อนเถอะนะ”

เมื่อเสี่ยวเฉียวกลับไป อันหลิงหยุนก็หันไปถามกงชิงวี่: "ท่านไปตรวจสอบเรื่องของเมืองหนานอี้มาแล้วหรือเพคะ?"

"หรือว่าให้ตรวจสอบไม่ได้หรือไร?" กงชิงวี่สีหน้าบึ้งตึง

อันหลิงหยุนเดินกลับไปหากงชิงวี่แล้วนั่งลง: "ท่านอ๋องกำลังคิดว่า คนที่เราเพิ่งได้พบเมื่อไม่นานมานี้ ทำไมถึงสามารถมาใช้ชีวิตอยู่ที่นี่ได้นานถึงขนาดนี้แล้ว ใช่หรือไม่เพคะ?"

กงชิงวี่ค่อยๆมองไปอย่างเชื่องช้า ในใจแอบนึกสงสัยอย่างนั้นจริงๆ

“หยุนหยุน ไม่ใช่เพราะข้าอิจฉาไปเสียทั้งหมดหรอกนะ แต่ในสายตาของข้า ต่อให้เขาไม่มา ข้าก็จะไปฆ่าเขาเพื่อชำระความแค้นอยู่ดี ตอนนี้เขามาแล้ว จะให้ข้าปล่อยเขาไปโดยไม่แม้แต่จะไถ่ถามได้อย่างไรกัน?”

“ท่านอ๋อง หนานอี้นับว่าเป็นประเทศที่แข็งแกร่ง ทรงอำนาจที่สุดในแผ่นดินใหญ่ซื่อฟางแล้ว ท่านยังเคยบอกด้วยว่า กองทัพทหาร ไพร่พลม้าศึกทั้งหลายของพวกเขา ต่างก็แข็งแกร่งทรงพลัง เช่นนั้นข้าขอถามหน่อยเถอะ ว่าท่านที่เป็นแค่อ๋องคนหนึ่งจะไปทำอะไรได้?”

หลิงหยุนถอนหายใจ“ ท่านอ๋อง เมื่อลูกสิงโตตัวหนึ่งตายไป แม่สิงโตย่อมเจ็บปวดรวดร้าวใจแทบอยากจะตายให้รู้แล้วรู้รอด แต่เพื่อที่มันจะได้ให้กำเนิดลูกสิงโตตัวต่อไป มันก็จะยังคงล่าเหยื่อเพื่อเลี้ยงสิงโตตัวผู้ตัวนั้นต่อ”

"ทำไมล่ะ?"

แววตาของกงชิงวี่เย็นเยียบ เขาไม่เข้าใจ ว่าทำไมอันหลิงหยุนถึงเป็นเช่นนี้

“ ถ้าสิงโตตัวผู้ ปล่อยให้แม่สิงโตคลอดลูก แม่สิงโตก็จะไม่อาจจากไปไหนได้อีก แม้ว่าก่อนหน้านี้มันจะเจ็บปวดใจมากก็จริง แต่ลูกที่อยู่ตรงหน้านางตัวนั้น อย่างไรก็เป็นลูกของนางอยู่ดี

กงชิงวี่รู้สึกหดหู่ใจอย่างมาก: "หึ ข้ามองหยุนหยุนผิดไปอย่างนั้นหรือนี่?"

อันหลิงหยุนนึกขัน: "ท่านอ๋อง หากว่าเป็นอย่างนั้นขึ้นมาจริงๆ ข้าจะหาทางปกป้องลูก ๆ ก่อนที่เขาจะทันได้ฆ่าลูกๆของเรา ข้าจะคิดหาทางฆ่าเขาเสียก่อน แล้วมอบลูก ๆ ให้พวกหยุนจิ่นช่วยดูแล จากนั้นค่อยตามท่านไป"

นี่คือคำมั่นของอันหลิงหยุน ทั้งเป็นคำอธิบายที่นางให้กับกงชิงวี่อีกด้วย

นางเองก็คาดไม่ถึงว่า ตัวเองจะพูดอะไรอย่างนี้ออกมา

แต่ทว่า นางเอาจริง

กงชิงวี่หันไปมองอันหลิงหยุน ยื่นมือออกไปจับมือนางไว้แน่น : "จริงหรือ?"

“ท่านอ๋องลองดูก็ได้นะเพคะ”

“ข้าไม่ต้องลองอะไรทั้งนั้น ข้าเชื่อ”

กงชิงวี่ลุกขึ้น: "หยุนหยุน ข้าไปตรวจสอบมาแล้ว แต่องค์ชายสามของเมืองหนานอี้ มีตัวตนอยู่มาตั้งแต่แรกเกิด ไม่ใช่ว่าเขาสามารถกลับชาติมาเกิดใหม่ได้ ตั้งแต่เป็นทารกเลยหรอกหรือ?"

เกี่ยวกับเรื่องนี้ กงชิงวี่ก็รู้สึกกลุ้มใจอย่างมาก กระทั่งกลับชาติมาเกิดใหม่ก็ยังทำได้ แล้วทำไมถึงต้องไปเมืองหนานอี้ด้วย ? ทั้งเหล่ากองทัพทหาร ไพร่พลม้าศึกของที่นั่นทั้งเก่งกาจแข็งแกร่ง ยิ่งบวกเอาความสามารถของซูมู่หรงเข้าไปอีกคน หากเขาคิดจะมาช่วงชิงภรรยาไป เพียงแค่ส่งกองทหารออกมา ประเทศต้าเหลียงก็ไม่อาจเป็นคู่ต่อสู้ของเขาได้โดยสิ้นเชิงแล้ว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน