บทที่ 718 พระชายารองจวนอ๋องเสียน
หลังจากเฟิงอู๋ฉิงออกไปแล้ว เสี่ยวสวีจื่อถึงค่อยดึงสติกลับมาได้ รีบลุกขึ้นอ่านประกาศพระราชโองการ เมื่ออันหลิงหยุนรับราชโองการแล้ว เสี่ยวสวีจื่อจึงกล่าวลาสวีกงกง แล้วกลับไปก่อน
หลังสวีกงกงไป อันหลิงหยุนก็เตรียมตัวเข้าวัง แม่ทัพอันเอ่ยถามขึ้นว่า " เวลานี้เจ้าจะเข้าวังไปทำไมกัน?”
"เวลานี้แหล่ะเจ้าค่ะที่ข้าควรเข้าวัง" อันหลิงหยุนมองไปที่แม่ทัพอัน: "พ่อ ท่านก็พักผ่อนเร็วขึ้นสักหน่อยนะเจ้าคะ ท่านอ๋องก็ยังไม่กลับมาเลย ไม่รู้ว่าเกิดเรื่องอะไรขึ้นหรือไม่"
"เจ้าไม่เป็นไรแล้วหรือ?" ช่วงนี้แม่ทัพอันแม้แต่นอนก็ยังนอนหลับไม่สนิท เมื่อนึกถึงอาการบาดเจ็บของอันหลิงหยุนทีไร ก็รู้สึกเจ็บปวดเป็นทุกข์ในใจไม่หาย
อันหลิงหยุนยิ้ม: "พ่อ ข้าหายดีแล้วเจ้าค่ะ ท่านดูสิ"
อันหลิงหยุนยกข้อมือขึ้นมาให้แม่ทัพอันดู แม่ทัพอันไม่ได้มีท่าทียินดีขึ้นมามากมายเท่าไรนัก เพียงถามออกไปว่า
"แล้วเจ้ายังมีตรงไหนที่รู้สึกไม่สบายบ้างหรือไม่?"
"ไม่มีแล้วเจ้าค่ะ ตอนนี้ยังไม่เป็นไร พ่อวางใจเถอะ ทุกอย่างจะเป็นไปตามที่ได้พูดกันไว้" ที่นี่มีคนอยู่ อันหลิงหยุนจึงไม่อยากพูดอะไรที่มันชัดเจนจนเกินไปนัก
แต่แม่ทัพอันในเวลานี้ กลับไม่ได้สนใจเรื่องเหล่านั้นมากมายนัก เขาพูดเพียงว่า: "ถ้าอย่างนั้นเจ้าต้องระวังตัวให้ดี ถ้าเกิดเรื่องอะไรขึ้น ให้กลับมาบอกพ่อ พ่อจะรีบไปหาทันที"
อันหลิงหยุนรู้สึกซาบซึ้งตื้นตันใจขึ้นมาไม่น้อย พยักหน้ารับรู้: "อื้ม ข้ารู้เจ้าค่ะ"
อันหลิงหยุนออกจวนไป ก็ตรงเข้าวัง เมื่อไปถึงหน้าประตูก็เห็นกงชิงวี่เข้า นางจึงลงจากรถม้าไปหากงชิงวี่ : "นี่คงไม่ใช่ว่า ท่านอ๋องต้องมารออยู่ที่นี่ทั้งคืนแล้วหรอกนะเพคะ?"
"หากเป็นเช่นนั้นแล้วมันจะทำไมหรือ?" กงชิงวี่ต้องรออยู่อย่างนี้มาหนึ่งวันเต็มๆ จนตอนนี้เกินขีดจำกัดความอดทน หงุดหงิดร้อนใจจวนจะระเบิดออกมาอยู่แล้ว
"เป็นอย่างไรเจ้าคะ? มีตรงไหนที่รู้สึกว่าไม่สบายบ้างหรือไม่?" อันหลิงหยุนถามกงชิงวี่ สีหน้าของเขาพลันดำคล้ำทะมึนหนักอึ้ง ก้มหน้าลงไปกระซิบถ้อยคำสองสามประโยคที่ข้างหูนาง
มุมปากของอันหลิงหยุนพลันยกสูงขึ้นทันที: "ท่านอ๋อง ไว้กลับไปแล้วหมั่นบำรุงดูแลปรับสภาพให้ดี ก็ไม่เป็นไรแล้วเพคะ"
"อื้ม"
ประตูพระราชวังเปิดออก อันหลิงหยุนจูงมือกงชิงวี่เข้าไป ขันทีน้อยที่ประตูรีบเข้ามาขวางไว้ใบหน้าของกงชิงวี่ก็คล้ำทะมึนจมดิ่ง: "ข้าจะดูซิว่าใครหน้าไหนมันบังอาจเข้ามาขวาง?"
