นางยังไม่ทันได้ทำอันใดด้วยซ้ำ แต่สองคนนี้ก็แตกหักกันเองเสียแล้ว
ความเจ็บปวดจากการถูกหักหลังอย่างเลือดเย็น ที่นางเคยได้รับในตอนนั้น บัดนี้ ถึงเวลาที่พวกเขาจะได้ลิ้มรสมันบ้างแล้ว
ฉู่หลิวเยว่ปัดปอยผมระแก้มไปทัดไว้หลังใบหู ราวกับว่านางกำลังจะดูละครเรื่องหนึ่ง
หากเป็นคนอื่น พวกเขาคงแทบอยากจะหนีออกไปทันทีที่เห็นฉากนี้
เพราะท้ายที่สุด สองคนที่กำลังฉะกันอยู่นั้น ก็เป็นถึงองค์หญิงสามผู้สูงศักดิ์ และอีกคนก็คือเจียงอวี่เฉิง ผู้มีอำนาจเหนือสามัญชนทั่วไป
ซึ่งใครก็ตามที่ยุ่งเกี่ยวกับสองคนนี้ ก็เกรงว่าจะมีแต่นำปัญหามากมายมาสู่ตัว
ยิ่งรู้มากก็ยิ่งอันตราย
ทว่าฉู่หลิวเยว่นั้นต่างออกไป
สองคนนี้เป็นศัตรูเก่าของนาง ฉะนั้น ไม่มีอันใดที่สามารถทำให้นางมีความสุข ได้มากกว่าการเห็นสองคนนี้ทะเลาะกันอีกแล้ว!
แล้วนางจักต้องกลัวอันใดอีก?
ที่ควรจะกลัวน่ะ เป็นสองคนนั้นต่างหากถึงจะถูก!
แรงตบครั้งที่สองของเจียงอวี่เฉิงทำเอาซั่งกวนหว่านตาพร่ามองเห็นดาวไปชั่วขณะ กลิ่นเลือดรุนแรงโชยออกมาระหว่างริมฝีปากและฟันของนางในทันที!
แต่คราวนี้นางดึงสติกลับมาได้แล้วเล็กน้อย
…ฉู่หลิวเยว่ยังยืนอยู่ด้านข้างไม่ไปไหน!
ถ้าเมื่อครู่นางพ่นความจริงทุกอย่างออกไปจริงๆ ล่ะก็… เกรงว่าผลที่ตามมาคงร้ายแรงกว่าที่คิดเสียอีก!
ซั่งกวนหว่านยกมือปิดหน้าของตน ในใจนางรู้สึกหวาดกลัวอย่างมาก ความเสียใจเอ่อล้นขึ้นในดวงตาของนาง
เจียงอวี่เฉิงมองนางอย่างเหยียดหยาม เขาล่ะอยากจะฆ่านางเสียจริง!
ซั่งกวนหว่านเป็นคนหุนหันพลันแล่น ประมาท เย่อหยิ่งและเอาแต่ใจตัวเองเสมอ แต่ในช่วงสองปีที่ผ่านมา ทุกอย่างกลับแย่ลง และอารมณ์ของนางก็แย่ลงเรื่อยๆ เช่นกัน
เขาอดทนมาตลอด แต่ไม่คิดว่านางจะเสียสติได้ถึงเพียงนี้!
ถ้าเมื่อครู่เขาหยุดนางไว้ไม่ทันล่ะก็ นางคงโพนทะนาออกไปหมดแล้ว ว่าในอดีตพวกเขาทำอันใดลงไปบ้าง!
แม้ว่าเจียงอวี่เฉิงจะชอบพอในตัวฉู่หลิวเยว่เพียงใด แต่เขาก็ไม่เคยคิดที่จะบอกเรื่องนี้กับนาง!
มีคนจำนวนมากที่เกี่ยวข้องกับความลับนี้ หากพวกเขาไม่ระวัง พวกเขาทั้งหมดได้คอหลุดจากบ่าแน่นอน!
ทว่าซั่งกวนหว่านเกือบจะสารภาพเรื่องทั้งหมดนั้นออกไปแล้ว!
“ทหาร!”
เจียงอวี่เฉิงตะโกนเสียงแข็งกร้าว
ทันใดนั้นก็มีบุรุษสองคนพุ่งตัวออกมาจากเงามืด แล้วคุกเข่าลงข้างหนึ่ง
“คารวะคุณชายใหญ่ขอรับ!”
“องค์หญิงสามหมดสติไปชั่วขณะ และจำต้องนอนพักฟื้น พวกเจ้ารีบไปเตรียมรถม้าให้เร็วที่สุด แล้วพาองค์หญิงสามกลับวังไปพร้อมกับข้า”
“ขอรับ!”
ทหารยามทั้งสองไม่กล้าพูดอันใดมาก พวกเขาเพียงทำตามคำสั่งของเจียงอวี่เฉิงเท่านั้น
เดิมทีซั่งกวนหว่านต้องการพูดอันใดบางอย่าง แต่เจียงอวี่เฉิงกลับคว้าข้อมือของนางไว้ แล้วดึงเธอขึ้นจากพื้น
นางถอยหลังออกไปนิดหน่อยเพราะความกลัว
สายตาของเจียงอวี่เฉิงในตอนนี้… มันช่างน่ากลัวเหลือเกิน!
นอกจากนี้ เมื่อนางนึกถึงเรื่องที่เจียงอวี่เฉิงแอบรักซั่งกวนเยว่มานานนับสิบปี และปัจจุบันเขาก็ไม่เคยลืมความรู้สึกนั้น ในใจนางก็พลันรู้สึกขยะแขยงราวกลืนแมลงวันเข้าไปเสียอย่างนั้น!
“หว่านเออร์”
เจียงอวี่เฉิงออกแรงบีบข้อมือบางของนางที่ทำท่าจะสะบัดออก พลางใช้สายตาเตือนนางกลายๆ ทว่าน้ำเสียงของเขากลับฟังดูอ่อนโยนขัดกับการกระทำอย่างมาก
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ยอดหญิงลิขิตสวรรค์
สนุกมากค่ะ...
อ่านสนุกมากค่ะ ติดตามอ่านทุกตอน...