ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ นิยาย บท 363

“แน่นอนว่าไม่ หากเจ้ามีหลักฐานว่าเจ้าไม่ได้ทำ ก็จะไม่มีใครทำอันใดเจ้าได้!” หรงจิ้นกล่าว

ริมฝีปากของฉู่หลิวเยว่กระตุกเล็กน้อย

“เช่นนั้น ก็หมายความว่าหากผู้อื่นใส่ร้ายข้า โยนความสกปรกมาให้ข้า ข้าก็ต้องหาวิธีพิสูจน์ความบริสุทธิ์ ข้าถึงจะล้างมลทินได้อย่างนั้นหรือ? แต่เรื่องนี้ข้าไม่ได้ทำ ข้าไม่รู้ว่าจะต้องพิสูจน์ตนเองอย่างไร?”

หรงจิ้นรู้สึกงุนงง

ทว่าในความเป็นจริง หากมิใช่เพราะเป็นห่วงท่านแม่และอนาคตของตน เขาก็มิได้อยากบีบบังคับฉู่หลิวเยว่ถึงเพียงนี้

อย่างไรก็ตามเรื่องการหายตัวไปของหรงเจินก็ต้องถูกเปิดเผย เช่นนั้นท่านพ่อก็ต้องรู้เรื่องของซือเมิ้ง

เขารู้จักท่านพ่อดี สิ่งหลังน่าจะร้ายแรงกว่าสิ่งหน้า

ยามนี้ เขาทำได้เพียงแค่ตามหาหรงเจินให้เจอ ถึงจะสามารถกู้สถานการณ์ได้บ้าง

“นั่นไม่ใช่คำพูดของเจ้าฝ่ายเดียวหรือ? ข้าเชื่อทั้งหมดไม่ได้ หากเจ้าไม่ได้ใจฝ่อ ก็กลับเมืองหลวงไปกับข้าเดี๋ยวนี้! ชี้แจงเป็นการส่วนตัวต่อหน้าท่านพ่อและท่านแม่!”

พูดจบ เขาก็ยื่นมือไปดึงฉู่หลิวเยว่ไว้

ทว่าเพียงฉู่หลิวเยว่ขยับฝีเท้าเล็กน้อย ก็สามารถหลบการเคลื่อนไหวของเขาอย่างง่ายดาย

หรงจิ้นนิ่ง

แม้ว่าสถานะของฉู่หลิวเยว่จะสู้เขาไม่ได้ แต่ความสามารถในตอนนี้กลับแข็งแกร่งกว่าเขาอย่างชัดเจน

นั่นทำให้ในใจของเขารู้สึกอึดอัดมากขึ้น และรู้สึกหายใจไม่ออกอย่างไม่สามารถอธิบายได้

ตั้งแต่ยามที่มากับซือถูซิงเฉิน ก็ไม่ได้มีความรู้สึกแบบนี้

เมื่อนึกถึงตรงนี้ก็อดไม่ได้ที่จะหงุดหงิดขึ้นมา

“ทำไมหรือ เจ้ากลัวแล้วหรือ?”

ก่อนที่ฉู่หลิวเยว่จะเอ่ยปาก เฉิงหันก็พูดขึ้นมาอย่างเยือกเย็น

“อย่างไรก็ตาม เจ้าจะไปจากหอสมุดอยู่แล้ว กลับไปพร้อมกับหรงจิ้นก็พอเหมาะกันพอดีไม่ใช่หรือ”

หรงจิ้นชะงักไป

ระยะเวลาที่ฉู่หลิวเยว่อยู่ที่นี่สั้นขนาดนี้เชียวหรือ?

แต่หากเป็นเช่นนั้น ก็ดีเหมือนกัน

สายตาหลายคู่จ้องไปที่ฉู่หลิวเยว่ และพวกเขาทั้งหมดต้องการให้นางตอบรับข้อเสนอนี้

แววตาของฉู่หลิวเยว่แฝงไปด้วยความเย็นชาเล็กน้อย

นางไม่ชอบเวลาที่ผู้อื่นบีบบังคับให้ทำบางอย่าง โดยเฉพาะจากคนที่นางรังเกียจผู้นี้

“หากข้าไม่ยอมล่ะ?”

พูดจบ บรรยากาศรอบตัวก็เยือกเย็นขึ้นทันที!

