“อันใดนะ?”
ฉู่หลิวเยว่เบิกตาโพล่งด้วยความตกใจ นางคิดว่าตัวเองหูฝาดไปแน่ๆ
“เจ้า? จะสู้กับข้าหรือ?”
ฉู่หลิวเยว่จรดปลายนิ้วใส่จมูกตัวเอง พลันถามย้ำราวไม่เชื่อกับหูตัวเอง
ตู๋กูโม่เป่าเริ่มหน้าหงิกหน้างอ
“เหตุใด เจ้าไม่เต็มใจหรือ?”
“ไม่ใช่แบบนั้น!”
ฉู่หลิวเยว่ปฏิเสธพัลวัน
นี่มันบ้าไปแล้ว!
สำหรับคนธรรมดาอย่างนาง แค่ได้พบกับผู้ที่แข็งแกร่งระดับนี้ก็ถือว่ายากมากแล้ว แต่การได้ประมือและได้รับคำแนะนำจากอีกฝ่ายอีก ยิ่งดูเป็นไปไม่ได้เข้าไปใหญ่
แต่ถึงจะคิดไม่ตกอย่างใด นางก็ไม่อาจพูดว่า “ไม่เต็มใจ” ได้
“… ข้าแค่แปลกใจนิดหน่อย…”
อย่างใดเสีย ถึงนางจะรู้จักกับตู๋กูโม่เป่ามานาน แต่นอกจากเล่นหมากรุกแล้ว นางก็ไม่เคยประมือกับเขาด้วยวิธีอื่นเลย
แม้ว่าเขาจะฝึกวิถีการเป็นจอมยุทธ์ให้นาง แต่เขาก็แค่โยนหุ่นเชิดออกมาสองสามตัว ทว่าไม่เคยลงมาสู้กันตัวต่อตัวเลยด้วยซ้ำ
ดังนั้นพอฉู่หลิวเยว่ได้ยินวาจาของเขา นางจึงตกอกตกใจอย่างมาก
“ถึงสมรรถภาพของเจ้าในตอนนี้ จะยังห่างไกลจากการเป็นผู้แข็งแกร่งระดับเทพ แต่ในเมื่อเจ้าทะลวงขึ้นสู่จอมยุทธ์ระดับแปดแล้ว เจ้าย่อมแข็งแกร่งไม่แตกสลายง่ายๆ ขณะต่อสู้แน่นอน”
ตู๋กูโม่เป่ากล่าวอย่างใจเย็นมากกว่าปกติ
ฉู่หลิวเยว่กระตุกยิ้มมุมปากเบาๆ
นี่มันเรื่องบ้าอันใดเนี่ย!?
ไม่แตกสลายง่ายๆ อย่างนั้นหรือ?
นี่เขาเคี่ยวเข็ญให้นางบุกทะลวงขึ้นสู่จอมยุทธ์ระดับแปด ก็เพื่อการนี้หรือ!?
ตู๋กูโม่เป่าเหลือบมองนางแวบหนึ่ง
ฉู่หลิวเยว่จึงตอบกลับอย่างขึงขัง
“เช่นนั้นโปรดชี้แนะข้าด้วย!”
…
สถานที่ต่อสู้ของคนทั้งสอง ยังคงเป็นภายในห้องสี่เหลี่ยมเล็กๆ นี่
ฉู่หลิวเยว่กวาดสายตามองข้าวของเครื่องใช้ราคาแพงรอบตัว พลางเอ่ยถามอย่างลังเล
“พี่เป่า เราจะไม่ออกไปสู้กันด้านนอกจริงๆ หรือ? ห้องนี้เล็กมาก ข้าว่าคงไม่เหมาะเท่าไรนะ? และถ้าเราทำของตกแต่งเหล่านี้พังล่ะก็ คงไม่ดีแน่ๆ…”
“นั่นไม่จำเป็น”
ตู๋กูโม่เป่ากล่าวเสียงเรียบ
ฉู่หลิวเยว่ถึงกับสำลัก
ช่างเป็นประโยคเหยียดหยามคู่ต่อสู้ที่เจ็บปวดที่สุดเท่าที่นางเคยได้ยินมาเลย
ปกติแล้วนางเป็นคนกล้าต่อปากต่อคำ แต่ทุกครั้งที่เจอตู๋กูโม่เป่า นางมักจะพ่ายแพ้ให้เขาเสียหมดรูปตลอด!
และนางก็คิดไม่ออกว่าจักตอบโต้เขาอย่างใด
แต่ใครจะยอมให้คนอื่นบดขยี้ตัวเองอยู่แบบนี้กัน!
นางสูดลมหายใจเข้าลึกๆ แววตาแปรเปลี่ยนเป็นจริงจังมากขึ้น พลันเคลื่อนเท้าไปข้างหลัง กล้ามเนื้อทั่วตัวเกร็งแน่น พลังปราณในจุดตันเถียนเริ่มไหลเวียนทันที!
ร่างกายเข้าสู่สภาวะสู้รบโดยสมบูรณ์ในพริบตา!
ดวงตาของตู๋กูโม่เป่าฉายแววพึงพอใจแวบหนึ่งพลันหายวับไป
“ดูเหมือนว่าเวลาหนึ่งเดือนที่อยู่ในสวนอสูรจะไม่สูญเปล่านะ”
ถึงก่อนหน้านี้ทักษะการต่อสู้ของฉู่หลิวเยว่จะไม่ได้อ่อนแอ แต่มันก็มีขีดจำกัดในตัว
ทว่าหลังจากทะลวงขึ้นสู่นักรบระดับแปด และการที่ร่างกายของนางต้องอยู่ในสภาวะพร้อมรบขั้นสูงสุด ยามต่อสู้กับสัตว์อสูรมากมายอย่างดุเดือดตลอดหนึ่งเดือนที่ผ่านมา ทำให้ทักษะเกือบทุกด้านของนางได้รับการขัดเกลาและปรับปรุงให้ดีขึ้นแบบก้าวกระโดด
และถึงระดับจะไม่เปลี่ยน แต่พลังในการสังเกตและความรุนแรงของพลังปราณ กลับแข็งแกร่งมากกว่าเมื่อก่อนเสียอีก
ซึ่งสิ่งเหล่านี้คือสิ่งสำคัญของจอมยุทธ์ในยามสู้รบ
ดังนั้นเมื่อนางเผชิญหน้ากับตู๋กูโม่เป่าในครานี้ นางสามารถระดมกำลังทั้งหมดของตนได้อย่างรวดเร็ว!
ฉู่หลิวเยว่งอเข่าลงเล็กน้อย แล้วจ้องมองตู๋กูโม่เป่าที่อยู่ตรงข้าม!
พรึบ!
ร่างของนางหายวับไปจากจุดที่เคยอยู่!
พลันปรากฏขึ้นตรงหน้าเขาในพริบตา!
แล้วปล่อยหมัดออกไป!
ตู๋กูโม่เป่ายกมือขึ้นสกัดหมัดที่พุ่งเข้ามาด้านหน้า!
เปรี้ยง!
ฉู่หลิวเยว่ปล่อยหมัดออกไปอย่างแรง ก่อนที่มันจะปะทะเข้ากับม่านพลังที่มองไม่เห็นทว่าทรงพลังจนน่าทึ่ง จนเกิดเสียงปะทะดังเปรี้ยง!
ณ วินาทีนั้น นางรู้สึกราวกับชกใส่แผ่นเหล็กกล้า!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...