พลังปราณดั้งเดิมในกายของฉู่หลิวเยว่ปะทะกับพลังจากทัณฑ์สวรรค์อย่างรุนแรง จนโมเลกุลในร่างแทบฉีกออกจากกัน
ความร้อนระอุนั่นเผาไหมเนื้อหนังและกระดูกทั่วทุกตารางนิ้วในร่างกายของนางครั้งแล้วครั้งเล่า
ทว่านอกจากความเจ็บปวดที่ยากจะลืมเลือนแล้ว ความอดทนของร่างกายนางก็ค่อยๆ เพิ่มขึ้นเช่นกัน
นางยืนหยัดตัวตรงอยู่ที่นั่นเสมือนไรความเจ็บปวด และน้อมรับทัณฑ์สวรรค์ที่ฟาดผ่าลงมา
อสนีบาตสายที่สามพุ่งลงมาตรงๆ
ตามมาด้วยสายที่สี่
และสายที่ห้า
…
กระทั่งสายที่เก้า
บนกระบี่เทพเมฆาสำริด มีกลุ่มแสงแวบวาวปรากฏขึ้น ราวกับทางช้างเผือกที่พาดผ่านท้องฟ้ายามราตรี
สุกสกาวและแพรวพราวจับตา
เปลวไฟสีน้ำเงินบริสุทธิ์เผาไหม้อย่างเงียบๆ และเกือบจะรวมเข้ากับตัวกระบี่
เปลวไฟที่ดูร้อนแรงและแสงดาวที่ดูเยือกเย็น
ครั้งสองสิ่งประสานกันเข้าด้วยกัน ก็ก่อให้เกิดการควบแน่นที่น่าอัศจรรย์
ลวดลายที่คล้ายกับสายฟ้าพลันปรากฏบนด้ามกระบี่
“สาวน้อย ลวดลายอักขระนี่ บรรจุพลังแห่งทัณฑ์สวรรค์ทั้งเก้าสายไว้!”
องค์ไม่จู่เอ่ยด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นที่ปิดไม่มิด
แม้ก่อนหน้านี้เขาจะมั่นใจในตัวฉู่หลิวเยว่แล้วก็ตาม แต่เมื่อได้เห็นฉากนี้จริงๆ เขาก็ยังรู้สึกอดประหลาดใจขึ้นมาไม่ได้
เขามองคนไม่ผิดจริงๆ
ฉู่หลิวเยว่ผู้นี้ช่างมีความเพียรและความอดทนเหนือจินตนาการยิ่งนัก!
ด้วยนิสัยอันเด็ดเดี่ยว ประกอบกับความสามารถอันน่าทึ่งของนาง และไพ่ตายลึกลับนั่น…
ในอนาคต นางจักต้องกลายเป็นผู้ยิ่งใหญ่และไร้ขีดจำกัดเป็นแน่
ฉู่หลิวเยว่ได้ยินคำพูดนั้น พลันมุมปากของนาง ก็ค่อยๆ เผยรอยยิ้มพึงพอใจออกมา
พร้อมความเจ็บปวดทรมานก่อนหน้านี้ ที่หายเป็นปลิดทิ้ง
ตราบใดที่นาง…
ครืน!
ทันใดนั้นก็มีเสียงบางอย่างดังก้องอยู่ในหู
ฉู่หลิวเยว่เงยหน้าขึ้นมองด้วยความตกใจ ก่อนจะเห็นว่าเมฆดำบนท้องฟ้านั้นไม่ได้สลายไปเลยแม้แต่น้อย และในความผันผวนสีดำ ก็มีอสนีบาตสายหนึ่งก่อตัวขึ้นอีกครั้ง
“นะ…นั่นมันอะไรกัน?”
รูม่านตาของฉู่หลิวเยว่ขยายใหญ่ขึ้น
องค์ไท่จู่กระแอมไอทันควัน
“อ่อ นั่นน่ะหรือ? ก็ทัณฑ์สวรรค์สายที่สิบอย่างใดเล่า”
ฉู่หลิวเยว่ “ก่อนหน้านี้ท่านพูดว่าแค่เก้าสาย…”
“อะแฮ่ม สาวน้อย ก่อนหน้านี้ข้าพูดว่าอย่างน้อยเก้าสายต่างหาก…”
ฉู่หลิวเยว่ผงะไปครู่หนึ่งและคิดอย่างรอบคอบอีกครั้ง
เช่นนั้นก็หมายความว่า…ยังมี
เมื่อครู่นางมัวตื่นเต้นที่รอดชีวิตจากทัณฑ์สวรรค์ทั้งเก้าสายมาได้ จนลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิท และพอมองไปยังทัณฑ์สวรรค์สีเงินเจิดจ้า ที่หนากว่าเมื่อครู่อย่างเห็นได้ชัด ฉู่หลิวเยว่ก็ถึงกับคอแห้งผาก
“องค์ไท่จู่ อย่าบอกนะว่า…นี่ข้าต้องทนรับทัณฑ์สวรรค์อีกเก้าครั้งหรือ?”
องค์ไท่จู่ไพล่มือไว้ข้างหลังและเงยหน้ามองขึ้นไปบนท้องฟ้า พยายามไม่ให้ฉู่หลิวเยว่มองเห็นสีหน้าไม่สู้ดีของตน
“เอ่อ…ก็คงเป็นเช่นนั้นกระมั้ง”
ฉู่หลิวเยว่ขมวดคิ้วมุ่น
ไม่รู้ว่าคิดไปเองหรือไม่ แต่ฉู่หลิวเยว่สัมผัสได้ว่าองค์ไท่จู่ดูผิดปกติ แต่ก็พูดไม่ได้เต็มปากเขาแปลกไปอย่างใด
ทว่าครุ่นคิดได้ไม่นาน ทัณฑ์สวรรค์สายที่สิบก็ผ่าลงมาอย่างเร็ว
ขาเรียวสองข้างเตรียมพร้อม พลางงอเข่าเล็กน้อย แล้วกระชับกระบี่เทพเมฆาสำริดในมือแน่น
เพียงพริบตา แสงระยิบระยับก็บดบังทัศนวิสัยของนางในทันที
พลังที่รุนแรงกว่าทัณฑ์สวรรค์ทั้งเก้าครั้งก่อนหน้านี้ แผ่กระจายไปตามกระบี่เทพเมฆาสำริด และไหลเข้าสู่ร่างกายของนางอย่างรวดเร็ว
โลหิตที่ไหลเวียนทั่วร่างของฉู่หลิวเยว่ทะลักออกมาราวเขื่อนแตก
หยาดเลือดสีแดงสดสาดกระจายไปทั่วบริเวณ
ณ วินาทีนั้น นางแทบจะกลายเป็นก้อนเลือดเดินได้
ซึ่งครั้งนี้ ในที่สุดนางก็ไม่สามารถกลั้นความเจ็บปวดไว้ได้ และหลุดเสียงครางอู้อี้ในลำคอออกมาเบาๆ
องค์ไท่จู่ที่ได้ยินเสียงนั้น ก็รีบหันกลับไปมองด้วยความวิตกกังวล
เมื่อเขาเห็นว่าร่างของฉู่หลิวเยว่เต็มไปด้วยเลือดและรอยฟกช้ำ สีหน้าของเขาก็แข็งทื่อทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...