ยอดหญิงลิขิตสวรรค์ นิยาย บท 675

ความจริงแล้วเรื่องนี้นางก็คาดเดาเรื่องนี้เอาไว้อยู่แล้ว

แต่นางรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยที่พวกเขาทั้งสองคนเลือกวันนั้น

ก็ในเมื่อนางจุดไฟเผาตัวเองในคืนวันนั้น ดูเหมือนว่าทั้งสองคนจะมีความรักลึกซึ้งกับนางมากทีเดียว

นางคิดว่าหลังจากที่นางตายไปแล้ว ด้วยอำนาจในมือของพวกเขาทั้งสอง พวกเขาจะหาข้ออ้างและวิธีการแต่งงานกันให้ได้เร็วที่สุด

สำหรับนางแล้วพวกเขาทั้งสองคือศัตรูที่ไม่สามารถอยู่ร่วมโลกกันได้

ส่วนเรื่องความสัมพันธ์ฉันน้องสาวและว่าที่คู่หมั้น…เรื่องแบบนั้นมันหายไปตั้งนานแล้ว

ดังนั้นเมื่อนางได้ยินข่าวนี้ในใจของนางจึงไม่มีความผันผวนใดๆ มีเพียงแค่อยากจะหัวเราะออกมาเท่านั้น

…ร่างกายของทั้งสองคนบาดเจ็บสาหัสขนาดนั้น แล้วยังต้องการจะแต่งงานกันในตอนนี้ มันเป็นแค่การแกว่งเท้าหาเสี้ยนเท่านั้น!

วันที่หกเดือนหก…

นับๆ ดูแล้ว เหลือเวลาประมาณสามเดือน

ความจริงแล้วระยะเวลาเช่นนี้ก็ไม่ถือว่านาน

นอกจากงานมหามงคลสมรสแล้ว ย่อมต้องมีงานบรมราชาภิเษกอย่างแน่นอน

เรื่องมากมายขนาดนี้ จำเป็นจะต้องใช้เวลาและแรงในการเตรียมตัวอย่างมากทีเดียว

เพียงแต่ไม่รู้ว่าเหตุใดทั้งสองคนจึงเลือกวันนี้…

แล้วอีกอย่างนี่เป็นงานมงคลสมรส ไม่ต้องสนใจเจียงอวี่เฉิง พูดถึงแค่ซั่งกวนหว่านก็พอ

คนหนึ่งเป็นไอ้ตัวขยะที่โดนทำลายชีพจรจะสามารถยกคทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่งได้อย่างใด?

หากในวันธรรมดาจะเสแสร้งปกปิดด้วยวิธีอันใดก็ช่างเถิด แต่เมื่อถึงวันมหามงคลสมรส อยู่ต่อหน้าขุนนางทั้งหลาย แล้วนางยกคทาอาญาสิทธิ์เทียนลิ่งไม่ขึ้นเล่า…

ฉากนั้นจะต้องงดงามอย่างแน่นอน!

เมื่อคิดได้ดังนั้นสีหน้าของฉู่หลิวเยว่ก็ดูตื่นเต้นขึ้นมาเล็กน้อย

“เหอะ”

นิสัยการชอบดูเรื่องราวสนุกๆ มันชักรุนแรงมากขึ้นเรื่อยๆ แล้ว

เมื่อเห็นสีหน้าฉู่หลิวเยว่ที่เปลี่ยนไป จนสุดท้ายก็มีรอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏขึ้นมา แววตาของหรงซิวจึงสว่างวาบเล็กน้อย รอยยิ้มมุมปากก็ลึกมากยิ่งขึ้น ก่อนจะเอนพิงพนักเก้าอี้อย่างเกียจคร้าน

ดูเหมือนว่าเขาไม่จำเป็นต้องกังวลเลยจริงๆ…

“ดีมากเลยนะ”

ฉู่หลิวเยว่หัวเราะขึ้น

“จักรพรรดิของราชวงศ์เทียนลิ่งบรรทมมาเป็นเวลานานกว่าสองปีแล้ว พวกเขาเป็นมังกรไม่มีหัวมาตลอด ตอนนี้ก็ถึงเวลาที่จะต้องแก้ไขปัญหานี้แล้ว”

