ฉู่หลิวเยว่รู้สึกตกใจอย่างมาก ก่อนจะเงยหน้าขึ้นไปมอง
หลังจากซั่งปิ่งเหอออกไปแล้ว ประตูของห้องทรงอักษรยังไม่ทันปิด
จวินจิ่วชิงก็เดินออกมาแล้ว พร้อมพูดกับทหารยามที่เฝ้าอยู่โดยรอบ
“พวกเจ้าออกไปรอที่ด้านนอกตำหนักก่อน ห้ามให้ผู้ใดเข้ามา หากไม่ได้รับคำสั่ง”
แม้ว่าทุกคนจะมึนงง แต่ก็ปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
“พ่ะย่ะค่ะ!”
เมื่อพูดจบ นายทหารเหล่านั้นก็เดินออกไปอย่างเป็นระเบียบ
หลังจากนั้นไม่นาน ภายในและภายนอกของห้องทรงอักษรก็ไม่มีใครอยู่แล้ว
“ตอนนี้ คงออกมาได้แล้วสินะ?”
จวินจิ่วชิงหันหน้ากลับมา พร้อมมองมายังทิศทางที่ฉู่หลิวเยว่อยู่
ฉู่หลิวเยว่ครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง และเดินออกไป
ในเมื่อมาถึงขั้นนี้แล้ว ก็ไม่จำเป็นจะต้องปิดบังอีกต่อไป
และในตอนนี้นางมีเรื่องบางอย่างที่ต้องการจะคุยกับจวินจิ่วชิงพอดี
จวินจิ่วชิงใช้สายตาสำรวจนาง ก่อนจะเลิกคิ้วขึ้นเล็กน้อย แล้วเดินเข้าไปในห้องทรงอักษร
ฉู่หลิวเยว่ก็เดินตามเข้าไปติดๆ
…
หลังจากเข้ามาในห้องแล้ว จวินจิ่วชิงก็นั่งลงในที่ของตัวเอง พร้อมเลิกคิ้วและยิ้มให้กับฉู่หลิวเยว่
“ไม่ว่าอย่างใดเจ้าก็เคยมาที่นี่แล้ว เช่นนั้นก็นั่งตามสบายเถอะ”
ฉู่หลิวเยว่ไม่สนใจกับการหยอกล้อของเขา และนั่งลงในตำแหน่งตรงข้าม
ทั้งสองคนต่างมองหน้ากันไปมา
จวินจิ่วชิงมองหน้านางด้วยความสนใจ ในแววตาเหมือนจะมีแสงสว่างส่องประกายออกมา
“ครั้งที่แล้วเจ้าก็เข้ามาเช่นนี้หรือ?”
“ไม่จำเป็นต้องพูดจาเกรงอก เกรงใจ ข้าเชื่อว่าเจ้ารู้อยู่แล้วว่าวันนี้ข้ามาที่นี่เหตุใด พวกเรามาเข้าประเด็นกันเลยเถอะ”
ฉู่หลิวเยว่พูดอย่างตรงไปตรงมา
จวินจิ่วชิงก็ยกยิ้มขึ้นบางๆ
“เดิมทีข้าอยากจะรำลึกถึงวันคืนเก่าๆ แต่ดูเหมือนว่าเจ้าจะปฏิเสธไมตรีเช่นเดิม…”
“วันวานไม่จำเป็น เจ้าไม่มีทางมองไม่ออก ข้าลืมเรื่องราวเหล่านั้นไปเป็นจำนวนมาก ตอนนี้ข้ากับเจ้าเป็นเพียงคนแปลกหน้ากันเท่านั้น พูดคำพูดเหล่านั้นไปก็ไม่มีความหมาย ถ้าเช่นนั้นเจ้าไม่รีบพูดมาดีกว่าว่าต้องทำอย่างใดเจ้าถึงจะยอมปล่อยท่านพ่อของข้าไป”
ฉู่หลิวเยว่พูดจาขวานผ่าซากอย่างมาก
จดหมายฉบับนั้นที่ได้รับมาในตอนแรก ต่อมาเป็นบันทึกนั้น ทั้งหมดทั้งมวลนั้นชี้ว่า จวินจิ่วชิงมีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้
ก่อนหน้านี้พวกเขาอาจจะเคยรู้จักกัน แต่ว่าตอนนี้นางลืมไปหมดแล้ว พูดขึ้นมาก็ไม่มีประโยชน์
และยิ่งไปกว่านั้น นางเองก็มีความรู้สึกบางอย่าง
นางคิดว่าก่อนหน้านี้ที่พวกนางเคยรู้จักกันอาจจะเป็นความสัมพันธ์ที่ไม่ค่อยจะดีนัก
จวินจิ่วชิงนั่งพิงพนักเก้าอี้
“เงื่อนไขของข้านั้นง่ายดายมาก ก่อนหน้านี้ข้าพูดกับเจ้าไปแล้วไม่ใช่หรือ?”
ฉู่หลิวเยว่ขมวดคิ้วเล็กน้อย
“เมื่อไร?”
จวินจิ่วชิงลูบหัวคิ้วเบาๆ ใบหน้าคล้ายยิ้มคล้ายไม่ยิ้ม
“ก่อนหน้านี้ตอนที่อยู่ในหุบเขาบรรพกาลเฟิ่งหวง เจ้าคงไม่ได้คิดว่าข้านั้นล้อเล่นหรอกนะ?”
ฉู่หลิวเยว่ชะงักไป
แน่นอนว่านางจำสิ่งที่จวินจิ่วชิงพูดในตอนนั้นได้
เขาพูดว่า ขอเพียงนางตกลงแต่งงานกับเขา ทุกอย่างก็จะเป็นของนาง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...