เวลาค่อยผ่านไปอย่างช้าๆ
ภายในท้องพระโรง เงียบสงัด
ฉู่หลิวเยว่กำลังรวบรวมสมาธิและจ้องมองค่ายกลนั่นตาเขม็ง
พลังทั้งสองสายกำลังต่อสู้กันอย่างสุดชีวิต นางเริ่มจดจำการโคจรของพลังแห่งสวรรค์บนค่ายกลนั้นอย่างเงียบๆ แล้ว
แต่แรงกดดันของค่ายกลระดับเก้านั้นแข็งแกร่งอย่างมาก ดังนั้นกระบวนการนี้จึงกินพลังของนางอย่างมาก
ไม่เพียงแต่จะกินพลังจิตวิญญาณของนางแล้ว ความเร็วของนางก็ลดลงเรื่อยๆ ด้วย
ดังนั้นฉู่หลิวเยว่จึงมองไป พร้อมเพิ่มพลังอย่างต่อเนื่องไปด้วย
โชคดีที่ภายในไข่มุกธาราได้เก็บกักพลังมากมายเอาไว้อยู่ ดังนั้นในตอนนี้นางจึงสามารถถ่ายทอดพลังออกมาได้อย่างต่อเนื่อง ก่อนจะกระจายไปทั่วร่างกายของนาง
ตอนแรกเริ่มนางก็รู้สึกเจ็บปวดเล็กน้อย แต่หลังจากผ่านมาสักพักหนึ่งแล้ว ฉู่หลิวเยว่ก็ค่อยๆ คุ้นเคยกับมัน
อีกทั้งทั่วร่างกายและกระดูกของนางได้รับการขัดเขลามาหลายครั้ง ทำให้นางแข็งแกร่งขึ้นอย่างรวดเร็ว!
แม้กระทั่งตัวนางเองก็ยังสัมผัสได้ ว่าพลังที่อยู่รอบๆ ตัวของนางนั้นแข็งแกร่งขึ้นอย่างต่อเนื่อง
อินทรีสามตามองไปที่ฉู่หลิวเยว่ ในแววตายังมีประกายความคลุมเครืออยู่
วิธีการฝึกตนเช่นนี้ มีเงื่อนไขสำหรับผู้บำเพ็ญสูงมาก เดิมทีคนธรรมดาไม่มีทางทนได้อย่างแน่นอน
แต่ฉู่หลิวเยว่ไม่เพียงทนได้เท่านั้น แต่เริ่มผ่อนคลายมากขึ้นเรื่อยๆ ด้วย
ฝีมือของนางแข็งแกร่งขึ้นกว่าเดิมมาก!
มันเหลือบสายตากลับมามองหม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์ที่ลอยอยู่กลางอากาศอย่างเงียบๆ
ในที่สุดตอนนี้มันก็เข้าใจแล้ว ว่าเหตุใดหม้อน้ำเทวศักดิ์สิทธิ์ถึงได้เลือกนาง…
ฉู่หลิวเยว่รวบรวมสมาธิทั้งหมดวางไว้ที่ค่ายกล หลงลืมเวลาไปจนหมดสิ้น
อีกทั้งในสมองของนาง มีเพียงโครงสร้างรูปแบบของค่ายกลอย่างคร่าวๆ
…
ทางด้านฉู่หลิวเยว่ที่หลงลืมตัวเองไปหมดแล้ว แต่คนที่อยู่ด้านนอกหลุมยุบ ก็ยังคงดิ้นรนอย่างยากลำบาก
เมื่อเวลาผ่านไป เสียงเรียกของกระบี่หลงหยวนก็เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ ปราณกระบี่และแรงกดดันก็แข็งแกร่งมากขึ้น!
พวกเขาออกจากจุดเดิมมาหลายสิบลี้แล้ว
อีกทั้งโดนคัดออกไปอีกสองคน!
