ในตอนนั้นเองพีระมิดสีดำที่อยู่ในร่างกายของฉู่หลิวเยว่ก็มีระลอกคลื่นแผ่กระจายออกมาอย่างรุนแรง!
ทันใดนั้นปราณกระบี่สีดำเหล่านั้นก็หยุดตรงหน้าฉู่หลิวเยว่ทันที!
คลื่นความร้อนก็พวยพุ่งออกมาอย่างบ้าคลั่ง ราวกับว่ามันได้เจอกับสิ่งที่น่ากลัวอย่างมาก ควรหนีให้ห่างโดยเร็ว!
แต่ว่าภายในชั่วพริบตาเดียว ทุกอย่างก็สลายหายไปจนหมด!
เมื่อมองดูใกล้ๆ แล้ว ปราณกระบี่สีดำมากมายนับไม่ถ้วนที่กำลังจะพุ่งมาแทงทะลุที่ตัวของนาง ฉู่หลิวเยว่เองก็ตกใจมากเช่นกัน
แต่นางไม่สามารถเอาพรมแดนไวฑูรยะที่อยู่ในมือออกมาใช้ได้ทัน
แต่เมื่อดูตอนนี้…เหมือนว่ามันไม่จำเป็นแล้ว?
ในตอนนั้นเอง
ด้านบนของกระบี่หลงหยวน ก็มีประจุสายฟ้าสีเงินปรากฏออกมาจากปลายด้ามจับ!
ที่แท้นั่นคือแรงกดดันที่ลึกที่สุดของกระบี่หลงหยวน ราวกับว่ามันได้ผ่านการหลอมเหลวด้วยอันใดบางอย่าง จึงทำให้ดูสว่างไสวและแหลมคมมากกว่าเดิมหลายเท่าตัว
ก่อนหน้านี้บนด้ามของกระบี่หลงหยวนเองก็เคยมีประจุสายฟ้าปรากฏออกมาด้วยเช่นกัน แต่ว่าฉู่หลิวเยว่กลับรู้สึกว่าครั้งนี้มันมีอันใดแตกต่างออกไป
หลังจากที่สายฟ้าสีเงินสายนั้นไหลลงมาในหลุมยุบผ่านตัวกระบี่แล้ว สายฟ้าสายที่สองก็ตามลงมาอย่างต่อเนื่อง
อีกทั้งในครั้งนี้ก็มีพลังรุนแรงกว่าครั้งก่อนมาก
ชั่วพริบตาเดียว สายฟ้าก็เสียงฟ้าผ่าดังสนั่นหวั่นไหว!
ฉู่หลิวเยว่จ้องไปที่กระบี่หลงหยวนตาเขม็ง ทันใดนั้นความคุ้นเคยก็ค่อยๆ ปรากฏขึ้นมาทีละนิดๆ
ความรู้สึกแบบนี้…ที่มาจากกระบี่หลงหยวนเหมือนกับพีระมิดสีดำในร่างกายของนาง!
…
เปรี้ยง!
เสียงฟ้าผ่าดังลั่นมาจากที่ไกลๆ
หนิงเจียวเจียวและคนอื่นๆ หันไปมองทันที จากนั้นก็เห็นว่าด้านบนของกระบี่หลงหยวนมีแสงสีเงินปรากฏขึ้น
“นั่นมัน…กระบี่หลงหยวนจะตื่นรู้แล้วหรือ?”
ทันใดนั้นชายร่างผอมสูงก็พูดขึ้นด้วยน้ำเสียงตกใจ!
พอสิ้นเสียงของเขา คนอื่นๆ ก็เบิกตากว้างขึ้น ใบหน้าเต็มไปด้วยความตกใจ
หนิงเจียวเจียวจึงอดถามขึ้นมาไม่ได้ว่า
“ที่เจ้า..พูดหมายความว่าอย่างใด?”
นางไม่ใช้ผู้ฝึกตนสายกระบี่ ดังนั้นจึงไม่เข้าใจความหมายของเรื่องพวกนี้เสียเท่าไร
เพราะความตื่นเต้น ชายรูปร่างสูงผอมจึงมีใบหน้าแดงก่ำ
เขาอธิบายด้วยเสียงสั่นๆ ว่า
“เดิมทีกระบี่หลงหยวนก็เป็นอาวุธศักดิ์สิทธิ์ ในตัวของมันก็มีจิตวิญญาณอยู่แล้ว! หากเจ้านายของมันตาย มันเข้าสู่การจำศีลและหลับสนิท อาวุธศักดิ์สิทธิ์ส่วนใหญ่ก็จะหลับสนิทเช่นนี้ไปตลอดกาล แต่…ถ้ามันเลือกที่จะตื่นขึ้นมา…นั่นก็หมายความว่า…”
หนิงเจียวเจียวถามต่อ “หมายความว่าอันใด?”
