ฉู่หลิวเยว่ขมวดคิ้ว
ดูแล้วเจี่ยนเฟิงฉือที่อยู่เมืองหลวงในช่วงนี้จะไม่ได้อยู่เฉยๆ เพราะแม้แต่เรื่องนี้เขาก็ยังรู้ด้วยเช่นกัน
แต่ความสามารถของเขานั้นแกร่งกล้ามาก ถ้าอยากจะตรวจสอบอันใดสักอย่าง ก็เกรงว่าจะไม่มีใครมาห้ามเขาเอาไว้ได้
ดังนั้น หลังจากที่ชั่งน้ำหนักในใจของนางอย่างรวดเร็วแล้ว ฉู่หลิวเยว่ก็ตัดสินใจพยักหน้าอย่างซื่อสัตย์
“ข่าวที่นายน้อยเจี่ยนทราบนั้นมักจะถูกต้องอยู่เสมอ”
เจี่ยนเฟิงฉือขมวดคิ้ว ก่อนจะยิ้มพลางเอ่ยปากด้วยความไม่เข้าใจ
“จะว่าไปก็บังเอิญอยู่เหมือนกัน เพราะข้าก็รู้เรื่องนี้มาโดยสม่ำเสมอ และรู้ในวันที่ของสิ่งนั้นถูกขโมยไป
สีหน้าของฉู่หลิวเยว่นิ่งไปทันที!
“นายน้อยเจี่ยนรู้ด้วยหรือว่าโกศทองสัมฤทธิ์ถูกขโมยไป?”
มีแสงริบหรี่ดวงหนึ่งอยู่ในดวงตาที่เยือกเย็นของเจี่ยนเฟิงฉือ
“ก่อนหน้านี้ก็ได้บอกไปแล้ว ว่าบังเอิญไปเห็นเท่านั้น…แต่เป็นเพราะคนคนนั้นปิดหน้าเอาไว้ ข้าเลยไม่รู้ว่าเป็นใคร”
นั่นก็แสดงว่าเขาเห็นจริงๆ!
อีกอย่าง…ยังเห็นคนเดียวด้วย!
ความสามารถในการสังหารทหารยามทั้งภายในและภายนอกตรอกชีเจี่ยวในระยะเวลาอันสั้นได้ โดยไม่ปล่อยให้พวกเขามีเวลาและโอกาสได้ขอความช่วยเหลือ ก็เพียงพอที่จะทำให้เห็นได้ว่าบุคคลนั้นจะต้องเป็นคนที่แข็งแกร่งมากคนหนึ่ง!
เป็นที่รู้กันว่าที่นั่นยังมีนักต่อสู้ที่มีระดับไม่ต่ำกว่าระดับสี่ด้วย!
และคนที่มีพลังต่อสู้ระดับห้าคงไม่สามารถทำเรื่องขนาดนี้ได้แน่นอน!
ฉู่หลิวเยว่มองไปรอบๆด้วยความหวาดระแวง ก่อนจะเอ่ยปากเสียงเบา
“ไม่รู้ว่านายน้อยเจี่ยนพอจะอธิบายได้หรือไม่ว่าคนคนนั้นมีลักษณะเป็นอย่างใด?”
“ข้ามั่นใจเพียงแค่ว่าคนคนนั้นเป็นผู้ชาย อีกอย่างยังเป็นคนที่มีพลังต่อสู้ระดับหกด้วย ส่วนอย่างอื่นนั้น…ข้าไม่รู้แน่ชัด”
“แล้วท่านเห็นคนคนนั้นถือโกศทองสัมฤทธิ์ไปทางไหน?”
“เรื่องนี้…”
เจี่ยนเฟิงฉือชะงักไปสักพัก ก่อนจะยักไหล่
“ตอนนั้นข้ามัวแต่ตกใจเรื่องที่ว่าที่นี่มีคนที่มีพลังระดับหกด้วย จึงมองไปอีกครั้ง ใครจะทันไปสนใจโกศทองสัมฤทธิ์เล่า?”
เพราะตอนนั้นเขายังไม่รู้ว่าของสิ่งนั้นจะสำคัญถึงเพียงนี้
เมื่อเขามองเบาะแสบางอย่างออก อีกฝ่ายก็หายไปแล้ว
ฉู่หลิวเยว่มองความจริงจากคำพูดของเขาออก จึงทำได้เพียงถอนหายใจ
“ไม่ว่าอย่างใด ข้าต้องขอขอบพระทัยท่านมาก”
จะว่าไปแล้วเรื่องนี้ก็ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องอันใดกับเจี่ยนเฟิงฉือ เขาคงจะไม่ได้สนใจอันใดมาก
“แต่…ถ้าเจ้าอยากจะรู้จริงๆ…ก็ใช่ว่าข้าจะช่วยเจ้าไม่ได้”
ฉู่หลิวเยว่นิ่งไป
“ท่านไม่ได้บอกว่า ตอนนั้นท่านเห็นไม่ชัดไม่ใช่หรือ…”
เจี่ยนเฟิงฉือยิ้มอย่างได้ใจ
“ดูแล้วแม่นางฉู่คงจะจำไม่ได้ว่าข้ามีหน้าที่ทำอันใด?”
หมอ…หมอ!
“ท่านได้ทิ้งอันใดบางอย่างไว้บนตัวของคนคนนั้นหรือ?”
เจี่ยนเฟิงฉือเขกหัวของนางไปหนึ่งที
“ฉลาดมาก!”
ฉู่หลิวเยว่เงียบไป
ถ้าเป็นเมื่อก่อน เจี่ยนเฟิงฉือจะกล้าบังอาจต่อหน้านางได้อย่างใด!
แต่ตอนนี้ก็ไม่ใช่เวลาที่จะมาคิดเรื่องแบบนี้
“เหตุใดหรือ? ให้ข้าช่วยหาให้เจ้าหรือไม่? เพราะถึงอย่างใดแล้วเจ้าก็มีเวลาอีกสามวัน ข้าก็ว่างอยู่พอดี”
เห็นสีหน้าของเจี่ยนเฟิงฉือแล้ว ฉู่หลิวเยว่ก็หรี่ตา
คนคนนี้ยังก่อเรื่องให้โลกวุ่นวายเหมือนเมื่อก่อนไม่มีผิด!
แบบนี้มันเป็นการช่วยนางที่ไหนกัน เห็นได้ชัดว่าคิดอยากจะเล่นคึกคะนองและนึกสนุกเท่านั้น!
มุมปากของฉู่หลิวเยว่ค่อยๆ ยกขึ้นพร้อมกับรอยยิ้มที่จริงใจ
“แน่นอนอยู่แล้ว! เรื่องนี้ข้าคงต้องรบกวนนายน้อยเจี่ยนแล้ว! เมื่อสิ้นสุดเรื่องนี้แล้ว หลิวเยว่จะตอบแทนท่านให้ดีสักครั้งอย่างแน่นอน!”
เจี่ยนเฟิงฉือตัวสั่นอย่างบอกไม่ถูก
ฉู่ ฉู่หลิวเยว่คนนี้ เวลายิ้มแล้วช่างคล้ายคนคนนั้นเหลือเกิน!
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...