ขันทีน้อยตกใจจนลนลานถอยหลังไปล้มจ้ำเบ้าลงกับพื้น กงชิงวี่เป็นฝ่ายหันกลับไปจูงมืออันหลิงหยุน แล้วพาเดินเข้าไปในวัง
ขันทีน้อยรีบลุกขึ้นจากพื้นเป็นพัลวัน เข้าไปพูดกับกงชิงวี่และอันหลิงหยุนว่า: "ฝ่าบาทมีรับสั่งให้พระชายาเสียนเข้าเฝ้าพ่ะย่ะค่ะ"
"ไปเถอะ"
กงชิงวี่จูงมืออันหลิงหยุนเดินเข้าไป เมื่อไปถึงพระตำหนักจรุงจิต กงชิงวี่ก็ยกยิ้มเย็นชา:
"ไปทูลฝ่าบาทว่า พระชายาเสียนมาเข้าเฝ้าแล้ว”
ขันทีน้อยรีบเข้าไปทูลรายงาน จากนั้นไม่นานประตูวังก็เปิดออก อันหลิงหยุนจึงเดินเข้าไป
ฮ่องเต้ชิงหยู่ทรงรออันหลิงหยุนอยู่แล้ว ครั้นทอดพระเนตรเห็นอันหลิงหยุนก็ชะงักค้างไปครู่หนึ่ง แล้วจึงทอดพระเนตรไปที่กงชิงวี่ ตรัสถามขึ้นว่า: "ทำไมเจ้าถึงมาด้วยล่ะนี่? เรื่องนี้ตกลงเป็นที่เรียบร้อยแล้ว เจ้าไม่จำเป็นต้องพูดอะไรให้มากความอีก "
"อันหลิงหยุนถวายบังคมฝ่าบาทเพคะ" เมื่อปล่อยมือของกงชิงวี่แล้ว อันหลิงหยุนก็หันไปถวายบังคมฮ่องเต้ชิงหยู่
ฮ่องเต้ชิงหยู่เสด็จลงมาจากด้านบนจนมาถึงเบื้องหน้ากงชิงวี่ เป็นการพบหน้ากันของพี่น้อง ที่ช่างดูเหมือนศัตรูคู่อาฆาตได้มาพบกันอย่างไรอย่างนั้น
“ ข้าเคยบอกแล้วว่า เมื่อเจ้าทำร้ายฮองเฮาได้ ข้าก็ทำร้ายเจ้าได้เช่นกัน” ฮ่องเต้ชิงหยู่ก็กล้าพอจะตรัสออกมาตรงๆ อันหลิงหยุนไม่เงยหน้าขึ้นมองแม้แต่นิดเดียว
กงชิงวี่สีหน้าเย็นชา: "แล้วถ้าข้าไม่ยอมล่ะ?"
“นั่นไม่ใช่เรื่องที่เจ้าเป็นคนกำหนด พระชายาเสียน แม่ทัพฮั่วฉิงบอกกับข้าว่า นางต้องการแต่งเข้าจวนอ๋องเสียน เจ้าจะยินยอมหรือไม่?”
“หม่อมฉันยินยอมเพคะ”
อันหลิงหยุนลุกขึ้น กงชิงวี่หันไปมองดังขวับ: "ตอนมา หยุนหยุนพูดไว้อย่างนี้หรือ?"
“ รับสั่งฮ่องเต้ยากจะขัดขืน เหตุใดท่านอ๋องจึงต้องดื้อรั้นด้วยล่ะเพคะ?”
"เจ้า……"
กงชิงวี่โกรธจนกัดฟันกรอด
อันหลิงหยุนคุกเข่าลง: "หม่อมฉันขอบพระทัยในพระมหากรุณาธิคุณของฝ่าบาทเพคะ"
"....." ฮ่องเต้ชิงหยู่ทอดพระเนตรกงชิงวี่: "ว่าอย่างไร?"