“หมายความว่า…มันเลือกเจ้านายคนใหม่แล้ว!”
ชายร่างผอมสูงพูดเรื่องนี้ออกมาด้วยความตื่นเต้น เลือดในกายของเขาก็เดือดพล่าน
ชายมีเคราที่อยู่ด้านข้างก็มีปฏิกิริยาแบบเดียวกัน
เมื่อเทียบกันแล้ว หยางเซิ่นเอ๋อร์จะดูสงบนิ่งกว่ามาก แต่เมื่อหันไปมองทางกระบี่หลงหยวน สายตาของนางก็ยังแฝงไปด้วยความปรารถนาอันแรงกล้า
สำนักกระบี่เมฆาม่วงมีความเชี่ยวชาญเรื่องเพลงดาบมาโดยตลอด เมื่อเห็นกระบี่หลงหยวนตื่นรู้ขึ้นด้วยตาของตนเอง พวกเขาจะไม่ตื่นเต้นได้อย่างใด!
แต่ที่สำคัญไปมากกว่านั้น คือเจ้านายคนใหม่ของกระบี่หลงหยวนนั้น บางทีอาจจะเป็นพวกเขา!
ตอนนั้นเองหนิงเจียวเจียวถึงได้เข้าใจ
นางครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง ทันใดนั้นก็พูดขึ้นมาว่า
“จริงสิ! ฉู่หลิวเยว่ไปทางกระบี่หลงหยวนเล่มนั้นไม่ใช่หรือ?”
คำพูดนี้ได้เตือนสติพวกเขาหลายๆ คน ทำให้พวกเขาได้สติจากความตื่นเต้นที่บ้าคลั่งเหล่านั้น และสีหน้าของพวกเขาก็เปลี่ยนไปทันที
“นี่…เก๋งที่ใกล้น้ำย่อมได้จันทร์ก่อน[1]” หนิงเจียวเจียวพูดขึ้นมาด้วยความลังเล แววตาของนางเปล่งประกาย
“อาวุธศักดิ์สิทธิ์อย่างกระบี่หลงหยวน ใครจะเอามันมาได้ ต้องดูที่โชคชะตาของคนคนนั้น ไม่ใช่อยู่ที่ว่าใครใกล้กว่าใคร”
ชายมีเคราพูดขึ้นเช่นนั้น แต่ในใจของเขาก็รู้สึกสับสนเล็กน้อย
ใครจะไปรู้ว่าเหตุใดจู่ๆ กระบี่หลงหยวนถึงตื่นขึ้นมาได้ล่ะ?
ไม่ว่าจะเป็นอย่างใด ฉู่หลิวเยว่อยู่ใกล้ๆ ก็ย่อมสะดวกกว่าพวกเรามาก!
เพราะตอนนี้พวกเขาไม่รู้ว่าสถานการณ์ที่อยู่ทางด้านนั่นเป็นอย่างใดบ้าง!
หนิงเจียวเจียวกวาดสายตามองพวกเขาทั้งสามคน ในใจหัวเราะเยาะเย้ย แต่ใบหน้ากลับแสดงถึงความจริงใจอย่างมาก
“ข้าคิดว่า กระบี่หลงหยวนที่หลับใหลมาหลายพันปี แต่ตอนนี้กลับตื่นรู้ขึ้นมา เขาจะต้องคัดเลือกอัจฉริยะที่เก่งกาจเหนือคน ขึ้นมาเป็นเจ้านายคนใหม่แน่นอน ไม่ต้องพูดถึงเรื่องอื่น อย่างน้อยเรื่องวิชากระบี่ น่าจะต้องเป็นคนที่มีฝีมือไม่เลว เรื่องนี้สำนักเสวียนเฟิ่งของพวกเรานั้นสู้ไม่ได้จริงๆ แต่พวกเจ้าล้วนเป็นศิษย์ของสำนักกระบี่เมฆาม่วง พวกเจ้าต้องคุ้นเคยกับกระบี่มากที่สุด ใช่หรือไม่?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...