เดิมทีพวกเขามีสิบคน ตอนนี้เหลือเพียงครึ่งหนึ่งเท่านั้น
แต่กระบี่หลงหยวนก็ยังไม่มีทีท่าว่าจะเลือกเจ้านายคนใหม่เสียที
รอบที่ห้า รอบที่หก ก็ยังไม่มีใครถูกเลือก ตอนนี้เหลือเพียงสองรอบสุดท้ายเท่านั้น
หลายคนแสดงสีหน้าไม่แยแส แต่ความจริงแล้วพวกเขาก็แอบกังวลอยู่ในใจ
“ที่นี่ไม่มีกลางวันกลางคืน ไม่รู้ว่าเวลาด้านนอกผ่านไปนานขนาดไหนแล้ว…”
หยางเซิ่นเอ๋อร์พูดพึมพำ
ส่วนคนอื่นๆ ก็ไม่ได้พูดอันใด
เชียงหว่านโจวได้ยินดังนั้น เหมือนว่านึกอันใดขึ้นมาได้ สีหน้าของเขาก็เปลี่ยนไปเล็กน้อย
เขาหลับตาลง จากนั้นก็สำรวจภายในร่างกายของตนเอง
หลังจากนั้นไม่นาน เขาก็ลืมตาขึ้นมา ภายในแววตาที่งดงาม มีประกายความประหลาดใจอยู่
เม็ดโอสถที่เขาเพิ่งกินไปก่อนหน้านี้ เหมือนว่าจะหมดฤทธิ์ไปแล้ว…
ไม่รู้ว่าเป็นเพียงสภาพภายในมิติและนอกมิติแตกต่างกัน หรือเป็นเพราะมันถึงเวลาที่จะต้องกินยาเม็ดต่อไปแล้ว
เขาหันไปมองที่หลุมยุบ
จากตรงนี้ เขาเห็นเพียงกระบี่หลงหยวนขนาดใหญ่เล่มนั้น และเปลวเพลิงสีทองที่พัดโหมกระหน่ำอย่างบ้าคลั่ง
เขายังไม่เห็นร่างของฉู่หลิวเยว่เช่นเดิม
เขาครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง จากนั้นก็หยิบโอสถเม็ดที่สองออกมาจากขวดหยก
…
จัตุรัสเสวียนจี
เวลาผ่านไปสองวันแล้ว รายชื่ออยู่บนกระดานเหลือเพียงเก้าคนเท่านั้น
ทุกคนคาดการณ์เอาไว้ว่า หากดูตามความเร็วขนาดนี้ อีกไม่กี่วัน การประลองครั้งนี้ก็จะจบลงแล้ว
แต่ที่น่าประหลาดใจก็คือ วันที่สาม ไม่มีคนโดนคัดออกเลยแม้แต่คนเดียว
ผู้ชมที่คอยดูอยู่ก็เริ่มกระสับกระส่าย
ทุกคนเริ่มพูดขึ้นกันอย่างเสียงดังขึ้น
“นี่ก็วันที่สามเข้าไปแล้ว คนที่เหลืออีกเก้าคน เหตุใดยังไม่ออกมาเสียที? คงไม่เกิดเรื่องอันใดขึ้นหรอกนะ?”
“นั่นมันอาณาจักรเทพเทียนลิ่งเชียว จะเกิดอันใดขึ้นได้ ไม่เห็นคนที่ถูกคัดออกมานั่นหรือ? พวกเขาล้วนแต่มีชีวิตรอดกันทั้งนั้น พวกเราไม่ต้องกังวลใจ ความสนุกทั้งหมดยังไม่จบ!”
“จะว่าไปแล้วก็จริง เรื่องที่สำนักใดจะแพ้จะชนะ ก็ไม่ใช่เรื่องที่เกี่ยวกับเราเสียหน่อย แต่ว่าเมื่อพูดไปแล้ว อาจจะมีสมบัติมากมายซ่อนอยู่อาณาจักรเทพเทียนลิ่งนี้ก็ได้ แต่ดูจากพวกที่โดนคัดออกมาก่อนหน้านั้น ก็สภาพร่อแร่เต็มทน ไม่เห็นมีส่วนเกี่ยวข้องกับสมบัติเลย พวกเจ้าว่า หรือในอาณาจักรเทพที่อันตรายนี้ ไม่มีสมบัติอันใดอยู่เลย?”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...