ท่ามกลางฟ้าดินมีแต่ความมืดมิด มีเพียงนาฬิกาไร้กาลเวลาเท่านั้นที่ยังคงส่องสว่างประกายศักดิ์สิทธิ์แวววาว!
สายลมพัดผ่าน โบกสะบัดชายเสื้อของฉู่หลิวเยว่
เมื่อมองไปยังสัญลักษณ์ไม่สมบูรณ์ที่อยู่บนนาฬิกาไร้กาลเวลาจางหายไปแล้ว ก้อนหินก้อนใหญ่ที่อยู่ในหัวใจของฉู่หลิวเยว่ก็เหมือนถูกยกออก
“ฟู่ว…”
ค่อยยังชั่ว!
ในที่สุดก็สามารถหยุดได้ในตอนสุดท้าย!
ฉู่หลิวเยว่ลอบรู้สึกดีใจ อีกแค่นิดเดียวเท่านั้น เข็มจะชี้ไปที่ตัวเลข “สิบสอง”!
ยังดีที่นางดึงเอาไว้ทันเวลา…
หากทุกคนรู้ความคิดของนางในตอนนี้ เกรงว่าจะต้องกระอักเลือดออกมาสามครั้ง
ทุกคนต้องการให้เข็มนั้นก้าวไปข้างหน้ามากสักก้าวสองก้าว แต่นางนั้นกลับกลัวว่าเข็มจะก้าวไปข้างหน้ามากเกินไป จึงต้องรีบขวางเอาไว้!
ฉู่หลิวเยว่ถอนมือออก
แสงที่อยู่บนนาฬิกาไร้กาลเวลาหม่นลง
ท่ามกลางสายตาของคนนับไม่ถ้วน นาฬิกาไร้กาลเวลาค่อยๆ หายไปในความว่างเปล่า
บนยอดเขานั้นเหลือเพียงแสงคบเพลิงที่ยังคงส่องสว่าง และสะท้อนเงาร่างของแม่นางคนนั้นอยู่
แผ่นหลังเหยียดตรง รูปร่างบางระหง เส้นผมและเสื้อผ้าปลิวไสว!
นางหมุนตัวกลับแล้วก็กระโดดขึ้นไปบนสะพานที่สร้างด้วยลำแสงสีทอง
การก้าวย่างมั่นคง ท่าทางงดงาม
ชั่วพริบตาเดียวนางก็เดินทางมาถึงตำหนักศักดิ์สิทธิ์แล้ว
นางกระโดดลงมาจากบนนั้น
หรงซิวสะบัดชายเสื้อหนึ่งครั้ง ลำแสงที่เป็นสะพานนั้นได้กลายเป็นดวงดาวจำนวนนับไม่ถ้วน
ท่ามกลางค่ำคืนที่มืดมิด เหมือนว่าแม่นางคนนั้นออกมาจากประกายจำนวนมากมาย นางเดินเข้าไปหาหรงซิว พร้อมรอยยิ้มที่สดใส
“เป็นอย่างใดบ้าง พอใจกับผลลัพธ์นี้หรือไม่?”
หรงซิวมองหน้านาง แววตาลึกล้ำ ริมฝีปากบางเฉียบ จากนั้นค่อยๆ ยิ้มออกมาอย่างช้าๆ
“แน่นอนว่าเยว่เอ๋อดีที่สุด”
ฉู่หลิวเยว่ขมวดคิ้วมุ่น จากนั้นนางถึงตระหนักว่าบรรยากาศโดยรอบนั้นเงียบไป
นางชะงักไปเล็กน้อย แล้วหันมองคนรอบข้าง นางกะพริบตาอย่างสงสัย แต่พวกเขากลับมองมาที่นางด้วยใบหน้าตกใจ
คือว่า…พวกเขาโดนตัวเลข “สิบเอ็ด” ทำให้ตะลึงค้างไปแล้วหรือ?
ฉู่หลิวเยว่ครุ่นคิดอยู่ในใจ
อย่างใดก็ตามในขณะนั้น หลินเทียนเฟิงกลับพูดพึมพำออกเสียงว่า
“คุณหนู คุณหนูตู๋กู เจ้า ใบหน้าของเจ้า…”
หัวใจของฉู่หลิวเยว่กระตุกวูบ รีบลูบใบหน้าของตนเอง
เรียบเนียนละเอียดอ่อน
นั่นมัน…ใบหน้าที่แท้จริงของนาง!
ฉู่หลิวเยว่เบิกตากว้างขึ้นเล็กน้อย
จากนั้นก็มองไปทางหรงซิว แต่หรงซิวกับหัวเราะออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงอ่อนโยนว่า
“สวมหน้ากากตลอดแบบนั้นเจ้าไม่รู้สึกอึดอัดบ้างหรือ?”
ที่แท้หน้ากากของนางก็หลุดไปแล้วจริงๆ!
สิ่งที่ฉู่หลิวเยว่ไม่รู้ก็คือ ความจริงแล้วตอนที่เข็มนาฬิกาชี้ไปที่ตัวเลข “สิบ” หน้ากากบนใบหน้าของนางก็หายไปอย่างไร้เสียงแล้ว
แต่ในตอนนั้นนางทุ่มความสนใจทั้งหมดไปที่นาฬิกาไร้กาลเวลา ดังนั้นจึงไม่ทันได้สังเกตในจุดนี้
เมื่อนางสูญเสียหน้ากากในสถานการณ์เช่นนี้ ฉู่หลิวเยว่ก็รู้สึกกระดากอายขึ้นมาอย่างกะทันหัน
“อะแฮ่ม”
ฉู่หลิวเยว่กระแอมไอปกปิดความเก้อเขิน
“พอ…พอไหวละมั้ง”
ช่วงนี้นางไม่ได้เปิดเผยหน้าที่แท้จริง ทำให้ไม่ค่อยคุ้นชินเท่าไร…
หรงซิวยื่นมือออกมา ช่วยนางจัดผมที่ยุ่งเหยิง
ท่าทางของเขานั้นละเอียดอ่อนอย่างหาได้ยาก
เขามองนาง เหมือนนางเป็นของล้ำค่าที่สุดบนโลกใบนี้ ที่จะต้องทะนุถนอมอย่างดี
…
หลังจากที่เงียบไปครู่หนึ่ง ในที่สุดในฝูงชนก็มีเสียงกระซิบกระซาบดังขึ้นมา
“ที่แท้นี่คือใบหน้าที่แท้จริงของตู๋กูเยว่นี่เอง!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...