เป็นเพราะเรื่องนี้เอง ทำให้กระทั่งเฟิงอู๋ฉิงก็ยังตามไปจวนแม่ทัพด้วยอีกคน เขาอุ้มเจ้าห้าไว้ในอ้อมแขน เดิมทีวางแผนไว้ว่าจะไปจากที่นี่แล้ว พอเห็นสองคนผัวเมียทะเลาะแง่งอนใส่กันแล้ว พลันรู้สึกว่าเป็นอะไรที่แปลกใหม่ไม่เคยเห็น จึงตามไปชมเรื่องสนุกด้วยความกระตือรือร้น
ทันทีที่ผู้คนในลานจุนจื่อจากไป จวนอ๋องเสียนก็แลดูว่างเปล่าลงไปเกินครึ่ง พ่อบ้านที่ยืนอยู่หน้าประตูลานโอวหลาน ถึงกับทอดถอนใจอย่างโศกเศร้า
" ท่านอ๋อง ท่านจะแต่งงานกับแม่ทัพน้อยฮั่วฉิงจริง ๆ หรือพ่ะย่ะค่ะ?" พ่อบ้านไม่เข้าใจ นี่ไม่ใช่ว่าทุกอย่างก็ล้วนเป็นไปด้วยดีหรอกหรือ? ลูกก็มีตั้งเยอะแยะมากมายหลายคนแล้ว ทำไมถึงต้องรับพระชายารองด้วย?
“ไม่ต้องพูดถึงเรื่องนี้อีก เป็นพระสงฆ์ของฝ่าบาทที่ต้องการให้ข้าหย่าภรรยา ข้าก็มีแต่ต้องทำตามเท่านั้น เจ้าจงออกไปประกาศว่าตอนนี้ข้าได้หย่ากับภรรยาแล้ว ตอนนี้ที่ข้าต้องแต่งเข้ามาเป็นภรรยาหลวง ซึ่งก็คือผู้หญิงที่ฮ่องเต้พระราชทานมาคนนั้น "
พ่อบ้านไม่กล้าชักช้า รีบออกไปประกาศ โดยการยืนป่าวร้องก้องตะโกนอยู่ที่หน้าประตูจวน
ทันทีที่พ่อบ้านป่าวประกาศออกไป ทั่วทั้งเมืองหลวงต่างก็ตกอยู่ในความวุ่นวายทันที
ทั้งจวนอ๋องตวนและจวนกั๋วกง จวนราชครูจุนไปจนถึงจวนฮั่ว ต่างก็ได้รับรู้เรื่องนี้ภายในเวลาไม่ถึงหนึ่งชั่วยาม
"หย่าแล้ว?"
ฮั่วฉิงกลับรู้สึกดีใจอย่างมาก
“หย่าแล้วขอรับ แต่นายท่านกำลังโกรธหัวฟัดหัวเหวี่ยงรอคุณหนูอยู่ที่โถงด้านหน้า คุณหนู มีคนจำนวนหนึ่งมาขอรับ ตอนนี้อยู่ในห้องโถงรับรอง ท่านไม่อยากไปดูสักหน่อยหรือขอรับ?” "มีใครมาอย่างนั้นหรือ?" ฮั่วฉิงโยนหวีไม้ในมือทิ้ง สาวเท้าก้าวเดินตรงไปที่ห้องโถงด้านหน้า
ในเวลานี้คนกลุ่มหนึ่งได้มารวมตัวกันอยู่ในห้องโถงด้านหน้าแล้ว ทั้งราชครูจุน รวมถึงฮูหยินใหญ่จวนกั๋วกงต่างก็มากันพร้อม
แม่ทัพฮั่วเดินไปมาด้วยความร้อนใจ เมื่อได้เห็นฮั่วฉิงอารมณ์หงุดหงิดก็พลันปะทุทันที: "ทุกอย่างล้วนเป็นเพราะเจ้า ช่างทำแต่เรื่องงามหน้าไว้ทั้งนั้น"
ฮั่วฉิงหันไปมองราชครูจุน กับฮูหยินใหญ่จวนกั๋วกง : "ราชครูจุน ฮูหยินใหญ่!"
