หิมะตกหนัก มีผู้คนอยู่บนท้องถนนน้อยมาก
นางเดินตามคนกลุ่มนั้นไปเรื่อยๆ
สุดท้ายก็พบว่าพวกเขามาที่จวนตระกูลเจียงจริงๆ
เพียงแต่ว่าพวกเขาเข้าทางด้านหลัง
ฉู่หลิวเยว่มองพวกเขาจากที่ไกลๆ
ซุนฉียืนอยู่ที่หน้าประตู ราวกับกำลังรอพวกเขาอยู่
หลังจากคนเหล่านั้นมาถึงแล้ว เขาก็ทำความเคารพซุนฉีทีละคนตามลำดับ
นอกจากคนเหล่านั้นที่ฉู่หลิวเยว่พบระหว่างทาง ยังมีคนอื่นๆ ที่ตามมาสมทบด้วย
ฉู่หลิวเยว่ขมวดคิ้วขึ้นเล็กน้อย
เจียงอวี่เฉิงเรียกให้คนที่ติดตามเขาไปชายแดนใต้มารวมตัวกันที่นี่ใช่หรือไม่?
ดูจากคำพูดของคนเหล่านั้น พวกเขาคงได้รับความลำบากจากที่ชายแดนใต้ไม่น้อยเลยทีเดียว อีกทั้งในระยะเวลาหนึ่งปีที่ผ่านมานี้ เจียงอวี่เฉิงก็ไม่ได้สนใจพวกเขาอีกเลย
แต่วันนี้กลับเรียกพวกเขามาอย่างกะทันหัน
ความคิดของฉู่หลิวเยว่เปลี่ยนไปทันที
จริงสิ!
วันนี้อวี้ฉือซงลงเขามาตั้งแต่เช้า เขาบอกว่าเขาจะมาที่จวนตระกูลเจียงนี่นา
หรือว่า…เป็นเพราะเรื่องนี้?
“ไม่รู้จริงๆ ว่าคุณชายใหญ่เรียกพวกเรามาตอนนี้ด้วยเหตุใด…”
ทันใดนั้นเองก็มีเสียงเกียจคร้านดังขึ้นมาจากมุมถนน
ฉู่หลิวเยว่หันหน้ากลับไปมอง จากนั้นก็เห็นว่ามีคนสองคนกำลังเดินเข้าไปในจวนตระกูลเจียง
คนที่กำลังพูดอยู่นั้นเป็นชายฉกรรจ์ท่าทางสกปรก หูซ้ายของเขาเหมือนถูกอันใดบางอย่างตัดออกไป แม้กระทั่งหนังศีรษะยังถูกลอกออกไปด้วย เหลือเพียงรอยแผลเป็นสีแดงเข้มขนาดเท่าชามข้าว ดูน่ากลัวอย่างมาก
ด้านหลังของเขามีชายรูปร่างผอมเดินตามมา ชุดที่เขาสวมอยู่เป็นชุดสีดำทั้งเก่าและขาด ใบหน้ามีหน้ากากเหล็กประดับอยู่ครึ่งหน้า
ถึงอย่างใดก็ตาม นางก็ยังสามารถมองเห็นรอยแผลเป็นที่เล็ดลอดออกมาจากใต้หน้ากากนั้นได้ ดูแล้วเหมือนกับโดนไฟเผามา
ราวกับว่าเขาถูกทำลายใบหน้าให้เสียโฉมไปแล้ว ถึงจะต้องสวมหน้ากากเช่นนี้เอาไว้
เขาก้มหน้ามองพื้นมาตลอดทาง ท่าทางดูเหม่อลอยไม่มีสติ
ทันใดนั้นชายฉกรรจ์ที่อยู่ด้านหน้าก็หันกลับมามองเขา ก่อนจะหัวเราะเยาะตัวเองว่า
“ลำคอของเจ้าโดนพิษจนเป็นใบ้ไปหมดแล้ว ข้าถามเจ้าไปมันก็คงเปล่าประโยชน์! ไม่ว่าอย่างใดพวกเราก็พิการ…ไม่มีค่าพอให้ใช้งาน! ชีวิตนี้อยู่ได้เพราะความเมตตาจากคนอื่นแล้ว!”
