หรงซิวเหมือนถูกขาย “…”
เมื่ออยู่ต่อหน้าผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกที่กระตือรือร้นเช่นนี้ นางก็รู้สึกหนักใจเล็กน้อย แล้วกระแอมไอหนึ่งครั้ง พร้อมพูดขึ้นว่า “ขอบคุณผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกมากเจ้าค่ะ ข้าขอน้อมรับความเมตตาของท่านไว้เพียงน้ำใจก็พอ สิ่งของเหล่านี้ล้วนล้ำค่าเกินไป…”
“เจ้าเลือกสักอันสิ! เลือกเลย!”
ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกพูดเร่งเร้า
“ของเล็กๆ เหล่านี้นับเป็นของล้ำค่าที่ใดกัน? หลังจากนี้ข้าจะมอบให้มากกว่านี้อีก!”
ฉู่หลิวเยว่ “…”
ของเล็กๆ …
เมื่อครู่เขาเพิ่งบอกว่านี่เป็นเคล็ดวิชาระดับตี้ไม่ใช่หรือ?
ตอนนี้ผู้แข็งแกร่งระดับสูงสุดเขาใจกว้างกันขนาดนี้เลยหรือ?
ฉู่หลิวเยว่คิดจะปฏิเสธอีก แต่หรงซิวกลับเดินขึ้นมา พร้อมกวาดสายตาไปยังกล่องหยกเหล่านั้น จากนั้นก็เลือกขึ้นมาชิ้นหนึ่งแล้วยื่นให้ฉู่หลิวเยว่
“นี่คือน้ำใจของผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหก เจ้ารับไปเถิด”
และด้วยนิสัยของเขาแล้ว เขาอาจจะเขามาวอแวกับฉู่หลิวเยว่เพราะเรื่องนี้นานกว่าครึ่งเดือนอย่างแน่นอน
ฉู่หลิวเยว่ลังเลอยู่ครู่ แต่ต้องรับกล่องหยกนั้นมาอย่างจำใจ
“ขอบคุณผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกเจ้าค่ะ”
ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกมองไปที่กล่องหยกใบนั้น แววตาของเขาก็เปล่งประกายขึ้นมา จากนั้นก็มองไปยังหรงซิว ก่อนจะหัวเราะขึ้นมา
“เจ้าเด็กนี่เลือกเป็นจริงๆ เลย ข้าจะมอบของให้ฉู่หลิวเยว่ เจ้าก็ยังไม่ลืมที่จะเข้ามามีส่วนร่วม?”
ฉู่หลิวเยว่มองไปยังทั้งสองคนอย่างไม่เข้าใจ
หรงซิวหัวเราะขึ้น
“แค่ถือโอกาสเท่านั้นเอง”
เมื่อพูดจบ เขาก็หยิบกล่องหยกอีกกล่องมาจากในแหวนเฉียนคุนของตนเอง กล่องนั้นมีลักษณะเหมือนกล่องที่นางถืออยู่ทุกประการ จากนั้นเขาก็ส่งให้ฉู่หลิวเยว่
“ที่ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกมอบให้คือตอนต้น นี่คือตอนปลาย”
ฉู่หลิวเยว่รู้สึกสงสัยเล็กน้อย
เหตุใดเคล็ดวิชาหนึ่งถึงได้แบ่งออกเป็นตอนต้นตอนปลายล่ะ?
ทันใดนั้นเองแววตาของนางก็เบิกกว้างขึ้นเล็กน้อย
ช้าก่อน ม้วนตอนนี้เป็นเคล็ดวิชาระดับตี้ เช่นนั้นตอนปลาย…จะเป็นเคล็ดวิชาระดับเทียนหรือ?!
