เจียงจื่อหยวนยังไม่เข้าใจ
หลายปีก่อน พระราชวังเมฆาสวรรค์ประสบกับการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่ทำให้ทั้งยุทธภพสั่นคลอน
หรงซิวกลับมาพร้อมพลังอันยิ่งใหญ่ และบารมีอันสูงส่ง
แม้ว่าตอนนี้ท่านประมุขจะออกจากด่านฝึกแล้ว แต่ก็มิได้มีอำนาจบาตรใหญ่เหมือนเมื่อก่อน
ปัจจุบันหรงซิวคือผู้ทรงอิทธิพลสูงสุด และทรงพลังที่สุดในสถานที่แห่งนี้!
ซั่งกวนเยว่คือชายาที่เขาเลือกด้วยตัวเอง ถึงคนพวกนี้จะ…ไม่ไว้หน้าพระสงฆ์ ก็ต้องไว้หน้าพระพุทธเจ้า[1] บ้างมิใช่หรือ?
ไหนจะพรสวรรค์อันน่าทึ่งของซั่งกวนเยว่อีก
ตอนนี้นางสับสนงงงวยไปหมด จนไม่รู้จะแย้งพวกเขาอย่างใด
ไป๋หลีฉุนมองดูเหตุการณ์ตรงหน้า พลางคิดทบทวนซ้ำๆ
หลังจากตระหนักได้ เขาก็ยิ่งกัดฟันกรอดอย่างหงุดหงิดใจ
ก่อนจะเข้าด่าน ใช่ว่าเขาจะไม่เคยนึกถึงปัญหาเหล่านี้
แต่ตอนนั้นหรงซิวยังเด็กแลไร้เดียงสา เขาจึงไม่ได้เก็บเรื่องพรรค์นี้มาใส่ใจ ใครจะรู้ว่าไม่กี่ปีต่อมา ทุกอย่างจะกลับตาลปัตรเพียงนี้!
ชื่อเสียงแลเกียรติยศที่มลายหายไปนั้น คิดว่าจะกู้คืนมาได้ง่ายๆ อย่างนั้นหรือ?
หลังจากเงียบไปครู่หนึ่ง ไป๋หลีฉุนก็สูดหายใจเข้าลึกๆ และพูดว่า
“สุดท้ายแล้ว หยวนหยวนก็ยังเป็นคุณหนูลำดับหนึ่งของเผ่าเซียนสุ่ยหลิง หากประสบปัญหา พระราชวังเมฆาสวรรค์ของเราจักนิ่งเฉยได้อย่างใด? อย่างใดเสียนางก็อยู่ที่นี่แล้ว จะถกเถียงเรื่องเหล่านี้ให้ได้อันใดอีก?”
หลายคนสบตากันท่ามกลางความเงียบ พลางทำสีหน้าคลุมเคลือราวมีเลศนัย
เห่อ…เห่อ
ก็ยังปกป้องนางอยู่อีก!
ไม่รู้ว่าเจียงจื่อหยวนนั้นโชคดีหรือกระไร ไยท่านประมุขถึงได้โอบอุ้มประคบประหงมนางถึงเพียงนี้…
แต่ถ้าเจียงจื่อหยวนยังคงพูดกลับกลอกอยู่แบบนี้ แม้แต่พระราชวังเมฆาสวรรค์เองก็คงปกป้องนางไม่ได้!
ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกคร้านเกินกว่าจะคุยเรื่องของเจียงจื่อหยวนกับเขา
“ในเมื่อท่านประมุขยืนกรานเช่นนั้น ข้าก็จะจบเรื่องนี้ไว้เท่านี้ แล้วรอกระทั่งพระโอรสกลับมา ค่อยหารือกันใหม่”
ด้วยอุปนิสัยของหรงซิว เขาไม่ทางปล่อยเจียงจื่อหยวนไปง่ายๆ แน่นอน
ไป๋หลีฉุนกำลังจะอ้าปากแย้ง แต่ก็จำต้องกลืนคำพูดเหล่านั้นกลับลงคอไป
ผ่านไปครู่หนึ่ง โทสะในใจเขาค่อยๆ สงบ ก่อนจะลุกพรวดขึ้น
“ในเมื่อพระชายายุ่งมาก เช่นนั้นข้าจะไปพบนางเอง!”