หอสมุดจักรพรรดิ ณ แคว้นเย่าเฉิน

หรงฉียืนอยู่ด้านนอก ด้วยใบหน้าที่ดูกังวล

“ขันทีหมิน โปรดไปรายงานอีกครั้ง! ข้ามีเรื่องสำคัญจะคุยกับท่านพ่อจริงๆ!”

ขันทีหมินสีหน้าไม่ค่อยสู้ดี

“องค์ชายผิงหวัน มิใช่พวกข้าไม่ช่วยท่าน เพียงแต่… ข้าไม่สามารถช่วยท่านได้จริงๆ! ยามนี้ฝ่าบาททรงกริ้วมาก ท่านไม่เพียงแต่ช่วยจักรพรรดินีไม่ได้ ซ้ำยังจะทำให้เรื่องยุ่งยากมากขึ้น! ท่านฟังพวกข้าก่อนเถิด กลับไปก่อน! รอให้ฝ่าบาทใจเย็นลง แล้วท่านค่อยมาก็ยังไม่สาย!”

หรงฉีขมวดคิ้วแน่น

“ขันทีหมิน ทำไมท่านไม่เชื่อข้า? ว่าที่ข้ามาครั้งนี้ ไม่ใช่เรื่องของท่านแม่! แต่เป็นเรื่องด่วนที่ข้าต้องบอกท่านพ่อ! หากช้ากว่านี้ จะคาดการณ์สิ่งที่จะตามมาไม่ได้!

ทว่าขันทีหมินยังไม่เพียงไม่ยอมตกลง และยังคงพยายามโน้มน้าว

บัดนี้จักรพรรดินีถูกคุมขัง องค์หญิงสี่ก็หายตัวไป องค์ชายสี่ก็อยู่ไกลถึงแคว้นซิงหลัว จึงเหลือเพียงองค์ชายห้าหรงฉีผู้นี้!

ในสถานการณ์เช่นนี้ หากเขาไม่ได้มาเพราะเรื่องจักรพรรดินีแล้ว จะมาด้วยเรื่องอันใด?

เมื่อเห็นว่าขันทีหมินไม่ยอมช่วยเหลือ สุดท้ายหรงฉีก็รู้สึกร้อนรน

หรงฉีรีบแก้ตัว

“ท่านพ่อ จริงๆ แล้วลูกยังไม่มั่นใจ เพียงแต่… ท่านอย่าเพิ่งโมโห! แต่ว่า ลูกไม่แน่ใจว่าใครลักพาตัวหรงเจิน แต่หากหาผู้นั้นเจอ ก็จะเจอหรงเจินเอง”

เขาเอ่ยทั้งประโยคแบบติดขัด หน้าผากเต็มไปด้วยหยาดเหงื่อ

ยังดี ยังดีที่ได้เอ่ยทั้งหมดที่ท่านแม่สั่งไว้แล้ว

จักรพรรดิจยาเหวินโน้มตัวไปด้านหน้า แล้วถามเน้นทีละคำ

“มันคือผู้ใด”

หรงฉีเม้มริมฝีปาก ก่อนจะพูดอย่างไม่ลังเล

“ฉู่หลิวเยว่!”

ฉู่หนิงเพิ่งสะสางเรื่องในมือเสร็จ เขาหลับตาลง พร้อมลูบคิ้วของตน อาการเหนื่อยล้าถูกแสดงออกมาทางใบหน้า แต่มุมปากของเขาอดไม่ได้ที่จะยกขึ้น

เมื่อลองนับเวลา ดูเหมือนว่าวันนี้เป็นวันที่เยว่เอ๋อจะกลับมา

วันนี้เขาต้องรีบกลับไปเสียหน่อย

“ใต้เท้าฉู่หนิง! ใต้เท้าฉู่หนิง! แย่แล้ว!”

คนรับใช้วิ่งเข้ามาด้วยสีหน้าตื่นตระหนก

ฉู่หนิงลืมตาขึ้น แล้วขมวดคิ้ว

“เกิดอันใดขึ้น?”

“ฝ่าบาทสั่งให้ค้นตำหนักของท่าน! ตอนนี้ทหารกำลังมากันที่นี่!”

ฉู่หนิงรีบลุกขึ้นพร้อมหันมา!

“เจ้าว่าอันใดนะ!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์