ทั้งสองคนไม่ได้พูดอะไร แม่ทัพฮั่วจะตีฮั่วฉิงอยู่แล้ว ฮูหยินใหญ่จึงกล่าวว่า: "ช้าก่อน"
ราชครูจุนเงยหน้าขึ้น:“ หากเรื่องนี้มาเกิดขึ้นในจวนของข้า เกรงว่าคงจะลากออกไปทุบตีให้หนักเสียนานแล้ว อ๋องเสียนก็ช่างไว้หน้าเสียจริง ยอมรับรู้เห็นด้วยกับเรื่องเช่นนี้ได้ เพียงแต่ ....รับพระชายารองเข้าจวน ถึงกับขับไล่หย่าร้างภรรยาหลวง ยามนี้ชื่อเสียงของพระชายาเสียนในเมืองหลวง ก็มีแต่จะย่ำแย่ใหญ่โตขึ้นเรื่อย ๆ น่ากลัวว่าจากนี้คงจะพูดกันยากเสียแล้วกระมัง "
แม่ทัพฮั่วเดินกลับไปกลับมาไม่หยุด: "เช่นนั้นจะทำเยี่ยงไรดี ฮ่องเต้ก็ช่าง..... เหตุใดถึงได้บุ่มบ่ามเช่นนี้ .... ข้า..... "
เมื่อรู้ตัวว่าพูดอะไรผิดออกไปเสียแล้ว แม่ทัพฮั่วก็รีบประสานหมัดโค้งคำนับขออภัย แล้วหันไปมองฮั่วฉิง:“ แล้วนี่เจ้าจะยืนเซ่อทำอะไรอยู่ ? ยังไม่รีบไปจวนแม่ทัพเพื่อเชิญคนกลับไปอีก! ข้าว่าเรื่องแต่งเป็นชายารองนี่เราระงับไปเสียเถอะ เจ้าก็ไปตามหาอันเสี่ยวฮวนของเจ้าต่อ เรื่องทางเราเลื่อนเวลาออกไปอีกหน่อยก็ได้”
ราชครูจุนกับฮูหยินกั๋วกงหันมามองหน้ากัน นับว่าเรื่องนี้จัดการได้เสร็จสิ้นลงตัวเป็นที่เรียบร้อย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหมอยาของอ๋องเสียน
เรื่องนี้สนุกมาก ดีมากจริงๆ ขอบคุณผู้แต่ง ขอบคุณผู้แปล ขอบคุณสปอนเซอร์ ขอบคุณ Admin ที่ลงให้อ่านจนจบ ถ้าเป็นไปได้อยากอ่านเรื่องเจ้าห้าต่อ...
หยุนหยุนคือแบบ เห้อออออ...
เต้คือหงเมียหนักมาก ผิดขนาดไหนก็เข้าข้าง...
ฮองเฮาก็ไม่ได้ท้องจริงๆซะหน่อย คนที่ท้องจริงๆก็มีแค่เซียวผินผู้น่างสารเท่านั้น...
ฮองเฮาเลวทรามเพียงใดทุกคนรู้หมด เต้ก็รู้ดีในใจ แต่ก็บังคับให้ทุกคนต้องตายเพื่อเมียรักตัวเอง ช่างเป็นผัวเมียที่เลวทรามสมกันจริงๆ สงสารหยุนหยุน ทำไมต้องชีวิตมาพัวพันกับคนชั่วพวกนี้ด้วยนะ...
ทุกคนรู้มดว่าฮองเฮาพยายามฆ่าหลิงหยุนาตลอด แต่ทุกคนก็ต้องการให้หลิงหยุนช่วยฮองเฮาและบ้านฮองเฮา ฮ่องเต้ก็นิสัยแย่นะ รักเมียหลงเมียจนปิดหูปิดตาทุกทาง ใจขณะดียวกันก็บังคับห้หิงหยุนสละชีวิตเพื่อตัวเองกับเมียัตวเอง บ้าบอ...
อักลิงหยุนคือใช้เงินมือเติบมากอยู่นะ ขึ้นเงินเดือนให้คนั้งจนตั้งเยอะในคราวเดียว อีกทั้งสร้างหนี้สินพันรอบตัวอีก อย่างไรก็ตามรักษาใครก็ไม่เคยได้เงิน คนในราชวงศ์ขี้เหนียวมาก...
กระยาหารังคืออะไรคะ...