ฉู่หลิวเยว่ไม่รู้อยู่แล้วว่าตอนนั้นในใจของซิวกำลังคิดอันใดอยู่
ลมหายใจร้อนของเขาพ่นไปที่คอและหลังใบหูของนาง ทำให้นางรู้สึกจักจี้เล็กน้อย
ลมอ่อนพัดมา ทำให้ป่าไผ่โอนเอน
ฉู่หลิวเยว่รู้สึกกระจ่างขึ้นมาก
ไม่น่าแปลกใจเลยที่หรงซิวกำลังมองหาการกระจายกองกำลังในเมืองหลวงทั้งหมด ที่จริงแล้วเขาได้เตรียมพร้อมเอาไว้แล้ว!
ส่วนหรงซิวก็อยู่ในเมืองหลวงมาหลายเดือนแล้ว แม้แต่ในเมืองก็ยังไม่เคยออกไป
แต่จู่ๆ ก็ตัดสินใจเป็นกบฏ และเห็นได้ชัดว่ามีคนคอยสนับสนุนด้วย!
และคนคนนั้นก็คือหรงซิว!
“ฝ่าบาท เจ้า…เริ่มวางแผนเรื่องนี้มานานเท่าใดแล้ว?” ฉู่หลิวเยว่อดที่จะถามไม่ได้
แล้วเสียงทุ้มต่ำของหรงซิวกระซิบมาที่หู
“…เหอะ…นานแล้วล่ะ…พี่สามไปกองทัพภาคตะวันตกเฉียงเหนือตั้งแต่เมื่อใดแล้วล่ะ?”
น้ำเสียงของเขาดูสบายและสงบ ราวกับว่ามันไม่มีอันใดมากไปกว่าการเป็นเรื่องเล็กน้อย
ฉู่หลิวเยว่ตกตะลึง นางผลักเขาอย่างกะทันหัน ก่อนจะเอียงศีรษะไปข้างหลัง และตาที่ดำเหมือนหยกก็จ้องไปที่หรงซิวด้วยความเหลือเชื่ออย่างใดอย่างนั้น
“ความหมายของฝ่าบาทก็คือ…แต่ตอนนั้นเขาเป็นคนเชิญไปเองไม่ใช่รึ…”
คำพูดของฉู่หลิวเยว่หยุดชะงักไปอย่างกะทันหัน
จู่ๆ ในหัวของเขาก็มีความคิดที่ไร้สาระอย่างหนึ่งปรากฏขึ้น
หรงซิวมองดูท่าทางแปลกใจของนางที่ปกติแล้วไม่ค่อยจะแปลกใจนัก ก่อนจะรอยยิ้มผุดขึ้นที่หางตาของเขา
มันไม่ง่ายเลยที่จะเห็นนางเป็นเช่นนี้…
เมื่อเห็นการแสดงออกของเขา ฉู่หลิวเยว่ก็อ้าปาก แต่กลับไม่ได้พูดอันใดสักคำ
ยังต้องพูดอันใดอีก!?
นี่ก็คือการแสดงออกอย่างชัดเจนว่ายอมรับแล้ว!
ในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ทุกย่างก้าวของหรงจิ่วอยู่ภายใต้การควบคุมของหรงซิวทั้งหมด!
ไม่ว่าจะเป็นตอนที่ถูกจักรพรรดินีและองค์รัชทายาทรังแก ทั้งเรื่องที่ตั้งใจจะเข้าร่วมกองทัพหรือต่อมาที่เขาประสบความสำเร็จอย่างมากในการต่อสู้ จนกระทั่งตอนนี้ก็ยังไม่สามารถถอนตัวและถูกบังคับให้เป็นโจรไปแล้ว…
เห็นได้ชัดว่าทุกอย่างล้วนอยู่ในการวางแผนของหรงซิวทั้งนั้น!
แต่…นี่คือการเลี้ยงลูกเสือลูกจระเข้!
ตอนนี้คนที่หรงจิ่วต้องต่อต้านก็คือจักรพรรดิจยาเหวิน แต่สุดท้ายแล้วก็ต้องกลายเป็นหรงซิวอยู่ดี!
ในใจของฉู่หลิวเยว่มีคลื่นยักษ์ใหญ่เกิดขึ้น แต่ท้ายที่สุดแล้วก็อดที่จะเอ่ยปากถามไม่ได้
“ข่าวที่ว่าองค์ชายสามจะทำการกบฏนั้น…พี่เป็นคนบอกกับฝ่าบาทรึ?”
หรงซิวเลิกคิ้ว
“เจ้าประเมินตัวเสด็จพ่อต่ำไปแล้ว ในเมื่อพี่ชายสามทำเช่นนี้ พ่อจะไม่รู้ได้อย่างใด และตัวข้านั้นก็ไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้มากนัก”
คนที่จะเชื่อเจ้าก็คงมีแค่ผีเท่านั้นแหละ!
ฉู่หลิวเยว่เหน็บแนมในใจ
บางทีการที่หรงจิ่วกำลังวางแผนที่จะเริ่มกองทัพ ก็มีสาเหตุมาจากการที่มีหรงซิวคอยผลักดันเช่นกัน!
“องค์ชายสามไม่รู้เรื่องนี้หรอกรึ?”
หรงซิวขมวดคิ้ว
“เยว่เอ๋อคิดว่าอย่างใดเล่า?”
ฉู่หลิวเยว่ซี๊ดปาก ก่อนจะตบไปที่หน้าผากของตัวเองเบาๆ
สมองของนางก็ตันไปแล้วเช่นกัน
ถ้าหรงจิ่วรู้ แล้วสถานการณ์จะเป็นเช่นนี้ได้อย่างใด?
“ชนชั้นสูงห้าพันคนของกองทัพภาคตะวันตกเฉียงเหนือกำลังจะมาถึงเมืองหลวงของจักรพรรดิแล้ว” หรงซิ่วลูบเอวที่เรียวและอ่อนนุ่มของนางเบาๆ แล้วพูดอย่างใจเย็น “การต่อสู้จะเริ่มเมื่อไหร่…ขึ้นอยู่กับพ่อและพี่ชายสามแล้วล่ะ”
ตามนิสัยของหรงจิ่วแล้ว ก็คงจะรออยู่อีกไม่นานแล้ว ยิ่งไปกว่านั้นอีกไม่กี่วันนี้เสด็จพ่อก็คงจะออกโรงจำกัดหรงจิ่วแล้วก็เป็นได้
ฉู่หลิวเยว่เอามือลง ก่อนจะมองเขาตาแป๋ว
“แล้วทุกอย่างก็อยู่ภายใต้ความคิดขององค์ชายทั้งหมดหรอกรึ?”
จนกระทั่งวันนี้ ทุกอย่างก็อยู่ในการควบคุมของหรงซิวหมดแล้ว!
หรงซิวยิ้มพลางเอ่ยปาก
“ถ้าฟังไม่ผิด เยว่เอ๋อกำลังชมข้าอยู่รึ?”
ฉู่หลิวเยว่เงียบไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...