อวี๋มั่วและเยี่ยนชิงทั้งคู่ล้วนกลั้นหายใจ สักเสียงหนึ่งก็มิกล้าเปล่งออกมา
หากทำได้ พวกเขาอยากจะหายตัวออกจากที่นี่เสียตอนนี้เลย!
บนโลกนี้ ผู้ที่กล้าทำตัวไร้มารยาทเช่นนี้ต่อองค์ชายนั้นมีอยู่ไม่มาก คนผู้นี้ก็เช่นกัน
แต่ว่าก่อนหน้านี้คนผู้นี้ก็ไม่เคยเอ่ยวาจาเช่นนี้มาก่อน เห็นได้ชัดเลยว่าครั้งนี้พวกเขาคงไปทำให้หมาป่าโกรธเข้าแล้ว
หรงซิวกระแอมไอ
“ผู้อาวุโสล้อเล่นแล้ว”
“องค์ชายทราบก็ดีแล้ว!”
สุ้มเสียงนี้แม้ฟังดูกระโชกโฮกฮากไปบ้าง แต่เยี่ยนชิงและอวี๋มั่วผ่อนลมหายใจเบาๆ ออกมาพร้อมกัน
ถ้าเป็นแบบนี้ ดีร้ายอย่างใดก็คิดเสียว่าทำสำเร็จได้เพราะโชคช่วยก็แล้วกัน
“ได้ยินว่าที่ครั้งนี้องค์ชายเสด็จประทับอยู่ที่นั่นนานขนาดนี้ ก็เพื่อสตรีนางหนึ่ง?”
หรงซิวหัวคิ้วกระตุก อวี๋มั่วปรายตามองเยี่ยนชิงแวบหนึ่งด้วยความสงสัย
ปากเยี่ยนชิงเปิดแล้วเปิดอีก
“หาใช่เยี่ยนชิงไม่” ผู้อาวุโสท่านนั้นหัวเราะเสียงเย็นเยียบ “เป็นเพียงการคาดเดาของข้าเท่านั้น แต่ดูเหมือนว่าคราวนี้จะเดาถูกเสียแล้วกระมัง?”
หรงซิวชะงักไปครู่หนึ่ง ก่อนจะผงกศีรษะเบาๆ
“มิผิด”
เขายอมรับด้วยท่าทีเยือกเย็นเช่นนี้ ทำให้ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกออกจะตั้งตัวไม่ทันอยู่บ้าง
“…แต่ไหนแต่ไรองค์ชายไม่เคยคิดมีปฏิสัมพันธ์กับสตรี ไฉนครานี้จึงข้ามเส้นออกมา และคิดเปิดหูเปิดตาเช่นนี้เล่า?”
อารมณ์โทสะก่อนหน้านี้สลายไปไม่เหลือ แทนที่ด้วยคำหยอกล้อเจือความสงสัยอยู่หลายส่วน
“ไม่รู้ว่าสตรีเช่นใดกันที่ทำให้องค์ชายเป็นเช่นนี้ได้? ดูท่า…พวกตาแก่นั่นก็ยังไม่รู้เรื่องกันล่ะสิ?”
หรงซิวตอบอย่างตรงไปตรงมา
“ใช่แล้ว ข้ายังไม่กลับไป ป่าวประกาศตอนนี้ย่อมไม่เหมาะสม รอข้ากลับไปก่อน แล้วข้าจะเอ่ยปากพูดเรื่องนี้ด้วยตัวเอง”
คำพูดนี้ทำให้ชายชราภายในม่านแสงเงียบไปได้ครู่หนึ่ง
“…องค์ชายจะประทานยศให้นางเช่นนั้นหรือ?”
หรงซิวหัวเราะ “ภรรยาของข้า ย่อมต้องมียศมีตำแหน่ง”
“อันใดนะ?!”
ชายชราตกใจจนเสียงหาย แม้แต่ร่างเงาอันเลือนรางที่บัดนี้กลับสั่นระริก
“องค์ชายคิดที่จะ… แต่ว่านางไม่สมควรที่ข้ามพรมแดนม่านฟ้าเข้ามาได้! สตรีที่มีภูมิหลังเช่นนี้ พวกตาแก่นั่นจะไปเห็นด้วยได้อย่างใด!?”
หรงซิวคลี่ยิ้มบางเบา
“ท่านเองก็ไม่เห็นด้วยเช่นนั้นหรือ?”
“ข้าน่ะ…อย่าเอาข้ากับเจ้าพวกนั้นมาเปรียบเทียบกัน!”
ชายชราเอ่ยด้วยน้ำเสียงเกรี้ยวกราด
“องค์ชายกำลังดูถูกข้าอยู่เช่นนั้นหรือ!?”
“ในเมื่อองค์ชายเป็นผู้เลือกสตรีนางนั้นด้วยตัวเอง ข้าย่อมวางใจ ผู้ที่ทำให้องค์ชายทุ่มเทแรงกายแรงใจถึงเพียงนี้ แน่นอนว่าต้องเป็นนางในดวงใจของท่าน ข้าจักกล้าคัดค้านได้อย่างใด? ไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดครั้งนี้องค์ชายเสด็จกลับล่าช้านัก… เพียงแต่ว่า ในเมื่อท่านเตรียมการทุกอย่างไว้เสร็จสรรพ เหตุใดจึงยังยืดเวลาออกไปอีกเล่า?”
ในตอนท้าย น้ำเสียงของชายชราฟังดูเพิกเฉยอย่างเห็นได้ชัด
หรงซิวรู้สึกร้องไห้ไม่ได้ หัวเราะไม่ออกอยู่บ้าง
“ท่านวางใจเถอะ ตัวข้ารู้ว่าควรจะทำอย่างใดต่อไป อีกไม่กี่วันข้าก็จะกลับ หากฟากโน่นเกิดเรื่องอันใดขึ้น คงต้องวานให้ท่านดูแลสักระยะหนึ่ง”
ชายชราเม้มริมฝีปากแน่น
“ปกติข้าไม่ได้มีความอดทนนักหรอก! ครั้งนี้เห็นแก่เรื่องสำคัญในชีวิตขององค์ชาย เช่นนั้นก็ย่อมได้! รอองค์ชายกลับมา ข้าขอยลโฉมสตรีผู้นั้นเป็นคนแรก!”
ประกายลึกล้ำสายหนึ่งทอดผ่านนัยน์ตาของหรงซิว
“เรื่องนี้ เกรงว่าผู้อาวุโสคงต้องรออีกสักหน่อย ครั้งนี้นางไม่ได้กลับไปกับข้า”
“อันใดนะ!? ไม่กลับมากับท่านหรือ!?”
ชายชราตะลึงงัน
ตัวเขาคิดไปถึงเรื่องส่งมอบของขวัญแรกพบเรียบร้อยแล้ว เหตุใดจึงพูดว่าไม่มากันเล่า!?
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...