เดิมทีฉู่หลิวเยว่วางแผนว่าจะไปหาหรงซิว เพื่อถามเรื่องราวในอดีต
แต่หลังจากที่รู้เรื่องอาณาจักรเสิ่นซวี่ นางก็อยากจะถามเรื่องนี้ด้วยเช่นกัน
เมื่อรู้ว่าเขาอยู่ที่ไหน ดังนั้นนางจึงไม่เสียเวลา และให้เสวี่ยเสวี่ยพาพวกนางไปที่นั่นทันที
เดิมทีเสวี่ยเสวี่ยอยากจะคัดค้าน แต่หลังจากที่รู้ว่าตู๋กูโม่เป่าจะเดินทางมาด้วยกัน มันก็ล้มเลิกความคิดนี้โดยสิ้นเชิง พร้อมกับพาทั้งสองคนไปที่นั่นอย่างว่าง่าย
แน่นอนว่าเสวี่ยเสวี่ยให้แค่ฉู่หลิวเยว่ขี่หลังคนเดียวเท่านั้น
ตอนนี้ตู๋กูโม่เป่าหลอมร่างศักดิ์สิทธิ์สำเร็จแล้ว ความเร็วของเขานั้นจึงมากกว่าเสวี่ยเสวี่ยด้วยซ้ำ ดังนั้นเขาจึงรุดหน้าไปเอง
ดังนั้นคนสองคน สัตว์อสูรหนึ่งตัวจึงเดินทางด้วยวิธีนี้
…
“อาณาจักรเสิ่นซวี่อยู่ห่างจากที่นี่หลายหมื่นลี้ ต่อให้พวกเราใช้ความเร็วเต็มพิกัด ก็ยังต้องใช้เวลาเกือบสิบวัน”
ระหว่างทางตู๋กูโม่เป่าก็ช่วยอธิบายเรื่องราวบางอย่างให้กับฉู่หลิวเยว่ฟังเป็นครั้งคราว
ส่วนใหญ่แล้วจะเป็นเรื่องราวที่เกี่ยวกับอาณาจักรเสิ่นซวี่
ระหว่างนั้น ฉู่หลิวเยว่ก็ลองพยายามถามคำถามที่เกี่ยวกับตัวเองในปีนั้น แต่ตู๋กูโม่เป่าก็ปิดปากสนิทไม่ยอมพูดยอมจา
หลังจากลองมาสองครั้งแล้ว ฉู่หลิวเยว่จึงยอมแพ้
“หากใช้ค่ายกลเคลื่อนย้าย ก็ใช้เวลานานขนาดนี้หรือไม่?”
ฉู่หลิวเยว่ถามขึ้น
เท้าของตู๋กูโม่เป่าเหยียบอยู่บนกระบี่สั้นสีม่วง สองมือไพล่หลัง เดินทางต้านลม เสื้อผ้าปลิวไสว
แน่นอนว่าท่าทางของเขาดูเย็นชาสูงส่ง
ถ้ามองข้ามใบหน้าอ้วนกลม ข้อมือสั้นๆ ที่เอาไพล่หลัง และหน้าท้องเล็กๆ ที่ยื่นออกมา ซึ่งก็ดูมีมาดอย่างมาก
เมื่อได้ยินคำถามของฉู่หลิวเยว่ เขาก็ร้องเหอะออกมาเบาๆ
“ระหว่างพรมแดนม่านฟ้าและอาณาจักรเสิ่นซวี่ไม่มีค่ายกลเคลื่อนย้ายหรอก หากต้องการจะเข้าไปในอาณาจักรเสิ่นซวี่ จำเป็นจะต้องไปที่ชายแดนของอาณาจักรเสิ่นซวี่ อีกทั้งมันไม่เหมือนทางเข้าทางออกทั่วไป”
ฉู่หลิวเยว่รู้สึกตกใจเล็กน้อย หลังจากครุ่นคิดอยู่สักพัก นางก็เข้าใจอันใดได้บางอย่าง
“…ดูเหมือนว่าคนอาณาจักรเสิ่นซวี่ จะเป็นคนที่เย่อหยิ่งและสูงส่งมากทีเดียว…”
แม้กระทั่งค่ายกลเคลื่อนย้ายยังไม่ยอมติดตั้ง เหมือนว่าไม่ต้องการจะติดต่อกับโลกภายนอก!
คนในอยากจะออก ก็ไม่มีอันใดจะพูด แต่ถ้าคนนอกอยากจะเข้า ก็ต้องข้ามน้ำข้ามภูเขามาเป็นหมื่นๆ ลูก และผ่านความยากลำบากมามากมาย
“มันแน่นอนอยู่แล้ว”
ตู๋กูโม่เป่าพูดขึ้นอย่างไม่ใส่ใจ
“ผู้ที่สามารถตั้งหลักในอาณาจักรเสิ่นซวี่ได้ ล้วนเป็นสำนักชั้นยอดของแผ่นดินใหญ่ พวกเขามีทุนให้หยิ่งยโส จึงคิดว่าตนเองสูงส่งกว่าคนอื่นเสมอ”
“ต่อให้ถึงชายแดนของอาณาจักรเสิ่นซวี่ หากต้องการจะเข้าไปมันก็ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น ทางเข้าทางออกเหล่านั้น ถูกควบคุมด้วยกองกำลังต่างๆ อีกทั้งยังเฝ้ากันอย่างเข้มงวด”
ขณะที่พูด สายตาของตู๋กูโม่เป่าก็เหลือบไปมองฉู่หลิวเยว่ที่อยู่ด้านข้าง
“หากไม่ได้เป็นคนจากอาณาจักรเสิ่นซวี่ต้องการเข้าไปด้านใน อย่างน้อยจะต้องเป็นจอมยุทธ์ระดับเก้า ด้วยระดับพลังของเจ้าในตอนนี้ เดิมทีไม่สามารถเข้าไปด้านในได้ แต่ว่ายังดีที่ภายในร่างกายของเจ้ามีพลังศักดิ์สิทธิ์ เมื่อถึงตอนนั้น อาจจะพอให้เข้าไปได้”
ฉู่หลิวเยว่พยักหน้าเบาๆ กำหมัดกรอดโดยไร้เสียง
คำพูดของตู๋กูโม่เป่าเป็นความจริงอย่างมาก
นางในตอนนี้ไม่มีสิทธิ์ที่จะเข้าไปด้านใน
เมื่อเทียบกับผู้แข็งแกร่งระดับสูงที่อยู่ในแผ่นดินใหญ่ นางในตอนนี้ เป็นเพียงแค่มดตัวหนึ่งเท่านั้น
ผู้ที่แข็งแกร่งเป็นใหญ่!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...