เรื่องนี้เป็นเรื่องที่น่าแปลกประหลาดจริงๆ
ต้องบอกก่อนว่าท่านประมุขของเผ่าหงส์ทองคำผู้นี้ มีนิสัยเย็นชา แข็งกระด้าง และเย่อหยิ่งยโสเป็นอย่างมาก
ไม่ต้องพูดถึงเผ่ามนุษย์เลย แม้แต่เหล่าผู้อาวุโสและรุ่นเยาว์ทั้งหลาย เมื่ออยู่ต่อหน้าเขา เขาก็เห็นอีกฝ่ายเป็นแค่นก
กระทาเท่านั้น
ต่อให้เขาจะพูดคุยเจรจากับอีกฝ่าย
แต่ถ้าพูดให้น่าฟังเสียหน่อย เขาเป็นคนพูดคำไหนคำนั้น เย่อหยิ่งจองหองเป็นอย่างมาก
แต่ถ้าพูดให้ไม่น่าฟัง เขาเป็นคนที่หยิ่งยโส และรักศักดิ์ศรีของตนเองเป็นอย่างมาก
แต่ในตอนนี้คนอย่างเขากลับถูกถวนจื่อบีบบังคับให้พ่ายแพ้ แต่คาดไม่ถึงว่า… เขาจะไม่มีความโกรธเคืองเลย?
ไม่เพียงไม่รู้สึกโกรธ เหมือนกับกำลังคิดว่าจะต้องทำอย่างใดดีถึงจะทำให้ถวนจื่อมีความสุข?
ฉู่หลิวเยว่กวาดสายตามองไปทางอี้เจาอย่างไร้เสียง เมื่อเห็นว่าเขากำหมัดแน่นด้วยความประหม่า รอยยิ้มที่อยู่บนใบหน้าก็แข็งค้าง นางจึงเกือบจะหัวเราะออกมาแล้ว
“คือว่า…”
อี้เจาอึกอักอยู่นาน ก่อนจะพูดออกมาอย่างยากลำบาก เมื่อเขาพูดออกมาได้หนึ่งคำ ถวนจื่อก็พูดออกมาว่า
“ในเมื่อท่านประมุขไม่มีเรื่องอันใดแล้ว เช่นนั้นข้าขอตัวกลับก่อนนะเจ้าคะ?”
คำพูดที่เหลือของอี้เจาติดอยู่ที่กลางลำคอ
ทุกคนกลั้นลมหายใจ
… ถวนจื่อผู้นี้ กำเริบเสิบสานมากเกินไปแล้ว!
คนก่อนหน้านี้ที่กล้าทำตัวไร้มารยาทกับท่านประมุขเช่นนี้ ได้ตายไปอย่างไร้กระดูกตั้งนานแล้ว
และนาง… ต้องโดนลงโทษอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้แน่นอน!
อย่างใดก็ตามทุกคนกำลังรอดูว่าอี้เจาจะลงโทษถวนจื่ออย่างใด แต่ในตอนนั้นกลับได้ยินเสียงเขากะแอมไอ แล้วพูดขึ้นอย่างลังเลว่า
“เช่นนั้น… เจ้าก็ไปเถอะ …”
“ขอบคุณท่านประมุขมาก!”
ถวนจื่อกล่าวขอบคุณหนึ่งคำ ก่อนจะรีบหมุนตัววิ่งกลับไปยืนอยู่ข้างกายฉู่หลิวเยว่
ทุกคนนิ่งค้างไป
จะปล่อย… ปล่อยไปเช่นนี้น่ะหรือ?
คาดไม่ถึงว่าท่านประมุขจะไม่คิดจะลงโทษนางเลยแม้แต่น้อย?
ส่วนอี้เจานั้นกำลังคิดเรื่องอื่นอยู่
เมื่อครู่นี้ตอนที่เขาเผชิญหน้ากับถวนจื่อ ใบหน้ากลมเล็กเย็นชาเป็นอย่างมาก
แต่ทันทีที่นางหมุนตัวกลับไป มุมปากก็คลี่ยิ้มเป็นรอยยิ้มกว้าง
ไม่ต้องคิดก็รู้ว่า รอยยิ้มนี้มีไว้ให้กับซั่งกวนเยว่
เขามองเงาร่างกระโดดโลดเต้น ภายในใจของอี้เจากลับมีความขมฝาด
ตามหลักการแล้วเมื่อถวนจื่อกลายร่างเป็นมนุษย์ อีกทั้งยังสามารถเปิดเส้นชีพจรที่สี่ได้ ความรู้สึกที่มีต่อเผ่าพันธุ์ก็ควรจะลึกซึ้งมากยิ่งขึ้น
แต่ว่า…
เมื่อเห็นสายตาของนางเมื่อครู่นี้แล้ว เห็นได้ชัดว่าถวนจื่อยังคงคิดถึงเรื่องเมื่อก่อนหน้านี้
ในตอนนี้เขารู้สึกเสียใจขึ้นมาแล้ว… เหมือนว่าท่าทางและการกระทำของเขาที่มีต่อซั่งกวนเยว่และถวนจื่อในตอนแรกนั้นเหมือนว่าจะแข็งกระด้างมากเกินไป…
หากทั้งสองฝ่ายพูดคุยกันด้วยดีตั้งแต่แรก ถวนจื่อคงจะไม่ต่อต้านพวกเขาอย่างนี้
เขาเพิ่งเข้าใจก็ตอนนี้เอง แต่ว่ามันก็สายเกินไปแล้ว
…
“อาเยว่!”
ฉู่หลิวเยว่จับมือเล็กและนุ่มนิ่มนั้น แต่สายตาก็ยังคงมองไปทางอี้เจา นางพูดออกมาพร้อมกับรอยยิ้มว่า
“ท่านประมุขอี้เจา การพนันของข้านั้น… นับว่าข้าชนะแล้วใช่หรือไม่?”
อี้เจาดึงสติกลับมา ก่อนจะมองนางด้วยสายตาสับสน
ต่อให้เขาไม่อยากจะยอมรับ แต่เขาก็รู้ว่านี่เป็นความจริง
แม่นางคนนี้สามารถช่วยให้ถวนจื่อกลายร่างเป็นมนุษย์ภายในเวลาหนึ่งเดือนได้จริงๆ
อีกทั้งนางยังสามารถช่วยให้ถวนจื่อเปิดเส้นชีพจรที่สี่ได้
ทุกคนได้เห็นทุกเหตุการณ์เหล่านั้นกับตนเองแล้ว
นางสามารถทำเช่นนี้ได้ ไม่ว่าอย่างใดก็ต้องยอมรับ
เมื่อเห็นว่าถวนจื่อพึ่งพาแอบอิงอยู่ข้างกายนาง อี้เจาก็ถอนหายใจออกมายาวๆ อย่างอดไม่ได้
“เจ้าชนะแล้ว ข้า… ข้ายอมรับความพ่ายแพ้ เจ้าไม่จำเป็นจะต้องยกเลิกพันธะสัญญากับถวนจื่อ หลังจากนี้หากมันต้องการจะติดตามเจ้า เช่นนั้นก็… ตามใจเถอะ”
อี้เจาพูดออกมาอย่างเชื่องช้า น้ำเสียงของเขาทุ้มลึกกว่าปกติเล็กน้อย
อีกทั้งคำพูดนี้ ยังดังก้องในโสตปราสาทของทุกคนราวกับเสียงฟ้าผ่า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...