ทุกอย่างยังคงเงียบสนิท
ลมยามค่ำคืนที่พัดผ่านภูเขา เล็มเลียไปตามชายผ้าของนาง
ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงไหล่เขามีรูปร่างผอมบาง แต่หลังกลับเหยียดตรง พร้อมเผชิญหน้ากับสัตว์อสูร!
ประเด็นสำคัญเลยก็คือ รัศมีของเขาไม่ได้น้อยลงไปเลยแม้แต่น้อย!
ผู้อาวุโสอวี๋อวี้และอีกสองคนที่ยืนอยู่กลางอากาศ เมื่อเห็นภาพเหตุการณ์เหล่านี้ ก็ชะงักไป นิ่งค้างไปในทันที
“นี่คือ…ฉู่เยว่ ลูกศิษย์ของข้าจริงๆ หรือ?”
ผู้อาวุโสวั่นเจิงรู้สึกว่าลำคอแห้งผาก ถามขึ้นมาอย่างตะกุกตะกัก
ทันทีที่เขาถามขึ้นมา เขาแทบอยากจะปิดปากลง
ถามอันใดไร้สาระแบบนี้เนี่ย!
ถ้านั่นไม่ใช่ฉู่เยว่ศิษย์รักของเจ้า แล้วจะเป็นใครได้อีก?
ใบหน้าเช่นนั้น!
รูปร่างอย่างนั้น!
บุคลิกลักษณะแบบนั้น! แล้วก็ยังมีกระบี่ชื่อเซียว!
นั่นเป็นลูกศิษย์ที่เขาคิดถึงอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันไม่ใช่หรือ!
“ระดับแปด…เขาทะลวงด่านจอมยุทธ์ระดับแปดได้แล้วจริงๆ!”
ผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยนบ่นพึมพำเสียงต่ำ ในแววตาเต็มไปด้วยความตกใจ
การทะลวงด่านจอมยุทธ์ระดับแปด นั่นไม่ได้ง่ายดายขนาดนั้น
มีผู้บำเพ็ญเพียรจำนวนมาก เพื่อที่ก้าวข้ามประตูบานนี้ จำเป็นจะต้องใช้เวลาเตรียมตัวนาน และแทบจะใช้ทุกวิถีทางเพื่อวันนี้
แต่ว่าคนที่สามารถทะลวงด่านได้อย่างราบรื่นนั้นนับว่ามีน้อยมาก
อีกทั้งประเด็นสำคัญเลยก็คือ คนที่มีพรสวรรค์มากเท่าไร ก็จะมีพลังแฝงมากเท่านั้น ตอนที่กำลังจะทะลวงด่าน มันก็ต้องเจอปัญหาและความลำบากมากกว่าคนอื่น
เพราะว่าหลังจากจอมยุทธ์ระดับเจ็ดเป็นต้นไปนั้น การเลื่อนขั้นแต่ละก้าว จะส่งผลต่อการพัฒนาฝีมือในภายภาคหน้าอย่างยิ่ง
ทุกก้าวเหมือนเดินอยู่บนแผ่นน้ำแข็งบางๆ ห้ามมีข้อผิดพลาดเลยแม้แต่น้อย
แน่นอนว่าฉู่เยว่มีพรสวรรค์โดดเด่นในด้านนี้
คาดไม่ถึงว่าเขาจะสามารถทะลวงด่านภายในสวนอสูรได้อย่างส่งๆ!
เขายังจำได้แม่นยำ เมื่อครู่นี้ตอนที่พวกเขารีบมากันนั้น ปรากฏการณ์เหนือธรรมชาติที่อยู่บนท้องฟ้ามันน่าตกใจอย่างมาก และยังมีการเคลื่อนไหวที่น่ากลัวจากภายในเขาอีก!
นั่นเป็นหลักฐานว่าฉู่เยว่มีพรสวรรค์ด้านจอมยุทธ์ แต่มันก็ทำให้ภายในใจของพวกเขานั้นมีความกังวลเพิ่มขึ้นอีกหลายระดับ!
ในใจของผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยนตัดสินเอาไว้แล้วว่าฉู่เยว่ไม่สามารถทะลวงด่านได้สำเร็จ
แต่เพิ่งผ่านมาเพียงครู่เดียว คาดไม่ถึงว่า…จะสำเร็จแล้ว!
อีกทั้งฉู่เยว่ยังฆ่าอสูรศักดิ์สิทธิ์ตายได้ด้วยกระบี่เล่มเดียว!
หากเปลี่ยนเป็นคนอื่น อย่าว่าแต่ในระดับแปดเลย ต่อให้เขาทะลวงด่านระดับเก้าได้ ก็ไม่สามารถทำแบบนี้ได้แน่นอน!
แต่ในทางกลับกัน ผู้อาวุโสอวี๋อวี้กลับเป็นคนที่มีสีหน้าเงียบสงบมากที่สุดในบรรดาผู้อาวุโสทั้งสามคน
…เขาเฝ้ารออยู่ที่นี่มาโดยตลอด แทบจะได้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมด ได้เตรียมตัวเตรียมใจมาเป็นเวลานานแล้ว แน่นอนว่าเขาสามารถรับได้มากกว่าสองคนนั้นอยู่แล้ว
เขาสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แล้วปลอบโยนว่า
“ปั๋วเหยี่ยน วั่นเจิง เจ้าสามารถวางใจได้นิดหน่อยแล้ว”
“หากเป็นช่วงเวลาปกติ ตอนนี้จะเป็นช่วงเวลาที่อันตรายที่สุด เมื่อครู่นี้พลังดั้งเดิมเดือดพล่านเป็นเพราะการทะลวงด่านสำเร็จของผู้บำเพ็ญเพียร จึงได้ดึงดูดสัตว์อสูรเหล่านั้น โดยทั่วไปมันจะต้องลงมือแล้ว แต่…เป็นเพราะว่าฉู่เยว่ชิงลงมือก่อน ฆ่าเสือดาวสุวรรณเมฆาตัวนั้น ทำให้พวกมันเกิดความกลัวในใจอยู่หลายส่วน หากหลังจากที่มันชั่งน้ำหนักในใจเสร็จแล้ว และพวกมันเลือกที่จะจากไป เรื่องเหล่านี้ก็ถือว่าได้รับการแก้ไขแล้ว!”
คำพูดของผู้อาวุโสอวี๋อวี้ทำให้ผู้อาวุโสปั๋วเหยี่ยน ผู้อาวุโสวั่นเจิงหัวใจสั่นสะท้าน
หากเป็นเช่นนั้นจริงๆ ก็เป็นเรื่องที่ดีมากเลย!
ทั้งสองฝ่ายต่อสู้ ต่างฝ่ายต่างได้รับบาดเจ็บ
ถ้าสัตว์อสูรเหล่านี้ฉลาดมากพอ และรู้ความมากพอ มันก็เลือกที่จะปล่อยมือ ทุกคนลดความยุ่งยากลงไปได้อย่างไม่ต้องสงสัย
“ตอนนี้เป็นช่วงเวลาสำคัญของทั้งสองฝ่าย หากสัตว์อสูรเหล่านี้เห็นว่าฉู่เยว่อ่อนแรงและขลาดกลัว มันจะต้องขึ้นมาโจมตีอย่างแน่นอน! จะสำเร็จหรือไม่ ก็ต้องขึ้นอยู่กับฉู่เยว่แล้ว!”
ผู้อาวุโสอวี๋อวี้พูดขึ้นมาท่ามกลางความเงียบ
…
การเผชิญหน้ากันอย่างเงียบๆ สัตว์อสูรเหล่านั้นก็ไม่ได้บุกขึ้นมา
แต่มันก็ไม่ได้ถอยลงไป เพียงแต่ใช้สายตาละโมบโลภมากมองมาเท่านั้น พร้อมจ้องฉู่หลิวเยว่ตาเขม็ง
แน่นอนว่าในสายตาของมันยังมีความหวาดกลัวอยู่หลายส่วน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...