ร่องรอยความตึงเครียดพลันผุดขึ้นมาในดวงตาของผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหก!
เขาเองก็หยัดกายขึ้นยืน พลางเดินไปขวางหน้าไป๋หลีฉุนอย่างใจเย็น ริมฝีปากยิ้มบางเบาราวไม่ยิ้ม และกล่าวว่า
“ท่านประมุข ข้าเกรงว่ามัน…จะไม่ค่อยเหมาะสมเท่าใด? ท่านเป็นผู้ใหญ่ นางเป็นผู้น้อย อย่างใดนางก็ควรเป็นผู้ไปพบท่าน ถึงจะเหมาะจะควร หากเรื่องนี้แพร่งพรายออกไป…คนเขาจะลือกันว่าชายาแห่งพระราชวังเมฆาสวรรค์ไร้มารยาทเอาได้นะขอรับ?”
และพอถึงตอนนั้น ก็จะมีเสียงซุบซิบนินทาดังเซ็งแซ่ขึ้นมาอีกระลอก!
อีกอย่าง…ต่อให้เข้าไปในตำหนักศักดิ์สิทธิ์ตอนนี้ ก็ไม่เห็นอันใดหรอก!
ไป๋หลีฉุนชะงักฝีเท้า พลางหันมามองเขาอย่างสงสัยระคนลังเล
ทันใดนั้นเขาก็นึกสงสัยว่าผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกเอาแต่ยื้อเขา ไม่อยากให้เขาไปที่ตำหนักศักดิ์สิทธิ์ และไม่อยากให้เขาไปพบกับพระชายาคนใหม่ผู้นั้น
หรือเรื่องนี้จะมีลับลมคมในบางอย่าง?
เจียงจื่อหยวนหยุดร้องไห้ พลางลุกขึ้นยืนแล้วปาดน้ำตา ก่อนจะเดินไปหาไป๋หลีฉุนด้วยนัยน์ตาแดงก่ำ
“…ท่านปู่ฉุนเจ้าคะ วันนี้ท่านเพิ่งออกด่านมา คงมีราชกิจรออยู่อีกมากมาย เช่นนั้นเรื่องนี้ก็เอาไว้ก่อนเถิดเจ้าค่ะ…”
นางหยุดพูดอยู่ครู่หนึ่ง
“ตั้งแต่ได้ตำแหน่งพระชายา นางก็อยู่แต่ในตำหนักศักดิ์สิทธิ์ ไม่เคยออกมาพบปะผู้คนเลยสักครั้ง ข้าว่านางอาจจะยุ่งอยู่กับการฝึกตนและทะลวงพลังปราณก็เป็นได้นะเจ้าคะ?”
ต่อให้ฝึกหนักแค่ไหน ก็ไม่ควรทำเช่นนี้!
แค่ออกมาพบปะผู้คนสักนิด ก็ยังทำไม่ได้หรือ!
ไป๋หลีฉุนโกรธเป็นฟืนเป็นไฟ พลันกระแทกเสียงอย่างเดือดดาล
“หยวนหยวน เรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเจ้า เจ้าไม่ต้องยุ่ง! ข้าล่ะอยากเห็นนัก ว่าชายาเอกคนนี้…จะเล่นตัวได้อีกนานแค่ไหนเชียว!”
เขากล่าวพลันสะบัดแขนเสื้อ แล้วเดินไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว!
ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกเหนื่อยจะรั้ง เขาผงะไปแวบหนึ่ง ก่อนจะเดินตามอีกฝ่ายไปในทันที
หลายคนที่อยู่ด้านหลังเขา ต่างลงความเห็นกันไปต่างๆ นาๆ และสาวเท้าตามคนทั้งสองไปอย่างเงียบเชียบ!
…
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...