หัวใจของฉู่หลิวเยว่กระตุกไปทันที จากนั้นก็รีบหลบซ่อนตัวด้วยความรวดเร็ว
“ดูนั่นสิ ซุนฉียืนอยู่ตรงนั้น! คนอื่นๆ ก็มาด้วยเหมือนกัน…มันจะต้องไม่เป็นเรื่องดีอย่างแน่นอน…”
พรึ่บ! เงาร่างสีแดงผ่านไปอย่างรวดเร็ว ก่อนจะทิ้งรอยข่วนไว้บนมือของเขา! เลือดยังไหลซิบออกมา!
“อันใดกันเนี่ย?!”
ชายฉกรรจ์คนนั้นยกมือขึ้นมาดู จากนั้นก็เห็นว่าเงาร่างสีแดงนั้นกำลังวิ่งไปอีกฝั่งด้วยความรวดเร็ว
“ ข้าจะฆ่ามันให้ได้!”
ในตอนนี้แม้กระทั่งสัตว์เดรัจฉานก็ยังกล้ารังแกเขาเช่นนี้!
ชายฉกรรจ์คนนั้นรู้สึกโมโหอย่างมาก และรีบวิ่งตามไปทันที!
ชายร่างผอมเงยหน้าขึ้นมามอง และกำลังจะวิ่งตามไป แต่ตอนนั้นเองเขากลับรู้สึกถึงพลังที่ยิ่งใหญ่ขวางเขาไว้จากทางด้านหลัง!
เขารู้สึกตกใจอย่างมาก ตอนที่กำลังจะต่อสู้ขัดขืน เขากลับรู้สึกเย็นวาบขึ้นที่หลังคอ
เลือดอุ่นๆ ไหลทะลักออกมา
ดวงตาของเขาเบิกกว้างขึ้น เขาอยากจะบิดลำคอที่แข็งค้างกลับไปมอง แต่กลับถูกคนผู้นั้นตรึงเอาไว้อย่างแน่นหนา
หลังจากนั้นไม่นานขาทั้งสองข้างของเขาก็อ่อนยวบ ลมหายใจก็ดับไปอย่างสงบ
…
“ ไอ้สัตว์เดรัจฉานตัวนั้นมันวิ่งเร็วมาก!”
หลังจากนั้นไม่นาน ชายฉกรรจ์คนนั้นก็เดินกลับมาด้วยสีหน้าโกรธเกรี้ยว
เดิมทีเขาคิดว่าจะฆ่าไอ้ตัวนั้นให้ตาย แต่คิดไม่ถึงว่ามันจะวิ่งเร็วขนาดนั้น เขาวิ่งตามไปสักระยะหนึ่ง ก็หมดแรงไปไม่น้อยแล้ว จึงไม่ได้ตามต่อ
สุดท้ายไอ้ตัวนั้นก็กระโดดหายไปต่อหน้าต่อตาเขา
เมื่อคิดได้ว่าทางนี้ยังมีธุระต้องทำ สุดท้ายเขาก็ต้องกัดฟันเดินกลับมา
”ถ้าเป็นหนึ่งปีที่แล้วนะ…ตอนนี้ข้าไม่มีทางตกต่ำถึงขนาดถูกสัตว์เดรัจฉานรังแกเยี่ยงนี้หรอก!”
เขาสบถด่าเสียงต่ำ จากนั้นก็เห็นว่าชายรูปร่างผอมนั้นยังยืนอยู่ที่เดิม พร้อมก้มหน้าก้มตา
เขาจึงโบกมือไปมาอย่างหงุดหงิด
“รีบไปกันเถิด! ถ้าไปสายแล้วจะถูกลงโทษได้!”
ชายร่างผอมเดินตามเขา เข้าประตูด้านหลังของจวนตระกูลเจียง
…
“ใต้เท้าซุนฉี”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...