“หรงซิว ตอนปลาย…”
เหมือนเห็นว่านางสามารถคาดเดาอันใดบางอย่างออกแล้ว หรงซิวจึงยิ้มขึ้นมาเล็กน้อย
“เจ้าคือคู่หมั้นของข้า สิ่งของเหล่านี้ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกไม่สามารถมอบมันให้เจ้าได้ชั่วคราว แต่ข้าสามารถมอบให้ได้”
เป็นเช่นนั้นจริงๆ ด้วย!
ฉู่หลิวเยว่ยืนยันการคาดเดาในใจของตนเองทันที
เคล็ดวิชาตอนต้นและตอนปลายมารวมกัน ก็ต้องกลายเป็นเคล็ดวิชาระดับเทียนอย่างแน่นอน!
แต่ทว่าเมื่อครู่หรงซิวพูดว่าอันใดนะ
…แค่ถือโอกาสมอบให้?
ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกพูดอย่างอิจฉาว่า
“ฮึ เจ้าจะรังแกคนแก่เช่นข้า! รอพวกเจ้าแต่งงานกันก่อนเถิด ข้าจะมอบอันใดก็มอบให้ได้แล้ว! และคงไม่เหมือนถึงคราวเจ้าหรอก”
ฉู่หลิวเยว่ “…”
เรื่องเช่นนี้เป็นเรื่องที่น่าเปรียบเทียบและภูมิใจตรงที่ใดกัน…
บนโลกนี้มีผู้บำเพ็ญเพียรจำนวนมากที่ทั้งชีวิตนี้เขาอาจจะไม่ได้เห็นเคล็ดวิชาระดับเทียนเลย แต่คาดไม่ถึงว่าพวกเขาจะมอบเคล็ดวิชาเหล่านั้นให้นางง่ายๆ เช่นนี้…
อีกทั้งนางเพิ่งเลื่อนขั้นเป็นจอมยุทธ์ระดับห้ามาเท่านั้นเอง จากนั้นก็ได้รับของขวัญที่ล้ำค่าเช่นนี้มาเลยหรือ?
ฉู่หลิวเยว่มองหรงซิวอย่างสื่อความหมาย
ตอนนี้นางค่อนข้างมั่นใจแล้ว หลีอ๋อง ไม่สิ…โอรสสวรรค์เป็นคนที่ร่ำรวยมากจริงๆ
นางอุ้มกล่องหยกสองใบไว้ในอ้อมแขน แล้วครุ่นคิดอย่างเงียบๆ ว่า ที่แท้การกอดต้นขาทองคำก็เป็นเช่นนี้เอง
…มีความสุขมาก!
“โอ้! จริงสิ! ได้ยินหรงซิวพูดว่าเสี่ยวหลิวเยว่ยังเป็นปรมาจารย์ค่ายกลและเซียนหมอด้วยไม่ใช่หรือ? แม้ว่าข้าจะไม่ได้ผึกทั้งสองสายนั้น แต่ก็ได้สะสมของไว้ไม่น้อยเลย…”
ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหกพูดจบ ก็เทของลงมาอีกกอง แล้วค่อยๆ เลือก
“อืม…นี่เป็นค่ายกลระดับแปด อันนี้มอบให้เจ้า! อันนี้ก็ด้วย อันนี้ก็ให้เจ้า! เฮ้ นี่ดูเหมือนจะเป็นใบเทียบโอสถ ตอนแรกข้าเก็บได้จากตัวของเซียนหมอ เอาไป!”
ตอนแรกนางยังสามารถแสร้งทำเป็นสงบนิ่งได้ แต่ในที่สุดหนังตาของนางก็กระตุกอย่างแรง
นี่…นี่จะใจกว้างเกินไปหรือไม่?!
“ผู้อาวุโสหมิงที่สามสิบหก ของเหล่านี้มันล้ำค่ามากเกินไป ข้า…”
แต่หรงซิวกลับรับของเหล่านั้นมาทั้งหมดแล้ว โดยที่ไม่ยอมให้นางได้ปฏิเสธเลย
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...