แต่ว่าจะสามารถแก้ไขปัญหานี้ได้จริงๆ หรือไม่ ก็เป็นอีกเรื่องหนึ่ง

ในเมื่อซั่งกวนหว่านกล้าทำเช่นนี้ แสดงว่านางจะต้องมีแผนการรับมืออย่างแน่นอน

หลังจากนั้นหรงซิวก็พูดต่อว่า

“นอกจากนี้ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง องค์หญิงสามพูดว่า ตอนนี้ฝ่าบาทสลบไสลมาเป็นระยะเวลานานแล้ว จึงจำเป็นที่ต้องหาสมุนไพรชนิดพิเศษหลากชนิด รวมถึงเลือดของอสูรศักดิ์สิทธิ์ ถึงจะสามารถปลุกฝ่าบาทได้ ดังนั้นนางจึงวางแผนว่าจะไปที่แดนภังคะด้วยตนเอง”

ครั้งนี้ฉู่หลิวเยว่ตกใจจริงๆ

“แดนภังคะ?”

ที่แห่งนั้นอยู่ที่ชายแดนตะวันตกของซีหลิง มันห่างไกลอย่างมาก และสภาพแวดล้อมเลวร้าย ซั่งกวนหว่านคิดอันใดอยู่ถึงไปที่นั่นด้วยตนเอง?

ตอนแรกที่มู่ชิงเห่อเข้าร่วมกองทัพทหารม้าทมิฬ เขาก็ได้ทำสงครามที่แดนภังคะ สุดท้ายกว่าจะสามารถปราบกบฏก็ยากลำบากอย่างมาก จึงทำให้เขามีตำแหน่งจวบจนทุกวันนี้

เป็นความโหดร้ายที่สามารถจินตนาการได้

ชาติที่แล้วฉู่หลิวเยว่ก็เคยไปแดนภังคะ

แม้ว่าจะไม่ได้ลึกลับและอันตรายเท่าชายแดนใต้ แต่เมื่อเทียบกับที่อื่นแล้ว แดนภังคะก็นับว่าอันตรายมากอยู่ดี

ป่าหมอกมายา ทะเลสาบกระจก ทะเลทรายจันทราสีชาด…

แม้แต่นางก็ยังตกอยู่ในอันตรายหลายครั้ง

แต่ด้วยสถานการณ์ของซั่งกวนหว่านในตอนนี้ คาดไม่ถึงว่านางจะกล้าไปที่นั่น?

ฉู่หลิวเยว่ครุ่นคิดอยู่สักพัก

“นางพาผู้อาวุโสของราชวงศ์ไปด้วยหรือไม่?”

“ยังมีทหารม้าทมิฬหนึ่งพันนาย ถ้าได้ยินมาไม่ผิดละก็ มู่ชิงเห่อเป็นคนนำทัพไป”

หรงซิวลูบถ้วยชาด้วยท่าทีสงบ

“แล้วอีกอย่าง นางตั้งใจให้แปดสำนักจากงานประชุมสำนัก สำนักละสิบคนเดินทางไปพร้อมกันได้ โดยบอกว่า..ให้โอกาสการฝึกฝน ได้ยินมาว่าจะเริ่มคัดเลือกกันวันนี้แล้ว และออกเดินทางอีกสามวันให้หลัง”

ฉู่หลิวเยว่เกือบจะหัวเราะออกมาแล้ว

ให้โอกาสในการฝึกฝน?

คาดไม่ถึงว่าคำพูดแบบนี้ซั่งกวนหว่านก็สามารถพูดออกมาได้?!

แดนภังคะอันตรายขนาดนั้น มีคนไปแล้วไม่ได้กลับมาตั้งเท่าไร!

นางพาผู้อาวุโสของราชวงศ์และทหารม้าทมิฬก็ดี แต่กลับยังเลือกศิษย์จากสี่สำนักใหญ่นั้น…

บทที่ 675 ไปกับเจ้า 1

บทที่ 675 ไปกับเจ้า 2

Verify captcha to read the content.ตรวจสอบแคปช่าเพื่ออ่านเนื้อหา

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์