ผู้อาวุโสฮวาเฟิงรีบตอบไป
“นะ นั่นมัน…ข้ารีบไปหาที่ซ่อนก่อนดีกว่า ส่วนที่นี่ก็ให้เจ้าจัดการแล้วกัน!”
หลังจากพูดจบ เขาก็หันกลับไปแล้วกำลังจะวิ่งหนี
“เจ้าหยุดเดี๋ยวนี้!”
ผู้อาวุโสเหวินซีลากเขากลับมาแล้วกัดฟันกรอด
“ถ้าเจ้าไปแล้วข้าจะทำอย่างใดเล่า!?”
“แล้วใครบอกให้เจ้าเปลี่ยนกะวันนี้!”
ผู้อาวุโสฮวาเฟิงตอบกลับห้วนๆ แล้วเงยหน้ามองท้องฟ้า
“ดูสิ ตอนนี้ยังมีเวลาอีกครึ่งชั่วยามกว่าจะเปลี่ยนกะ! เป็นเจ้าที่ต้องอยู่ดูแลความเรียบร้อย! ไม่พูดแล้ว ข้าไปล่ะ!!”
สิ้นประโยค ผู้อาวุโสฮวาเฟิงก็รีบผละออกจากการจับกุมของผู้อาวุโสเหวินซี พลันหาทิศทางหลบหนี
ผู้อาวุโสเหวินซีขบฟันด้วยความโกรธ ก่อนจะขยับเท้าแล้วไล่ตามเขาไปทันที และตะโกนเสียงดังลั่น
“เจ้ามันไอ้แก่ขี้ขลาด! เจ้ากลัวนางทำอันใดหรือ!?”
“บัดซบ! ถ้าไม่กลัวแล้วเจ้าจะไล่ตามข้ามาเหตุใด!?”
ผู้อาวุโสฮวาเฟิงโต้กลับ
ผู้อาวุโสเหวินซีพูดไม่ออกไปชั่วขณะ พลางรู้สึกเจ็บแน่นหน้าอกไปหมด
ทันใดนั้น สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไป
“ไม่ใช่สิ เจ้าคนร้ายกาจนั่นหายหน้าหายตาไปตั้งหลายปี ไฉนจู่ๆ ถึงโผล่มาในเวลานี้กัน?”
ผู้อาวุโสฮวาเฟิงถึงกับผงะไปครู่หนึ่ง ก่อนจะเงยหน้าขึ้นแล้วมองไปรอบๆ
“เหมือนจะมีบางอย่างผิดปกติจริงๆ นั่นแหละ นี่ก็นานมากแล้ว แต่เหตุใดนางถึงยังหาไม่เจออีก?”
หากอิงตาม “กฎ” ที่บัญญัติไว้ในอดีต ตอนนี้นางควรจะปรากฏตัวได้แล้ว…
ทั้งสองคนมองหน้ากันและแลกเปลี่ยนความคิดกันผ่านทางสายตา
“หรือข้าจะคิดผิด? หรือว่าลมปราณนั่น…มิใช่ของนาง? ผู้อาวุโสเหวินซีกล่าวพลางขมวดคิ้ว
“เป็นไปไม่ได้!”
ผู้อาวุโสฮวาเฟิงปฏิเสธทันที
“ต้องเป็นนาง! จะต้องเป็นนางแน่นอน!”
ในโลกนี้มีแค่การมาเยือนของคนคนเดียวเท่านั้น ที่สามารถปลุกเขาให้ตื่นจากการหลับใหลได้!
อย่างใดก็ไม่ผิดแน่ หลังจากฝึกฝนมาหลายปี ความรู้สึกนี้มันกลายเป็นสัญชาตญาณของเขาไปแล้ว
ผู้ฝึกตนจำนวนมากที่ยังเข้าแถวรอการทดสอบ มองดูคนทั้งสองที่กำลังคุยกันจากระยะไกล ด้วยสีหน้าว่างเปล่าราวจับต้นชนปลายไม่ถูก
นี่มัน…เกิดอันใดขึ้น?
ผู้อาวุโสสองท่านนี้พูดว่าใครกำลังมานะ?
พวกเขาทั้งสองเป็นถึงผู้อาวุโสของสำนักหลิงเซียว ยังมีใครในฝางโจวที่ทำให้พวกเขามีปฏิกิริยาเช่นนี้อีกหรือ?
ทว่าเหล่าเด็กหนุ่มสาวมิกล้าเอ่ยถามอันใดไปมากกว่านี้ และเลือกที่จะรออย่างเงียบๆ
ครั้นถูกเด็กรุ่นเยาว์จ้องมองด้วยสายตาแปลกๆ ในที่สุดผู้อาวุโสเหวินซีก็ตระหนักถึงการวางตัวของพวกเขาในตอนนี้
“อะแฮ่ม!”
ผู้อาวุโสเหวินซีกระแอมเสียงดัง พลางขยิบตาให้ผู้อาวุโสฮวาเฟิงแล้วกระซิบเบาๆ
“เสียงดังหาพระแสงอันใด?! อยู่ต่อหน้าเยาวชนมากมาย ช่างขายหน้าจริงๆ!”
ผู้อาวุโสฮวาเฟิงหน้าบึ้งหน้าบูด
“เสียหน้าแล้วอย่างใด เสียชีวิตสิ น่ากลัวกว่าเยอะ!”
ผู้อาวุโสเหวินซี “…”
เขาถอนหายใจยาวพรืด และในที่สุดก็ดึงสติกลับมาได้
“ถ้านางกลับมาจริงๆ ก็ไม่มีประโยชน์ที่จะซ่อนตัว! พวกเรามีกันตั้งสองคน แล้วนางจักทำอันใดเราได้!?”
ผู้อาวุโสฮวาเฟิงมองเขาอย่างสงสัยระคนคับแค้นใจ
ผู้อาวุโสเหวินซีบีบสันจมูกตัวเองด้วยความหงุดหงิด
“หน้าไม่อายจริงๆ! ถึงเจ้าจะหนีไปเสียตอนนี้ แต่อีกครึ่งชั่วยามก็ต้องกลับมาเปลี่ยนผลัดกับข้ามิใช่หรือ?! ถึงซ่อนตัวไปก็ไม่มีประโยชน์ เจ้าคนร้ายนั่นคุ้นเคยกับฝางโจวมากกว่าพวกเราเสียอีก แล้วเจ้าจะหนีไปไหนได้!? เช่นนั้นก็รออยู่ที่นี่แหละ อันใดที่ทำได้ก็ทำไปก่อน!”
ผู้อาวุโสฮวาเฟิงหวั่นใจ แต่หลังจากถูกเกลี้ยมกล่อมอย่างเดือดดาล ในที่สุดเขาก็คล้อยตาม
“เช่นนั้น ถ้านางมาเจ้าก็ห้ามหนี!”
“รู้แล้วๆ!”
เพื่อความปลอดภัย ทั้งสองคนจึงหารือกันและร่วมมือกันเกาะกลุ่มไว้ ไม่ให้อีกคนอยู่กันตามลำพัง
พลางตัดสินใจไปนั่งอยู่หลังโต๊ะด้วยกัน
“แค่กๆ ต่อเลย!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...